ศาลสั่งรวมคดี 'ศุภชัย ศรีศุภอักษร'

ศาลสั่งรวมคดี 'ศุภชัย ศรีศุภอักษร'

ศาลสั่งรวมคดี "ศุภชัย ศรีศุภอักษร" ฟอกเงิน-ฉ้อโกงสหกรณ์คลองจั่น พร้อมนัดตรวจเอกสาร 6 พ.ย.นี้ โดยไม่ต้องเบิกตัวจำเลยมาศาล

ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานคดีดำ อ.3339/2559 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น กับพวกรวม 11 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 และ 343 กรณีเมื่อระหว่างเดือน ม.ค. 51-ธ.ค. 55 พวกจำเลยร่วมกันทำสัญญากู้ยืมเงินระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯกับสมาชิกสมทบ ซึ่งเป็นนิติบุคคลหรือคณะบุคคลที่ไม่ได้ถือหุ้นในสหกรณ์ฯ 28 ราย รวม 11,858,440,000 บาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง และร่วมกันทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ จึงขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมาย และให้จำเลยทั้งหมดร่วมกันคืนเงินให้ผู้เสียหาย รวม 2,254 รายด้วย

สำหรับจำเลยอีก 10 ราย คือ นายมณฑล กันล้อม อดีตประธานสหกรณ์ นายลภัส โสมคำ อดีตกรรมการ นางทองพิณ กันล้อม อดีตกรรมการ นายณัฐวัฒน์ ปิยพัชร์เมธี อดีตผู้จัดการสหกรณ์ นายอารีย์ แย้มบุญยิ่ง ผู้จัดการสหกรณ์ น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ น.ส.วาริศา เอกชัยจินดาวัฒน์ อดีตกรรมการสหกรณ์ นางจันทร์ฉาย ขันธะหัตถ์ รองผู้จัดการสหกรณ์ นายธนากร น่าบัณฑิต อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ และนายกฤษฎา มีบุญมาก อดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์ 

ทั้งนี้ ศาลอาญา ได้นัดตรวจพยานหลักฐานคดีดำ ฟย.6/2560 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ฟ้องนายศุภชัย ศรีศุภอักษร น.ส.ศรัณยา มานหมัด นางทองพิน กันล้อม และนายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล เป็นจำเลยที่ 1-4 ฐานสมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน กรณีเกี่ยวเนื่องกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นด้วย

โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายศุภชัย จำเลยที่ 1 มาจากเรือนจำบางขวาง นางทองพิน กันล้อม อดีตกรรมการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 4 และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด อดีตรองผู้จัดการสหกรณ์ฯ จำเลยที่ 7 มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง สำหรับจำเลยอื่นๆ ได้รับการประกันก็เดินทางมาศาลเช่นกัน

ทั้งนี้ พนักงานอัยการโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอรวมพิจารณาคดีดำ อ.3339/2559 และคดี ดำ ฟย.6/2560 เข้าเป็นสำนวนคดีเดียวกัน โดยคู่ความทั้ง 2 ฝ่ายไม่คัดค้าน ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้รวมพิจารณาคดีได้ เนื่องจากคดีมีข้อเท็จจริงเดียวกันจะทำให้การพิจารณาคดีรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ อัยการโจทก์ได้ยื่นพยานหลักฐานเอกสารในสำนวนคดีฉ้อโกงประชาชน 113 ฉบับ และจะส่งพยานเอกสารเพิ่มเติมในภายหลัง ส่วนทนายจำเลยแถลงว่าคดีนี้อัยการโจทก์มีพยานเอกสารจำนวนมาก จึงต้องขอใช้เวลาในการตรวจและคัดถ่ายสำเนาเอกสาร ศาลพิจารณาแล้วอนุญาต และนัดพร้อมเพื่อตรวจเอกสารวันที่ 6 พ.ย. นี้ เวลา 09.00 น. โดยไม่ต้องเบิกตัวจำเลยมาศาล