ปรับเกมซักฟอกถล่ม'หัวหน้าพรรค' ลดแต้มการเมืองรัฐบาล

ปรับเกมซักฟอกถล่ม'หัวหน้าพรรค'  ลดแต้มการเมืองรัฐบาล

ซักฟอกรอบนี้นอกเหนือจาก"พี่น้อง3ป." และรัฐมนตรีพลังประชารัฐแล้ว การพุ่งเป้าไปที่หัวหน้าพรรค และพรรคการเมืองในซีกรัฐบาล อาจเป็นการช่วงชิงจังหวะในการตีไปที่คะแนนนิยม ทั้งยังเป็นการเขย่าขั้วรัฐบาล เพื่อหวังลดแต้มการเมืองอีกทางหนึ่ง

เห็นโฉมหน้าไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “10 รัฐมนตรี” ที่ถูก 7 พรรคฝ่ายค้านล็อกเป้า จองคิวเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงกลางเดือน ก.พ.ที่จะถึงนี้

เปิดดูเนื้อหาและรายชื่อในญัตติที่ “ 208 ส.ส.ฝ่ายค้าน” เข้าชื่อยื่นต่อ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภาแล้ว เห็นได้ชัดว่านอกเหนือจาก “พี่น้อง 3 ป” ทั้ง “ป ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม “ป ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ “ป ป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รวมทั้ง “รัฐมนตรี” ในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่จะเป็นเป้าในการสาดกระสุนของฝ่ายค้านแล้ว 

ต้องถือว่าศึกซักฟอกรอบนี้ต่างไปจากครั้งที่ผ่านมา ในช่วงเดือน ก.พ.2563 ตรงที่ ในครั้งนั้นฝ่ายค้านเลือกที่จะพุ่งเป้าตีไปที่ “ภาพลบรัฐบาล” และรัฐมนตรีในสังกัดพรรคพลังประชารัฐ คือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แต่เพียงเท่านั้น

มิหนำซ้ำ ยังมีข่าวลือ “ดีลลับ” กระแสล้มซักฟอก จนทำให้ พล.อ.ประวิตร รอดศึกครั้งนั้นไปได้ ขณะที่ฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยก็ถูกกระแสตีกลับจนล้มไม่เป็นท่าเช่นกัน

161166826954

ต่างจากครั้งนี้ ที่ฝ่ายค้านเลือกที่จะ “ปรับเกม" และ "กระบวนท่าใหม่" นอกจากจะล็อกเป้าไปยัง “พี่น้อง 3 ป ” และรัฐมนตรีในสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้ว ยังแบ่งทัพ-วางขุนพล ร่วมกันโจมตี “รัฐมนตรี” ซึ่งเป็นหัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล

ไม่ว่าจะเป็น "อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย หรือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

การปรับเกมโดยอาศัยจังหวะที่ “รัฐบาล” และ “พรรคร่วม” กำลังมี“แผลใหญ่” จากการบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผิดพลาด จนทำให้เกิด “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” ระลอกใหม่ จนตัวเลขผู้ติดเชื้อแตะ 3 หลักมาจนทุกวันนี้ บวกกับปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง ที่เวลานี้มีคนตกงาน ธุรกิจและกิจการต่างๆ กำลังหยุดชะงักลง

นอกจากจะเป็นการ “ขยี้แผลใหญ่” รัฐบาลกลางสภาแล้ว อีกแง่หนึ่งอาจมองได้ว่า การเลือกที่จะพุ่งเป้าไปที่หัวหน้าพรรค และพรรคการเมืองในซีกรัฐบาล อาจเป็นการช่วงชิงจังหวะในการตี ไปที่คะแนนนิยมพรรคการเมือง อันเปรียบเสมือนเป็นการเขย่าขั้วรัฐบาล เพื่อหวังลดแต้มการเมือง อีกทางหนึ่งด้วย 

“ศึกซักฟอก” รอบนี้อย่างที่รู้กันว่า เป็นศึกที่มีเดิมพันสูงลิบ ทั้งในแง่ของการชิงกระแสมวลชนและแฟนคลับ โดยเฉพาะเกมนอกสภาฯ ที่ ณ เวลานี้กำลังรอจังหวะในการปลุกกระแสมวลชนออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนนกันอีกครั้ง

ทั้งยังเป็นอีกหนึ่งหนึ่งบทพิสูจน์ “ความเป็นเอกภาพ” ของพรรคฝ่ายค้าน ที่มีบทเรียนมาจากการซักฟอกรอบที่แล้ว ว่ายังแน่นปึ้่กเหมือนที่บรรดา “บิ๊กฝ่ายค้าน” หลายคนย้ำนักย้ำหนาหรือไม่

แค่เริ่มต้น ฝ่ายค้านก็ประโคมโหมโรงแล้วว่า ศึกซักฟอกรอบนี้มี “หมัดเด็ด” ไม่มีมวยล้ม ไม่มีดีลลับเหมือนรอบที่แล้ว หากประชาชนได้ฟังจะตาสว่าง ยิ่งไปกว่านั้น หมัดเด็ดที่ว่าอาจจะนำไปสู่การยื่นถอดถอน และเอาผิดอาญารัฐมนตรีไม่ต่ำกว่า 5 คน อย่างแน่นอน

คงต้องไปลุ้นกันในช่วงกลางเดือน ก.พ.นี้ว่า “หมัดเด็ด” ที่ถึงขั้นทำให้ประชาชนถึงกับเบิกเนตรได้ จะมีเซอร์ไพรส์หรือไม่