'นิกร' จี้ 'กกต.' นำปัญหาเลือกตั้งล่วงหน้า แก้จุดบอดเลือกตั้ง 24มี.ค.

 ที่พรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าว​โดยเชื่อมั่นว่าพรรคจะได้ส.ส.เข้าสภา ประมาณ 25 - 30 ที่นั่งโดยรวมทั้ง ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ  เพราะผลตอบรับจากประชาชนในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อพรรคเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากประชาชนตอบรับนโยบายด้านการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรตกต่ำ, หนี้สินของเกษตรกร และ นโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งทางการเมือง ทั้งนี้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าจะได้ 2-3 ที่นั่ง ในพื้นที่จ.ร้อยเอ็ด, จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ ทั้งนี้ในการหาเสียงโค้งสุดท้ายพรรคจะรณรงค์หาเสียงพื้นที่ภาคกลาง โดยวันที่ 19 มีนาคม จะลงพื้นที่จ.สุพรรณบุรี เขต2, วันที่ 20 มีนาคม จะลงพื้นที่จ.เพชรบุรี และ วันที่ 22 มีนาคม จะลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี เขต1 นอกจากนั้นวันที่ 21 มีนาคม พรรคจะเปิดวอร์รูมเพื่อติดตามการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด

นายนิกร ยังกล่าวถึงการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่มียอดผู้แจ้งความประสงค์ของใช้สิทธิ สูงถึง  80  เปอร์เซ็นต์ โดยเชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้กำหนดทิศทางทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง และเสียงที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองต้องฟังเสียงของประชาชน ส่วนที่หลายฝ่ายประเมินว่าเสียงของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จะมีบทบาทสำคัญในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี จะมีบทบาทน้อยลงเพราะเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งถือเป็นเอกฉันท์ โดยเฉพาะประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ที่ต้องพิจารณารวมเสียงให้เพียงพอต่อการเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากไม่ใช่การให้พรรคที่ได้รับเลือกตั้งอันดับหนึ่งเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล

"ในการเลือกตั้งล่วงหน้าที่พบความขลุกขลักเล็กน้อย อย่างลูกชายของผมที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งที่วัดธาตุทอง พบเจ้าหน้าที่กรรมการการเลือกตั้งให้บัตรลงคะแนนผิดเขต แต่เมื่อร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ ได้รับการแก้ไข ดังนั้นผมขอเรียกร้องไปยัง กรรมการการเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้การใช้สิทธิเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม เกิดปัญหา เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมพร้อมให้ดี อย่าให้เจ้าหน้าที่ชี้เรื่องที่ไม่ถูกกฎหมาย อย่างกรณีเลือกตั้งล่วงหน้าที่พบว่าเจ้าหน้าที่ให้บัตรเลือกตั้งผิดเขต แต่เมื่อประชาชนร้องเรียน เจ้าหน้าที่บอกว่าให้กาๆ ไปเถอะ เป็นต้น" นายนิกร กล่าว

นายนิกร ยังกล่าวถึงการหาเสียงโค้ชสุดท้ายที่มีหลายพื้นที่แจ้งเรื่องการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยเฉพาะการให้สิ่งของเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ว่า พรรคไม่ได้รับแจ้งต่อประเด็นดังกล่าว แต่ตนเชื่อว่าประเด็นแจกของหรือเงินเพื่อจูงใจนั้นเกิดขึ้นแน่ ดังนั้นตนแจ้งไปยังผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกพื้นที่ให้เน้นการเดินเข้าหาประชาชน นำเสนอนโยบายให้มากที่สุด เพื่อสู้กับประเด็นการทำผิดกฎหมาย