'ฝ่ายค้าน' จี้ ลดงบ 'มั่นคง-ซื้ออาวุธ' หวังใช้แทน เงินกู้5แสนล้าน

'ฝ่ายค้าน' จี้ ลดงบ 'มั่นคง-ซื้ออาวุธ' หวังใช้แทน เงินกู้5แสนล้าน

ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ไม่เห็นด้วย กู้เงินอีก 5 แสนล้าน เพื่อแก้โควิด-ฟื้นฟูเศรษฐกิจ แนะลดงบ ฝ่ายมั่นคง-ซื้ออาวุธ เพื่อทดแทน จี้ รัฐบาลถอน ร่างพ.ร.บ.งบฯ65 - นายกฯ ลาออก

       ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ วาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรก   ในฝั่งของฝ่ายค้าน ได้ย้ำถึงการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาประเทศ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการกู้เงิน ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 5แสนล้านบาท 
        โดย นายไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย   อภิปรายต่อที่ว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม  เข้ามาบริหารประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 และเข้ามาจัดทำงบประมาณ ตั้งแต่ปี 2558 และพบว่าจัดงบประมาณแบบขาดดุลทุกปี ทำให้ต้องกู้เงินเพื่อชดเชย โดยมีตัวเลขที่กู้เพื่อชดเชยรวมกัน  20.8 ล้านล้านบาท และเมื่อรวมกับ พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท  จะมียอดเงินกู้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ตนมองว่ารัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ กู้เงินเกินกรอบความยั่งยืนการคลังและกระทบต่อการจัดสรรงบประมาณในปีต่อไป  อีกทั้งตนเชื่อว่ารัฐบาลมีแนวโน้มจะใช้วิธีเพื่อกู้เงินชดเชยขาดดุลงบประมาณสูงขึ้นต่อเนื่อง
         “รัฐบาล เก่งใช้เงิน แต่ประสิทธิภาพต่ำ นับตั้งแต่ที่พล.อ.ประยุทธ์เข้ามา บริหารประเทศ พบการขยายตัวทางเศรษฐกิจอัตราต่ำ  ทั้งนี้การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลก จากไอเอ็มเอฟ ขยายตัว 5.5% และธนาคารโลก คาดการขยายตัว 4%  ขณะที่เศรษฐกิจของไทย ขยายตัวไม่ถึง 2% หากไม่สามารถแก้ปัญหาโควิดได้ ตัวเลขที่ประมาณการณ์จะต่ำลง 2% ดังนั้นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่อง 7 ปี และมีกู้เงินเชื่อว่าจำทำให้เกิดภาระทางงบประมาณ และก่อหนี้สาธารณะต่อจีดีพี มากถึง 8.47 ล้านล้าน และจะขยับ 9 ล้านล้านบาทได้  ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ บริหารเศรษฐกิจแบบพังพินาศ” นายไชยา อภิปราย

       นายไชยา อภิปรายด้วยว่า หลังจากที่สภาฯ พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ65 แล้วเสร็จ จะพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท  ถือว่าเป็นสิ่งที่ชี้ว่ารัฐบาลหมดหน้าตัก อย่างไรก็ดีตนมองว่ารัฐบาลไม่จำเป็นต้องกู้เงินเพิ่มเติมเพื่อใช้กับงานด้านสาธารณะสุข เพื่อป้องกันโควิด-19  จำนวน 3หมื่นล้านบาท หากปรับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 65 ด้วยการลดงบประมาณรายจ่าย ด้านความมั่นคง และการทหาร เช่น ตัดรายการจ่ายเงินเพื่อซื้อรถถัง  เรือดำน้ำ โดยเจรจากับประเทศคู่ค้า เพื่อขอจ่ายเงินล่าช้า เพื่อนำงบประมาณมาใช้กับการแก้ปัญหาโควิด-19 ขณะนี้ส่วนของกู้เงิน เพื่อฟื้นฟู 1.7 แสนล้านบาท ตนสนับสนุนให้ใช้ในส่วน 3หมื่นล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
         “ผมฝากถามนายกรัฐมนตรี ว่า งบกลางที่ตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2563 - 2564 และ ปี 2565 ขอตรวจสอบได้หรือไม่ ว่า นำไปจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 จริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาตรวจสอบไม่ได้ รัฐบาลนี้ทำลายกรอบวินัยการเงินการคลังและความยั่งยืนทางการคลังของประเทศ” นายไชยา อภิปราย
        ขณะที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายด้วยว่าไม่จำเป็นต้องกู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท หากปรับโครงสร้างของการจัดสรรงบประมาณในส่วนที่บิดเบี้ยว ในยุทธศาสตร์ความมั่นคง อย่างไรก็ดีในปี 2565 พบงบประมาณที่ถูกตัด พบว่า จัดสรรเพื่อใช้หนี้ให้กับธนาคารของรัฐ จำนวน  9หมื่นล้านบาท, หนี้สาธารระ 2.9 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังพบว่ามีงบเพื่อจัดสวัสดิการข้าราชการเพิ่มขึ้น กว่า 1.2หมื่นล้านบาท หากไม่แก้ไขจะทำให้งบประมาณส่วนอื่นถูกเบียดบัง ทั้งนี้ในปี 2565 พบว่า มีงบประะมาณที่หายไปรวมกว่า 3 แสนล้านบาท โดยพบว่างบประมาณด้านสวัสดิการสังคม เพื่อประชาชน ถูกลดลงจำนวนมาก
        "รัฐบาลอย่ากอดกฎหมาย อย่ากอดยุทธศาสตร์ชาติ  เพราะไม่สอดคล้องกับสถานการณ์และวิกฤตของประเทศ แม้แผนยุทธศาสตร์จะถูกแก้ไข แต่พบการกำหนดแผนแม่บทเฉพาะกิจเพิ่มเติม ทั้งนี้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำหนด ให้ดำเนินการ 250 โครงการ แต่การจัดสรรงบประมาณ ในร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 ไม่พบการจัดสรรงบประมาณเพื่อปฏิบัติตามแผนแม่บทเฉพาะกิจ หากไม่จัดงบจะเสียเวลาทำแผนแม่บททำไม อย่างไรก็ดีขอให้รัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.งบฯ65 และขอให้นายกรัฐมนตรีลาออก เพื่อให้รัฐบาลใหม่ออกกู้เงิน และออกงบกลางปี เพื่อฟื้นฟูประเทศคืนสู่ประชาชน" น.ส.ศิริกัญญา อภิปราย.