"รองนายกฯ วิษณุ" เผยเตรียมตั้ง "ป.ย.ป." สานงานโรดเเมพ "ประยุทธ์"
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานักบริหารภาครัฐเพื่อบูรณาการการพัฒนาประเทศไทยตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง“ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค ส่วนท้องถิ่น : จากแผนปฏิรูปสู่ภาคปฏิบัติแบบบูรณาการ”ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อกฎหมายลูก6ฉบับเสร็จสิ้น และมีผลบังคับใช้ แต่วันนี้กฎหมายยังไม่เสนอเข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอได้ ในวันที่4ต.ค.นี้ และใช้เวลาในการพิจารณาประมาณ3เดือน ก็จะเสร็จราวเดือนธ.ค. จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ ใช้เวลาอีก3เดือน ก็จะเสร็จประมาณเดือนมี.ค. ดังนั้นหากการเลือกตั้งใหญ่ มีขึ้นในวันที่24ก.พ.2562การเลือกตั้งท้องถิ่นก็น่าจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ทุกคนที่มาสัมมนาครั้งนี้ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงต้องเข้าใจคำ3คำ คือการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และสร้างความสามัคคีปรองดอง เพราะในอดีตตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองในปี2475รัฐธรรมนูญทุกฉบับเขียนเหมือนกันคือ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน และที่ผ่านมาทุกรัฐบาลบริหารงานใน3แบบ คือ กำหนดนโยบาย ทำตามนโยบายที่กำหนด และบังคับการให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด แต่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน กำหนดหน้าที่รัฐบาลเพิ่มอีก3เรื่อง คือ การปฏิรูปประเทศ ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ และสร้างความปรองดอง ซึ่งส่วนราชการทุกส่วนต้องนำไปปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่กำหนดยุทธศาสตร์ชาติในรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ6ด้าน คือ ความมั่นคงเศรษฐกิจ การพัฒนาคน การแก้ปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำและขจัดความไม่เป็นธรรมคุณภาพชีวิตและความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการภาครัฐ ส่วนการสร้างความปรองดอง ซึ่งถือเป็นเรื่องยาก และไม่ใช่การจับคนมาถอดเสื้อสีเหลือง สีแดง แต่คือการสร้างความรับรู้และเข้าใจ
นายวิษณุ กล่าวว่า หลักสูตร ป.ย.ป. ย่อมาจาก การปฏิรูป ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง มี3หลักสูตร คือ ป.ย.ป.1ระดับปลัดกระทรวงและอธิบดี ป.ย.ป.2คือ ระดับรองอธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัดส่วน ป.ย.ป.3คือ ระดับผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งกำลังจะเปิดเพื่อให้สิ่งที่รัฐบาลวางไว้เหล่านี้ถูกขับเคลื่อนและเดินหน้าไปได้ ตามที่นายกรัฐมนตรีดำริไว้โดยเฉพาะแผนปฏิรูปประเทศ ซึ่งประกาศใช้แล้วและต้องทำ เพราะหากไม่ทำถือเป็นความผิด ที่สำคัญหน่วยงานราชการทุกหน่วย หากคิดจะทำอะไรแล้วไม่อยู่ในแผนปฏิรูป ก็จะไม่ได้รับงบประมาณ ในการดำเนินการ เช่นเดียวกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ที่หากไม่ทำตามหรือดำเนินการนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ ก็จะมีความผิด และไม่ได้รับงบประมาณเช่นกัน พร้อมยืนยันไม่ใช่การวางแผนเพื่อให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ไป20ปี แต่วางไว้เป็นแนวทาง ไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามาก็ให้เดินหน้าไปตามนี้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามช่วงเวลาและความเหมาะสมทุกแผน ไม่ว่าจะเป็นแผนปฏิรูปประเทศ แผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนสร้างความสามัคคีปรองดอง
นายวิษณุ กล่าวอีกด้วยว่า รัฐบาลเตรียมตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจคือ สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี มีหน้าที่ติดตามการทำงานของหน่วยงานราชการที่ขับเคลื่อนแนวทาง ป.ย.ป. และรับผิดชอบการอบรม ป.ย.ป.ทั้งหมด เช่น หลักสูตรการคัดเลือกคนเข้าอบรม เป็นต้นซึ่งนายกรัฐมนตรีกำหนดว่า การอบรม ป.ย.ป. ไม่เน้นการจดบันทึก แต่ใช้วิธีแลกเปลี่ยนความเห็น ห้ามไปดูงานต่างประเทศและไม่มีค่าเล่าเรียนซึ่งสำนักงานนี้จะตั้งในไม่ช้า โดยหัวหน้าสำนักงานจะเป็นซี11ซึ่งเทียบเท่าปลัดกระทรวง มีข้าราชการในหน่วยงานไม่เกิน10คน มีอายุการทำงานประมาณ5ปี ทำหน้าที่ประสานงานกับ5หน่วยงานหลัก คือ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา รวมถึงหน่วยงานขับเคลื่อนงานของป.ย.ป. จะมาอยู่ภายในหน่วยงานนี้