เสียงเพรียกร้อง 28 ปีที่รอคอย อนุสาวรีย์ 'วีรชน' พฤษภา 35

เมื่อ "อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35" จะเป็นสถานที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์เรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อหาแนวทางแก้ความขัดแย้งทางการเมืองอย่างสันติวิธี
"พฤษภา 35" เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกเรื่องราวการเคลื่อนไหวของประชาชน ประท้วงรัฐบาลครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองที่มีพล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ระหว่างวันที่ 17-24 พ.ค.2535
เมื่อกองทัพได้เข้าทำการรัฐประหาร รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อเดือน ก.พ.2534 นำไปสู่เหตุการณ์ปราบปรามและปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร กับประชาชนผู้ชุมนุม จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
มาวันนี้เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมาแล้วกว่า 28 ปี พร้อมกับการรวมกลุ่มจากญาติผู้สูญหายและเสียชีวิตกว่าร้อยครอบครัว ในนาม"คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35" ออกมาเรียกร้องให้ผู้รับผิดชอบนำศพหรืออัฐิผู้สูญหายมาประกอบพิธีฌาปนกิจ และเปิดเผยผลการสอบสวนเหตุการณ์ทั้งหมด
อีกด้านหนึ่งมีความพยายามผลักดันให้มีการก่อสร้าง "อนุสาวรีย์วีรชน" มาตลอดหลายปี จนมาถึงคืบหน้าสำคัญเมื่อวันที่ 9 ก.ย.2563 คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 นำโดย "อดุลย์ เขียวบริบูรณ์" ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ได้ทำพิธีบรรจุอัฐิวีรชนพฤษภา 2535 ที่ตัวอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 2535 ให้เป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์รำลึกถึงจิตวิญญาณผู้เสียสละในเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนั้น โดยเฉพาะการพัฒนา "อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35" เป็นสถานที่เรียนรู้ประวัติศาสตร์การเรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองอย่างสันติวิธี
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 ซึ่งสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม สวนสันติพรถ.ราชดำเนิน มีการเชิญนางลาวัณย์ อุปอินทร์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2559 ซึ่งเป็นภรรยานายสมโภชน์อุปอินทร์ ศิลปินผู้ล่วงลับ ในฐานะผู้ออกแบบอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 มาเป็นเกียรติเข้าชมอนุสาวรีย์
สำหรับแนวคิดการออกแบบ "อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35" ภายในอนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม เป็นประติมากรรมรูปเสาสีดำสูงประมาณ 10 เมตร มีรอยกรีดจากบนลงล่างเพื่อสื่อถึงความสูญเสีย ส่วนที่บริเวณฐานยังมีรายชื่อผู้เสียชีวิต 44 คนและผู้สูญหายอีก 44 คนในเหตุการณ์พฤษภา 2535 โดยที่บนยอดเหมือนนกพิราบเปรียบเหมือนเสรีภาพอยู่บนลูกบาศก์สีดำอีกชั้น หมายถึงการขังจิตวิญญาณของผู้คน เป็นอนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนภายในสวนสันติพร มองเห็นได้จากแนวถนนราชดำเนินในและถนนราชดำเนินกลาง
"อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35" แห่งนี้ถือเป็นอนุสาวรีย์ลำดับที่ 3 ที่ก่อสร้างเสร็จต่อจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว และอนุสรณ์สถาน 6 ตุลา 19 ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งอนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 ถูกเลือกให้อยู่บนที่ตั้งเดิมของกรมประชาสัมพันธ์เก่า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดที่ประชาชนถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากการออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวในเหตุการณ์พฤษภา 35
ที่ผ่านมา "อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35" มาจากการผลักดันจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะมูลนิธิพฤษภาประชาธรรม และญาติของผู้เสียชีวิต "อดุลย์ เขียวบริบูรณ์" บอกกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า อนุสาวรีย์วีรชนเป็นเครื่องเตือนใจว่าอย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน ที่ผ่านมาประชาชนให้กับสนับสนุนกับญาติวีรชน ซึ่งในวันนี้รู้สึกภูมิใจที่อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภา 35 ก่อสร้างแล้วเสร็จ ที่สามารถทำตามคำสอนของในหลวง ร.9 ให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ทำให้ญาติวีรชนพยายามลบความแค้นเคือง ให้อภัย และอโหสิกรรมกับ รสช. และทำให้กองทัพกับประชาชนสมานแผลด้วยกัน ซึ่งการสมานแผลนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นไม่เกิน 5 ปีที่ผ่านมา เมื่อได้เคยได้พูดคุยกับพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ในขณะนั้น จนมาถึงการส่งตัวแทนของกองทัพเข้าร่วมงานรำลึกเหตุการณ์พฤษภา 35
"ในช่วงที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เป็นผบ.ทบ. ได้ส่งตัวแทนกองทัพมาร่วมงานเช่นกัน ก็ถือว่าการสมานแผลเหตุการณ์พฤษภา35 ของกองทัพกับประชาชนดีขึ้นมาก เพราะพยายามทำให้เห็นส่าทหารเป็นรั้วของชาติไม่ใช่ศัตรูกับประชาชน กองทัพย่อมรู้ดีว่าพวกเราทำอะไร เพราะปกติทหารที่จะทำรัฐประหารนั้นก็เป็นกองทัพที่มาจากการใช้อำนาจของรัฐบาลให้กองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ญาติใช้เวลานับ 10 ปี เพื่อแบ่งแยกทหารพระราชา และทหารการเมืองออกจากกันได้"อดุลย์ ระบุ







