'นายกฯ' ลั่น เยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศส ไม่แอบนัดพบคนอื่น

'นายกฯ' ลั่น เยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศส ไม่แอบนัดพบคนอื่น

"บิ๊กตู่" เยือน อังกฤษ-ฝรั่งเศส ยันคุยแค่ผู้นำประเทศ-นักธุรกิจไทย ไม่มีโอกาสพบคนอื่น ย้ำอย่ากังวล ขอให้มั่นใจมาทำงาน ใคร!! อยากพบก็ไม่ให้พบ

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ให้สัมภาษณ์ ระหว่างการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ ที่มีความสำคัญขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน 

โดย "พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้สัมภาษณ์พิเศษ "พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี ระหว่างการเดินทางเยือนในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ถึงความสำคัญในการเดินทางมาในครั้งนี้

ซึ่ง "พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า เป็นการเปิดศักราชใหม่ของเรา ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานั้นเราอาจจะมีความใกล้ชิดกัน อาจเรียกว่าน้อยเกินไปสักนิดนึงในช่องทางของรัฐบาลช่องทางทางการเมือง ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เป็นการทำงานร่วมกันของภาคเอกชน สมาคม การค้าการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งวันนี้รัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องเดินหน้าตรงนี้เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในปัจจุบัน และสถานการณ์โลกด้วยวันนี้เราก็มีสงครามการค้าเกิดขึ้น ดังนั้นทำอย่างไรเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากนัก จึงจำเป็นต้องหาพันธมิตร ที่เรียกว่าหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ถ้ามองในภาพใหญ่เราให้ความสำคัญกับทุกประเทศในโลกไม่ได้เจาะจงเพียงประเทศใดเพราะเราจำเป็นต้องดำเนินนโยบายของรัฐสมดุลในทุกมิติกับทุกประเทศ และเราก็เห็นว่ากลุ่มประเทศในยุโรปมีศักยภาพสูงโดย 2 ประเทศแรกที่มาพบปะคืออังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งการเดินทางมาพบปะครั้งแรกของประเทศอังกฤษก็ได้พูดกันถึงความสัมพันธ์ที่เรามีกันมายาวนาน ถึง 400 ปี และในเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการค้าก็มีหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ  และพูดถึงโอกาสของเราในเรื่องที่มีโครงการขนาดใหญ่ เช่น AEC หรือการลงทุนในพื้นที่ต่างๆ ของเรา มีการกำหนดวิธีการ มาตรการใหม่  มาตรการแรงจูงใจ หรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย

\'นายกฯ\' ลั่น เยือนอังกฤษ-ฝรั่งเศส ไม่แอบนัดพบคนอื่น

ขณะที่ด้านการเมืองระหว่างประเทศ  "พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า ต้องใช้คำว่าเราต้องสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งมีหลายด้านด้วยกัน ไม่ใช่มองในแง่ของ policy อย่างเดียว ต้องมองในแง่ความมั่นคง บทบาทในภูมิภาคด้วย ความร่วมมือระหว่างกัน เรื่องการก่อการร้าย เรื่องความมั่นคง เรื่องการศึกษา การสาธารณสุข การพัฒนา ยิ่งถ้าหากเรามีความแตกต่างกันมากเพียงใดเราต้องยิ่งพยายามให้การสนับสนุนซึ่งกันและกัน เช่นเขาก็เป็นประเทศชั้นนำเราเองก็ต้องการพัฒนาเรื่องเทคโนโลยี เราก็ต้องการประสบการณ์ของเขา โดยเรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากที่เรามีการพูดคุยกันแล้ว

ส่วนท่าทีของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร นั้น  "พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า ท่านเป็นคนน่ารัก ก็คือท่านเข้าใจความเป็นไทย ท่านมีการเตรียมการมากพอสมควรที่จะเรียนรู้ว่าประเทศไทยขณะนี้เป็นอย่างไร ถึงไหน เรื่องของข้อจำกัดทางการเมืองท่านไม่ได้เป็นคนพูดก่อน แต่ตนเป็นเล่าให้ท่านฟังเอง ซึ่งท่านก็ไม่ได้กดดันอะไรกับตน ท่านก็ขอให้ดำเนินการไปตามโรดแมปของเรา ก็ไม่มีอะไร

เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวลงในโซเชียลมีเดียในไทยว่ามีนักวิชาการแห่งหนึ่งในไทยให้ความเห็นว่าการเดินทางมาเยือนประเทศอังกฤษ จะมีการนัดพบคบคนนั้น คนนี้ (นายทักษิณ ชินวัตร)หรือไม่

"พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า "ผมจะพบกับใครได้ ผมก็พบกับนักธุรกิจไทย ในฐานะที่จะต้องมาขับเคลื่อนให้เขา 2.มาพบกับข้ราชการไทยในต่างประเทศทีมประเทศไทย ผมไม่มีโอกาสพบคนอื่นเลย ไม่เคยนัดพบใครทั้งสิ้น ในการทำงานของผมทุกครั้งจริงๆ แล้ว ตั้งแต่ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบกผมมาต่างประเทศ ผมก็ไม่เคยนัดพบใคร  ทำงานเสร็จก็กลับประเทศไทย ดังนั้นอย่ามากังวลกับผม และถึงแม้ว่าใครอยากพบผม ผมก็ไม่ให้พบอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจผมเพราะผมทำงานในหน้าที่ของผม ไม่ได้มาส่วนตัว"

ส่วนการเตรียมความพร้อมในการเข้าพบ "ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง" ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส "พล.อ.ประยุทธ์" นายกรัฐมนตรี  ระบุว่า ก็พร้อมโดยตนเตรียมการศึกษาข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศ จากเอกอัครราชทูตไทยณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการหารือกับนักธุรกิจไทยในทุกมิติด้วย โดยรายละเอียดจะมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการต่อไป ขณะที่ตนจะพูดคุยกับ "ประธานาธิบดีแอมานุแอล มาครง" ในเรื่องของหลักการกว้างๆ ส่วนรายละเอียดก็จะหาว่าเราจะจูนเข้าหากันได้อย่างไรซึ่งบรรยากาศการพูดคุยก็น่าจะเป็นไปได้ด้วยดี