จี้'ประยุทธ์'ฟัน'อสมท.'ซื้อที่ดินตาบอดแพงเกินจริง

จี้'ประยุทธ์'ฟัน'อสมท.'ซื้อที่ดินตาบอดแพงเกินจริง

"วัชระ" จี้ "ประยุทธ์" จัดการ "อสมท." หลังซื้อที่ดินตาบอดราคาแพงเกินจริง แถมใช้ประโยชน์ไม่ได้

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกรุงเทพมหานครจัดซื้อที่ดินตาบอดแล้วศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกผู้บริหารกรุงเทพมหานคร 5 ปีว่า มีกรณีซื้อที่ดินตาบอดที่คล้ายคลึงกับกรณีกรุงเทพมหานคร คือ อสมท.โดยคณะกรรมการกรรมการ บมจ.อสมท ในการประชุมครั้งที่ 1/2547 วันที่ 17สิงหาคม 2547 ได้มีมติอนุมัติให้ บมจ.อสมท จัดซื้อที่ดินจำนวน 50 ไร่ 1 งาน 30.5 ตารางวา เป็นเงินทั้งสิ้น 1,117,242,750 บาท จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ ภายหลังคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง (พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธาน) พิจารณาแล้วเห็นว่า การที่คณะกรรมการ บมจ.อสมท กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) ได้อนุมัติและจัดทำสัญญา จะซื้อจะขายที่ดินดังกล่าว ไปก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เห็นชอบอนุมัติงบลงทุนที่จัดทำเป็นแผนระยะยาวใน “แผนงานจัดหาที่ดินเพื่อรองรับการขยายงาน” นั้น เป็นการกระทำที่จงใจฝ่าฝืนระเบียบว่าด้วยงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2522 ข้อ 13 และการจัดซื้อที่ดินจำนวน 50 ไร่ 1 งาน 30.5 ตารางวา จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน

นายวัชระ กล่าวว่า ซึ่งปรากฎข้อเท็จจริงแล้วว่าที่ดินดังกล่าวไม่มีทางออกสู่ถนนสาธารณะ หรือเรียกว่าเป็นที่ดินตาบอด อันเป็นการสร้างภาระแก่ บมจ.อสมท ที่จะต้องเสียค่าผ่านที่ดินไปสู่ทางสาธารณะ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินจำนวนเงินค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งในเรื่องนี้มีการปกปิดข้อเท็จจริงและพยายามให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนในการพิจารณาเพื่อซื้อที่ดิน ในเรื่องที่ดินเป็นที่ดินไม่มีทางออกสู่ถนนสาธารณะ จากพนักงานของ บมจ.อสมท เอง โดยเฉพาะนายธนะชัย วงศ์ทองศรี ซึ่งขณะนั้นมีตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายกฎหมายธุรกิจ มีหน้าที่โดยตรงในการตรวจสอบข้อกฎหมาย สัญญา และข้อเท็จจริงประกอบ กลับละเว้นหรือทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้วปกปิดไว้ ทำให้ บมจ.อสมท ซื้อที่ดินแพงกว่าราคาที่ควรจะเป็น และไม่อาจใช้ที่ดินดังกล่าวได้มากว่าสิบปี

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ เป็นประธานการสอบสวนได้ตรวจพบว่ามีการกระทำความผิดแต่ปรากฏว่าอสมท.ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย ดังนั้นตนจึงส่งหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และะพลเอก ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการอสมท.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว

“กทม.ซื้อที่ดินตาบอดเพียงแค่ 270 ล้าน อสมท.ซื้อเป็นเงินถึง 1,117 ล้านบาท พล.ต.อ.ประทิน เป็นประธานสอบสวนสรุปผลแล้วว่าผิดแต่อสมท.กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมาย นับว่าเป็นแดนสนธยาจริงๆ พลเอกประยุทธ์ จึงควรจัดการอสมท.ให้มีธรรมาภิบาล โปร่งใส และมีประสิทธิภาพมากกว่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการปฎิรูปสื่อและปฏิรูปประเทศอย่างแน่นอน แต่ต้องขจัดการทุจริตในอสมท.ให้ได้เสียก่อน” นายวัชระ กล่าว