"สุดารัตน์"เล็งตั้ง"กองทุนคนตัวเล็ก" ช่วยแก้ปัญหา คนมีหนี้นอกระบบ

"สุดารัตน์"เล็งตั้ง"กองทุนคนตัวเล็ก" ช่วยแก้ปัญหา คนมีหนี้นอกระบบ

"สุดารัตน์" โชว์วิชั่น เดินหน้า "ไทยสร้างไทย" เพื่อคนตัวเล็ก ไม่รับใช้เผด็จการ สืบทอดอำนาจ เตรียม จัดคาราวาน 77 จว. ฟังเสียงปชช. เปลี่ยนประเทศ สร้างสภาหมู่บ้าน โล๊ะกม.ล้าสมัย เล็งตั้ง "กองทุนคนตัวเล็ก" ช่วยเสริมสภาพคล่อง คนมีหนี้นอกระบบ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ในงาน “ท้าเปลี่ยนประเทศไทย 2565” โดยมีนักการเมือง และประชาชนทุกช่วงวัยให้ความสนใจอย่างคึกคัก ณ ห้องประชุมใหญ่ข่าวสดมติชน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยก่อกำเนิดขึ้นเพื่อเป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมือง ที่ประชาชนเป็นเจ้าของไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่จะเป็นพื้นที่สำหรับคนทุกช่วงวัย เข้ามาทำงานเพื่อคนตัวเล็กที่ถูกกดทับจาก “รัฐราชการอำนาจนิยม” และที่สำคัญพรรคไทยสร้างไทย มีจุดยืนจะไม่รับใช้การสืบทอดอำนาจเผด็จการ

“ผู้นำที่ดีต้องรับฟังประชาชนในแต่ละพื้นที่ว่าต้องการอะไร แล้วนำมาแปรเปลี่ยนเป็นนโยบายที่สอดคล้องในแต่ละพื้นที่ โดย “ไทยสร้างไทย”เตรียมจัดคาราวานสร้างไทย เพื่อฟังเสียงของประชาชนทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ การที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้ ต้องเริ่มจากการ “ปลดปล่อย” (Liberate) ประชาชนจากพันธนาการของรัฐราชการ และ “สร้างอำนาจ” (Empower) ให้กับประชาชนโดยเฉพาะคนตัวเล็ก สร้างสภาหมู่บ้าน ในการมีอำนาจตัดสินใจการพัฒนาชุมชน เพื่อขจัดอุปสรรคที่ขัดขวางการทำมาหากินโดยสุจริตของประชาชน และต้องร่วมกันผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริง และต้องมีบทบัญญัติที่ถือว่าการรัฐประหารล้มล้างรัฐธรรมนูญ ต้องไม่ได้รับนิรโทษกรรม และต้องมุ่งมั่นเปลี่ยนรัฐราชการที่กดหัวประชาชน เป็นรัฐประชาชนที่บริการประชาชน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า พรรคไทยสร้างไทยได้ยกร่างกฎหมายหลักที่จำเป็นเพื่อ “การปลดปล่อยและสร้างอำนาจ“ ให้กับประชาชนอย่างเป็นระบบ โดยร่างกฎหมายเกี่ยวกับการพักใช้กฎหมายเกี่ยวกับการอนุมัติ อนุญาตไว้ชั่วคราว ประมาณ 1,500 กว่าฉบับเป็นเวลา 3 ปี คงเหลือแต่กฎหมายที่จำเป็นและส่งผลกระทบต่อประชาชนให้ไม่เกิน 100 ฉบับ เพื่อให้ประชาชนทำมาหากินได้ โดยไม่ต้องรอการอนุมัติ รอการอนุญาตที่ล่าช้า ซึ่งหลายเรื่องเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและจะกิโยตินกฎหมายที่ล้าสมัยควบคู่กันไป

“ไทยสร้างไทย” ให้ความสำคัญกับประชาชน “คนตัวเล็ก” ได้เข้าถึงแหล่งทุนอย่าง SMEsกว่า 3 ล้านราย ซึ่งจ้างงานกว่า 13 ล้านคน สร้าง GDP ถึง 35 % แต่เข้าถึงแหล่งทุน ในระบบธนาคารเพียง 10 % เท่านั้น พรรคไทยสร้างไทยจะสร้าง “กองทุนSMEs”  เพื่อให้ SMEs อีก 90% เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งกองทุน Start Up เพื่อให้โอกาสคนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสตั้งตัว,กองทุนธุรกิจท่องเที่ยว ที่มีคนเกี่ยวข้องหลายสิบล้านคน อีกทั้งธุรกิจท่องเที่ยวยังสร้างรายได้15% ของ GDP  ,กองทุนวิสาหกิจชุมชน เพื่อโอกาสของเกษตรกรและลูกหลานเกษตรกรได้มีทุนทำธุรกิจบนพื้นที่และภูมิปัญญาของตัวเอง ทั้งการแปรรูปสินค้าการต่อยอด OTOP

และที่สำคัญคือ “กองทุนคนตัวเล็ก” ที่ขณะนี้มีหนี้ครัวเรือนสูงถึง 90 % ของ GDP กำลังขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ต้องกู้เงินนอกระบบ โดยคนตัวเล็กในกลุ่มนี้มีสูงถึง 36 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยไม่ถึง 20,000 บาท ต่อเดือน 8 ล้านคน ผู้ไม่มีหลักฐานแสดงรายได้  อีก 28 ล้านคน 

นอกจากต้องเผชิญกับวิกฤติภายในประเทศแล้ว ไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติของโลกอีกด้วย ทั้งวิกฤติโรคระบาด วิกฤติเทคโนโลยี และวิกฤติสิ่งแวดล้อม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยลดลง

ดังนั้น ต้องพลิกวิกฤติเหล่านี้ ให้เป็นโอกาสของประเทศไทย เพื่อแสวงหาฐานรายได้ใหม่ “ไทยสร้างไทย” จะสร้างประเทศไทยให้มีพื้นฐานที่แข็งแกร่งกว่าเดิม เพราะไทยมีความสามารถที่จะเป็น “ศูนย์กลางอาหารปลอดภัย”  ป้อนขายคนทั้วโลก “ศูนย์กลางสุขภาพ Spa and Wellness” และ“ศูนย์กลางการท่องเที่ยว”

รวมถึงเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากความได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์ ที่เชื่อมสู่ทั่วโลกระหว่างตะวันออกและตะวันตก ทั้งทางบก ทั้งทางเรือ และทั้งทางอากาศ โดยเชื่อมทั้งมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก

ดังนั้น การสร้างรถไฟความเร็วสูงทางคู่ทั่วประเทศ กับเขตเศรษฐกิจพิเศษ จึงมีความเป็นจำเป็นและจะหนุนนำให้ประเทศไทยเป็น Inland Hub ในภูมิภาคเอเชียได้

นอกจากนี้ ต้องเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล(Digital Economy) และเศรษฐกิจสร้างสรรค์(Creative Economy) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain AR VR IOT และอื่นๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทย