นายกฯสั่งรับมือพายุ “ไลออนร็อก-คมปาซุ” เร่งเยียวยาผลกระทบ“เตี้ยนหมู่”

นายกฯสั่งรับมือพายุ “ไลออนร็อก-คมปาซุ”  เร่งเยียวยาผลกระทบ“เตี้ยนหมู่”

นายกฯ หวั่นพายุ 2 ลูกซ้ำชาวบ้าน สั่งกองทัพเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เสริมและกระจายกำลังลงช่วยลดอันตรายและความเสียหาย

พลเอก คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พบเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กำชับทุกเหล่าทัพ ให้คงกำลังสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นจากพายุ “เตี้ยนหมู่” ในพื้นที่ต่างๆกว่า 30 จังหวัดต่อเนื่องกันไปจนถึงขั้นฟื้นฟู

ขณะเดียวกันให้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่านและผลกระทบจากพายุโซนร้อน “ไลออนร็อก” และ “คมปาซุ” โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัย จากฝนตกสะสมต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยให้เสริมกำลังหมุนเวียนร่วมกับจิตอาสาและเครื่องมือช่างกระจายลงพื้นที่เข้าช่วยประชาชนให้ทั่วถึง เพื่อลดอันตรายและความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ขอให้ใช้สะพานทหารเข้าช่วยดำรงไม่ให้เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท

อ่านข่าว : "กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศฉบับที่ 16 เตือนภัยพายุโซนร้อน "ไลออนร็อก"

ทั้งนี้ ตั้งแต่ 23 ก.ย. 64 จนถึงปัจจุบัน ทุกเหล่าทัพยังคงกระจายกำลังลงพื้นที่ สนับสนุนให้การช่วยเหลือประชาชนจากอุทกภัย พายุโซนร้อน เตี้ยนหมู่ ที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง 33 จังหวัด โดยได้จัดกำลังพลหมุนเวียนกว่า 10,000 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือช่าง ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือกู้ภัยเร่งด่วน

ทั้งการอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของ แจกจ่ายอาหาร สิ่งของบรรเทาทุกข์และการรักษาพยาบาล ติดตั้งสะพาน และยานพาหนะอำนวยความสะดวกการเดินทาง จัดทำพนังกั้นน้ำด้วยกระสอบทราย และใช้เครื่องจักรเปิดทางระบายน้ำ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เรือผลักดันนำ้ รวมทั้งกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อลดระดับน้ำและความเสียหายในพื้นที่ให้มากที่สุด

สำหรับสถานการณ์ใน 16 จังหวัดที่คลี่คลายแล้ว กองทัพยังคงกำลังทหารในพื้นที่ สนับสนุนการช่วยเหลือ กำจัดซากปรักหักพัง รวมทั้งขนย้ายสิ่งของประชาชนที่ได้รับผลกระทบกลับเข้าบ้านเรือน ดูแลทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ โรงเรียน วัดและสถานพยาบาลต่อเนื่องกันไป พร้อมประสานทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ติดตามเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย จากผลกระทบจากพายุที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไป เพื่อลดความเสียหายและผลกระทบกับประชาชนในวงกว้างต่อไป