สุดเศร้า! เผาแล้วศพพ่อโดดตึกศาลอาญา-ทนายเตรียมขอศาลสืบพยานเพิ่มอีก 3 ปาก
จากกรณีนายศุภชัย ทัฬหสุนทร อายุ 51 ปี ที่ตัดสินใจก่อเหตุกระโดดตึกฆ่าตัวตายจากชั้น 8 ศาลอาญารัชดา เนื่องจากมีความเครียดสะสมและผิดหวังหลังศาลมีคำสั่งยกฟ้องคดีที่ นายธนิต หรือเต้ ทัฬหสุนทร อายุ 23 ปี บุตรชาย ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิตเหตุเกิดบริเวณซอยประชาสังคมสงเคราะห์ 1 แขวงและเขตดินแดง กทม. ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2559
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 กรกฎาคม ที่ศาลา 2 วัดกุนนทีรุทธาราม (วัดห้วยขวาง) มีพิธีฌาปนกิจศพ นายศุภชัย โดยมี พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 เป็นประธานในพิธี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีญาติมิตรเพื่อนฝูงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยในช่วงเที่ยงที่ผ่านมานั้น ทางนางเรวดี ทัฬหสุนทร ภรรยาผู้เสียชีวิตและญาติได้ทำบุญถวายเพลพระ 5 รูป เพื่ออุทิศส่วนบุญกุศลให้ผู้เสียชีวิต และในช่วงบ่ายได้มีการเทศน์ 1 กัณฑ์ ก่อนจะเริ่มพิธีฌาปนกิจในเวลา 15.00 น. ทั้งนี้ในช่วงวางดอกไม้จันทน์ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และทางนางเรวดีถึงกับร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ญาติต้องช่วยกันปลอบเช็ดน้ำตาอยู่ไม่ห่าง
นางธนพร ศิริบานเย็น ทนายความฝ่ายโจทย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการหารือกับอัยการเรื่องการยื่นอุทธรณ์คดี โดยจะพยายามให้ศาลอุทธรณ์มีการสืบปากคำพยานเพิ่ม ซึ่งปกติทางศาลอุทธรณ์จะไม่มีการเรียกสืบพยานเพิ่มมาก่อน แต่คดีนี้ดูจากคำตัดสินของศาลชั้นต้นแล้ว น่าจะสามารถสืบปากคำพยานเพิ่มได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา208 โดยทางฝ่ายโจทย์จะเรียกสืบปากคำพยานบุคคลเพิ่ม 3ปาก ที่จะนำมาขึ้นเบิกความ โดยเป็นพยานที่เห็นเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เพื่อยืนยันว่า จำเลยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งการเสียชีวิตของนายธนิตนั้น มีการวางแผนก่อนการลงมือในลักษณะเป็นขบวนการ มีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 1 คน เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องก่อนเกิดเหตุ 3 ชั่วโมง และนายธนิตผู้ตาย กับทางฝ่ายจำเลยนั้นรู้จักกันมาก่อน โดยมีเหตุโกธรเคืองกันมาร่วม 1 ปีแล้ว ส่วนที่ฝ่ายจำเลยมีการแถลงข่าวยืนยันความบริสุทธิ์ใจนั้น ตนมองว่าเป็นสิทธิที่จำเลยสามารถทำได้ และสามารถยื่นพยานหลักฐานคัดค้านในชั้นศาลอุทธรณ์ได้เช่นกัน
นางธนพร กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พยานปากสำคัญมีอาการป่วยทางจิตจนไม่สามารถมาให้ปากคำในชั้นศาลได้นั้น ก่อนหน้านี้ทางตำรวจและอัยการได้เคยเรียกตัวพยานรายนี้มาสืบปากคำที่ชั้นศาลแล้ว แต่พยานคนดังกล่าวก็ไม่ได้เดินทางมา จนทางศาลได้มีการออกหมายจับ จึงมีใบรับรองแพทย์มายืนยันว่าพยานมีอาการป่วยทางจิต หากมีการสืบพยานแพทย์แล้วพบว่า มีการช่วยเหลือปิดบังไม่ให้พยานรายนี้เดินทางมาศาล แพทย์ที่รับรองอาการป่วยก็จะมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลด้วย
ด้านพล.ต.ต.เสนิต กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ขอให้ทาง พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น. เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดความคืบหน้าจะดีกว่า วันนี้ตนมาเป็นประธานงานนี้ เพื่อร่วมแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตเพียงเท่านั้น