แม่ทัพภาค4สั่งรปภ.เต็มอัตรา รับมือกลุ่มก่อความไม่สงบตอบโต้

แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งหน่วยกำลังในพื้นที่ เพิ่มความระมัดระวังและดูแลรักษาความปลอดภัยปชช.เต็มอัตรา รับมือการปฎิบัติการตอบโต้ของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่
จากกรณีเจ้าหน้าที่ได้วิสามัญ นายอิสมะแอ หามะ อายุ 27 ปี ที่อยู่ 226 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายอาเซ็ง อุเซ็ง อายุ 30 ปี ที่อยู่ 223/3 ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังจากทั้งสองได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ ที่ บนถนนรอยต่อ บ.ไอร์จือนะห์ ม.5 – บ.ธรรมเจริญ ม.6 ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มี.ค. 60 เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
(30 มี.ค.2560) ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พันเอก ยุทธนาม เพชรม่วง รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุเกิดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติการเชิงรุกตามนโยบาย ข้อสั่งการของ พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 หลังจากที่ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงครอบครัวของ นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ขณะขับรถพาลูกๆ ไปส่งโรงเรียน จนนายสมชาย พี่สาว ภรรยา และลูกชายวัย 8 ขวบเสียชีวิตรวม 4 ศพ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นเป็นเหตุสะเทือนขวัญ โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และ ติดตามกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและ วัตถุพยานที่ได้จากทำเกิดเหตุ ประกอบกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้ให้ข้อมูลข่าวสารว่าพบกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ จึงได้ผนึกกำลังร่วมระหว่าง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 46 และ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษสำนักอำนวยการข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า พร้อม สนธิร่วมกำลัง 3 ฝ่าย เข้าดำเนินการติดตามเป้าหมายในพื้นที่ดังกล่าว และ ได้มีการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด เพื่อป้องกันการหลบหนีของกลุ่มคนร้าย
“สำหรับความคืบหน้าด้านคดี จากการตรวจสอบพบว่า เหตุเกิดขึ้นในระหว่างที่ เจ้าหน้าที่ กำลังร่วม 3 ฝ่าย ได้ตั้งจุดตรวจอยู่นั้นได้มีการเรียกตรวจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ขับผ่านเส้นทางดังกล่าว และเมื่อเวลา 13.30 น. ก็ได้เรียกตรวจรถยนต์ของบุคคลต้องสงสัยซึ่งรถคันดังกล่าวได้วิ่งฝ่าด่าน พร้อมทั้งได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ แล้วเกิดยิงปะทะกัน จนเป็นเหตุให้ผู้ต้องสงสัยเสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อคือ นายอาเซ็ง อูเซ็ง อายุ 30 ปี และ อิสมาแอ หามะ อายุ 28 ปี ทั้งคู่ มีภูมิลำเนาอยู่ใน ต.รือเสาะ บริเวณที่เกิดเหตุพบปืนเอ็มโฟร์ และ อาวุธปืนพกขนาด 9 มม. ตกอยู่อย่างละ 1 กระบอก โดยอาวุธเอ็มโฟร์พบว่าคนร้ายได้ยึดมาจากเหตุยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเขพื้นที่ที่อำเภอรามัน จ.ยะลา เมื่อปี 2556 ส่วนอาวุธปืนพกขนาด 9 มม. คนได้ได้ยึดมาจากเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกตาบารู ขณะทำพิธีละหมาด เมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน 2556นอกจากนี้ ยังพบว่า นายอาเซ็ง อูเซ็ง ยังเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมายด้วย” พันเอกยุทธนาม กล่าว
รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ยังกล่าวอีกว่า จากแนวทางการสืบสวนวัตถุสงสัย และ วัตถุพยาน และ บุคคลที่ถูกควบคุมตัวจากเหตุ กราดยิงครอบครัวของ นายสมชาย ทองจันทร์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านศรีภิญโญ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ขณะขับรถพาลูกๆ ไปส่งโรงเรียน จนนายสมชาย พี่สาว ภรรยา และลูกชายวัย 8 ขวบเสียชีวิตรวม 4 ศพ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2560 นั้น เชื่อได้ว่า นายอิสมาแอ หามะ และ นายอาเซ็ง อุเซ็ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว และ ได้มีการติดตามพฤติกรรมของบุคคลทั้ง 2 ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ มาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การปะทะในครั้งนี้ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย
ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย โดยเจ้าหน้าที่ได้กระทำการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยได้เรียกให้ผู้ต้องสงสัยจอดรถเพื่อตรวจสอบแต่คนร้ายกลับฝ่าด่านและใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้จนเกิดเหตุขึ้นดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางท่านแม่ทัพภาคที่ 4 ก็ได้สั่งการไปยังหน่วยกำลังในพื้นที่ ให้เพิ่มความเข้มในการดูแลรักษาความปลอดภัยตนเอง และพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งอาจจะมีการปฎิบัติการตอบโต้ของฝ่ายคนร้าย โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความผิดปกติ และเพิ่มความระมัดระวังตัวมากขึ้น







