“พรรคกล้า” ถกยุทธศาสตร์ภาคใต้ “ผู้การชาติ” มั่นใจแจ้งเกิดได้หลายพื้นที่

“พรรคกล้า” ถกยุทธศาสตร์ภาคใต้ “ผู้การชาติ” มั่นใจแจ้งเกิดได้หลายพื้นที่

“พรรคกล้า” คิกออฟประชุมยุทธศาสตร์ภาคใต้ “ผู้การชาติ” มั่นใจแจ้งเกิดได้หลายพื้นที่ ชู “กรณ์” เหมาะนั่งนายกฯ พลิกฟื้นเศรษฐกิจด้ามขวาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2564 ที่พรรคกล้า โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า นายวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรค นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคกล้า ร่วมประชุมยุทธศาสตร์พรรคกล้าภาคใต้โดยมีผู้ที่เสนอตัวสมัครเป็นสมาชิกผู้แทนราษฎรเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

“พรรคกล้า” ถกยุทธศาสตร์ภาคใต้ “ผู้การชาติ” มั่นใจแจ้งเกิดได้หลายพื้นที่

นายกรณ์ กล่าวว่า ชุมพรเป็นเมืองแห่งโอกาส เป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่จุดยุทธศาสตร์สำคัญของภาคใต้ เป็นดินแดนแห่งความอุดมสมบูรณ์ ของภาคเกษตรกรรม และแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่สิ่งที่ขาดหายไปตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือ การบริหารจัดการที่ดี ถึงเวลาแล้วที่ ชุมพรจะได้ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ พร้อมเสียสละ มีความมุ่งมั่น ทำงานแก้ปัญหา สร้างโอกาสในการทำมาหากินให้กับพี่น้องประชาชน และไม่เพียงแต่ จ.ชุมพร เท่านั้น ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา พวกเราผลัดเปลี่ยนกันลงพื้นที่จังหวัดภาคใต้ครบทุกจังหวัด สิ่งที่เราพบคือศักยภาพและโอกาสของแต่ละพื้นที่ มีประชาชนจำนวนมากที่เบื่อหน่ายการเมืองแบบเก่า และต้องการเห็นการเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทางสร้างสรรค์ ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศชาติอย่างแท้จริง 

นายกรณ์ กล่าวอีกว่า ผลผลิตทางการเกษตรของชุมพรมีมากมาย ทั้ง ปาล์ม ยางพารา ผลไม้หลากหลายชนิด  รวมถึงพืชเศรษฐกิจใหม่อย่างกระท่อม กาแฟ ซึ่งเป็นผลผลิตจากวิสาหกิจชุมชน รวมถึงการแปรรูปผลไม้เพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรได้มีรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สำหรับพรรคกล้า การเมืองไม่ใช่แค่การประดิษฐ์ วาทะกรรมหรือเสนอประเด็นความขัดแย้ง แต่เราเน้นเรื่องปากท้องและโอกาสของประชาชนเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งเป็นนิยามของพรรคกล้ามาตั้งแต่เริ่มต้น ดังนั้น ในฐานะหัวหน้าพรรค อยากเชิญชวนพี่น้องประชาชนให้มามีความหวังอีกครั้งกับการช่วยกัน สนับสนุนพรรคการเมืองที่ทำงานสร้างสรรค์ มีเป้าหมายในการสร้างโอกาสให้กับลูกหลานของเรา ด้วยการสนับสนุนพรรคกล้า เรามาประชุมยุทธศาสตร์ภาคใต้ ไม่เป็นเพียงแต่การพูดคุยเรื่องยุทธศาสตร์การเมืองที่ทำให้เราแข่งขันได้เท่านั้น หากแต่พูดถึงด้านนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจและโอกาสพี่น้องชาวใต้ด้วย ทั้งนี้เพราะเราได้เห็นอย่างชัดแจ้งแล้วว่าการเมืองที่ผ่านมา ไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวว่า การได้ พ.อ.สุชาติ มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่พรรคกล้ายังขาดและสำคัญที่สุดคือ มีอุดมการณ์และ ดีเอ็นเอเดียวกันคือยึดมั่นต่อสถาบันหลัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เชื่อมั่นในระบบประชาธิปไตย และยึดหลักปฏิบัตินิยมในการทำงาน โดยการทำงานลงพื้นที่มาโดยตลอด ลงมือทำร่วมกับทีมงานนักปฏิบัติและนักวิชาการท้องถิ่น ลงลึกในระดับชุมชน คลุกคลีกับชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างมากว่า 40 ปี
.
“ผู้การชาติ เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าทุกวันนี้ ภาคใต้เสียโอกาสทางเศรษฐกิจไปมากแค่ไหน เราจะมาร่วมกันลงมือทำ ยกระดับภารกิจที่สำคัญที่สุดของพรรคกล้า นั่นคือการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก และ ผู้การชาติจะมาชี้เป้าให้เราขยายผลสู่ เศรษฐกิจฐานราก ทุกระดับ ทุกชุมชน” นายกรณ์ กล่าว 

“พรรคกล้า” ถกยุทธศาสตร์ภาคใต้ “ผู้การชาติ” มั่นใจแจ้งเกิดได้หลายพื้นที่

พ.อ. สุชาติ กล่าวแสดงความมั่นใจว่า จากการทำงานในพื้นที่อยู่กับสังคมชนบทยากจนมาอย่างยาวนาน ผ่านการทำงานร่วมกับพรรคการเมืองมาหลายพรรคและหลายผู้บริหาร มองว่านายกรณ์ เป็นบุคคลที่เป็นเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย

นอกจากนี้ภาคใต้ยังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจไปได้อีกมาก ซึ่งตนได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ

1.ภาคใต้ตอนบน ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ก็เป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ

2. ภาคใต้กลุ่มเศรษฐกิจอันดามัน ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ตรัง และสตูล

3. กลุ่มอ่าวไทยและชายแดนใต้ ได้แก่ พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส

ทุกกลุ่ม ล้วนแต่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ต้องการพัฒนา ทั้งนี้ สิ่งที่ประชาชนคนภาคใต้อยากเห็นคือ ยุทธศาสตร์ด้านนโยบายที่ฟันธงเรื่องการช่วยเหลือพืชเศรษฐกิจ  ฟื้นฟูการทองเที่ยว การศึกษา ส่งเสริมอาชีพด้านการเกษตร กีฬา และความมั่นคงทางอาชีพ ถ้าทำจริงเรื่องพวกนี้ได้ ก็มั่นใจพรรคกล้าได้เกิดในภาคใต้อย่างแน่นอน  

ขณะที่นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า พรรคกล้าย้ำมาแต่แรกว่าเราคือพรรคแห่ง 'แพลตฟอร์ม' รวมพลคนทุกวัย หลากหลายอาชีพและประสบการณ์ และเกือบทุกคนไม่เคยเป็นนักการเมือง แต่มีอุดมการณ์เดียวกันคืออยากเห็นการเปลี่ยนแปลง และเชื่อมั่นว่า เมื่อมีความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จังหวัดชุมพร และ เขต 6 จังหวัดสงขลา พรรคกล้าเองก็มีสิทธิที่จะได้รับการเลือกตั้ง 

ด้านนายวรวุฒิ มองว่า ชุมพร เป็นเหมือนเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน มีของดีมากมาย ทั้งพืชผัก ผลไม้ สินค้าชุมชน ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อาหารอร่อย แต่ขาดการบริหารจัดการ จึงทำให้เป็นได้แค่เมืองผ่าน จึงขอเสนอให้ เสนอให้ชุมพรเป็นฮับการกระจายสินค้าลงสู่ภาคใต้ และส่งสินค้าต่อไปยังภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศ จะสามารถสร้างรายได้อีกมหาศาล