ผบ.พล.ม.2รอ. ส่งชุดEODตรวจห้องรับรอง-ลานจอด ฮ.

ผบ.พล.ม.2รอ. ส่งชุดEODตรวจห้องรับรอง-ลานจอด ฮ.

"พล.ต.เฉลิมพล" เข้มรักษาความปลอดภัย ส่งชุอีโอดี ตรวจห้องรับรอง-ลานจอด ฮ. รับ "ผบ.ทบ." บินไปกาญจนบุรี ชี้ "บีอาร์เอ็น" คือ 1 ใน2 กลุ่มมีศักยภาพก่อเหตุ

เมื่อเวลา 07.30 น.ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมกองกำลังสุรสีห์ พร้อมทั้ง ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกสาขานิคมอุตสาหกรรมทวาย  รวมทั้งตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของส่วนราชการบริเวณจุดผ่านแดนบ้านพุน้ำร้อน โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแต่อย่างใดทั้งนี้ก่อนที่ ผู้บัญชาการทหารบก จะเดินทางมาถึง ทางกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ ได้ให้หน่วยเก็บกู้ระเบิดของ ตำรวจหรืออีโอดี เข้ามาตรวจความเรียบร้อยในห้องรับรองผู้บัญชาการทหารบก ได้มาพักต่อเพื่อเดินทาง รวมถึงตรวจสอบบริเวณโดยรอบลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีการนำหน่วยงาน ด้านการเก็บกู้ระเบิดจากภายนอกเข้ามาตรวจ

ขณะที่ พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ กล่าวถึง การส่งจดหมายแจ้งเตือนวางระเบิดโรงบาลพระมงกุฏเกล้า ว่า ต้องตรวจสอบกับทางโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถือเป็นข้อมูลที่มาเปิดเผยภายหลัง ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยนั้น เราก็ดูแลตามภัยคุกคามที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ยอมรับว่า สถานพยาบาล ศาสนสถานโรงเรียน ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังในการก่อเหตุโดยเราจะเน้นพื้นที่การท่องเที่ยวพื้นที่สาธารณะแหล่งชุมชนต่างๆ จากนี้ไปคงจะต้องเพิ่มพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เฝ้าระวังด้วย และยืนยันว่ามาตรการการดูแลรักษาความปลอดภัยที่มีในแต่ละพื้นที่สามารถป้องกันเหตุร้ายได้ ทั้งเรื่องคน รถ ที่จะนำพาสิ่งที่ไม่ดีเข้ามา โดยเฉพาะในสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาได้เน้นย้ำเรื่องกล้องวงจรปิด หรือ กลเอง CCTV ในแต่ละจุด การผ่านเข้าออกต่างๆ และเชื่อมั่นได้ว่ายังสามารถให้บริการประชาชนได้เมื่อถามว่า ภาพแจกันดอกไม้ที่คาดว่าซุกซ่อนระเบิดและผู้ชายคนที่นั่งหลังสุดในบริเวณที่เกิดเหตุนั้นจะโยงไปถึงผู้ก่อเหตุหรือไม่

พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า คงต้องไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่สอบสวน ซึ่งทราบว่าเป็นภาพถ่ายจากการเซลฟี่ ของคนที่เข้าไปใช้บริการโรงพยาบาลและติดภาพบริเวณดังกล่าว และจากการตรวจสอบผู้ชายที่นั่งอยู่หลังสุดก็ได้รับบาดเจ็บด้วย ประเด็นดังกล่าวเพราะอาจจะเปลี่ยนไปพล.ต.เฉลิมพล ยังกล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลบ้านพักของผู้บังคับบัญชาระดับสูงนั้นเรามีอยู่แล้ว ซึ่งการรักษาความปลอดภัยเราดำเนินการในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงคือพื้นที่ชุมชนยอมรับว่าในหลายพื้นที่ดูแลได้ไม่หมดหากเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นในซอยลึก ก็สามารถเกิดขึ้นได้แต่ความเสียหายมีน้อย ซึ่งเราก็ได้เน้นในเรื่องของชุมชนต่างๆ

"พื้นที่เป้าหมายเดิมที่ได้พิจารณาตามงานด้านการข่าวและการก่อเหตุก็จะเน้นในเรื่องของย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยวเพื่อดิสเครดิต เราก็มุ่งเป้าไปที่นั้น แต่พอมีพื้นที่ที่เปราะบางแบบนี้ ซึ่งไม่มีที่ไหนเขาทำกัน แต่เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาก็ต้องยอมรับว่าก่อนหน้านี้เราไม่ได้คาดคิดว่าจะมีภัยคุกคามเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความเรียบร้อยทั่วไปเพื่อป้องกันการฉกชิงวิ่งราว นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ทหารที่อาจจะตกเป็นเป้าในการก่อเหตุ ก็จะต้องเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ ที่อาจจะส่งผลกระทบหากมีเหตุหรือไม่สามารถรักษาความปลอดภัยได้" พล.ต.เฉลิมพลกล่าว

เมื่อถามว่า มีการกล่าวอ้างว่าจดหมายขู่ระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาจากกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ เนื่องจากกลุ่มบีอาร์เอ็น ก็เป็นกลุ่มที่มีขีดความสามารถ ในการก่อเหตุซึ่งในปัจจุบันข้อมูลทางด้านการข่าว ก็มีกลุ่มที่มีขีดความสามารถเหล่านี้ ประมาณ 2 กลุ่ม เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจในความปลอดภัยของประชาชนอย่างไร

พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า จากที่ผ่านมาลักษณะของภัยคุกคาม จะเกิดกับเจ้าหน้าที่และสถานที่ต่างๆซึ่งก่อนหน้านี้จะไม่มีเป้าหมายที่กระทบกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เพิ่มมาตรการจากเดิมที่มีอยู่ทั้งนี้อยากให้ประชาชนช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตาแจ้งเบาะแสให้กับเจ้าหน้าที่ด้วย และขอให้ตระหนักในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม ซึ่งเราก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่เขาเดินจูงเข้ามาเป็นเป้าหมาย เพราะการต่างคนต่างอยู่แบบชุมชนเมืองจะทำให้เกิดช่องว่างที่ให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาดำเนินการได้

" อยากให้ช่วยกันระแวดระวัง แต่อย่าถึงกับตระหนกหรือกังวล ซึ่งเราก็ใช้มาตรการ ที่มั่นใจได้ว่าจะดูแลรักษาความปลอดภัยได้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าวมีความชัดเจนและคนที่ก่อเหตุก็จะต้องผ่านตามมาตรการนี้จึงสามารถป้องกันการก่อเหตุใด ยอมรับว่าเราไม่ได้เข้าไปดูในพื้นที่เหล่านั้นก็ต้องแสดงความเสียใจอย่างไรก็ตามในส่วนของโรงพยาบาลอื่นๆ ที่อาจตกเป็นเป้านั้นเราก็ต้องเข้าไปดูแล โดยเฉพาะบริเวณอาคารที่รับผู้ป่วย เพื่อนมาตรวจรักษาจะมีความพลุกพล่าน ส่วนอาคารที่เป็นที่พักคนไข้ ตรงนั้นไม่น่าจะเป็นเป้าหมายเพราะการก่อเหตุจะไม่คุ้มค่า ได้มีเจ้าหน้าที่ไปประสานงาน จับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวของโรงพยาบาลซึ่งเราก็จะเข้าไปเสริมในส่วนนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดช่องว่างของการก่อเหตุ" พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า