'โอ๊ค' พร้อม3คนใกล้ชิดคุณหญิงอ้อ ดอดมอบตัวสู้คดีฟอกเงิน

'โอ๊ค' พร้อม3คนใกล้ชิดคุณหญิงอ้อ ดอดมอบตัวสู้คดีฟอกเงิน

"พานทองแท้" พร้อมพวก 3 คนใกล้ชิดคุณหญิงพจมาน ดอดเข้ามอบตัวก่อนกำหนดคดีฟอกเงิน-สมคบฟอกเงิน ปฏิเสธไม่ได้ทำผิดทุกข้อหา ขอส่งหลักฐานสู้คดี หลังแจ้งข้อหาเสร็จสิ้นขั้นตอนได้รับการปล่อยตัวทันที

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 18 ต.ค. 60 - พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) ได้มีหนังสือถึงดีเอสไอพื่อส่งข้อมูลและแจ้งผลการดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด กรณีผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ และขอให้เอสไอตรวจสอบบุคคลที่รับโอนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินอันเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคล 4 คน โดยเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ในเรื่องนี้มีจำนวน 10 ล้านบาท และ จำนวน 26 ล้านบาท ซึ่งดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษที่ 25/2560 ต่อมาพนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้พิจารณาพยานหลักฐานแล้วเห็นชอบร่วมกันว่าคดีมีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะแจ้งข้อกล่าวหาบุคคลจำนวน 4 คน ได้แก่ 1 นางเกศินี จิปิภพ 2 นางกาญจนาภา หงษ์เหิน 3นายวันชัย หงส์เหิน และ 4 นายพานทองแท้ ชินวัตร ในข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว” และพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ออกหมายเรียกให้บุคคลดังกล่าวเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อรับทราบข้อหา ในวันที่ 24 ต.ค.60 นั้น

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวอีกว่า ภายหลังจากได้รับหมายเรียก บุคคล 4 ราย ได้ติดต่อขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก่อนกำหนดเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน ตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.00 น. บุคคลทั้ง 4 ได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่อาคารดีเอสไอ โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการที่ร่วมสอบสวน ได้ร่วมกันแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำที่กล่าวหาและแจ้งข้อหาบุคคล ทั้งสี่ในข้อหา “สมคบกันโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิด ฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบแล้ว” ตามมาตรา 5 และมาตรา 9 วรรคหนึ่ง, มาตรา 9 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542

โดยผู้ต้องหาทุกคนปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงได้สอบสวนปากคำไว้ และผู้ต้องหาทั้งสี่คนประสงค์จะส่งเอกสารเพื่อประกอบการแก้ข้อหาและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน ซึ่งจะนำมามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษโดยเร็ว และเนื่องจากบุคคลทั้ง 4 ยังไม่มีหมายจับของศาล เมื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จสิ้น จึงเดินทางกลับ เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.