นายกฯ ลงพื้นที่เชียงราย ชูไฮไลท์ชุมชนปลอดขยะ Zero Waste

"พล.อ.ประยุทธ์" นายกฯ ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ชูไฮไลท์ชุมชนปลอดขยะ Zero Waste และสวนสมุนไพรส่งเสริมเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาล
พันเอก อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันนี้(28พ.ย.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อตรวจติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและพบปะพี่น้องประชาชน ซึ่งไฮไลท์สำคัญของการตรวจราชการในครั้งนี้คือ การเปิดศูนย์เรียนรู้หมู่บ้านปลอดขยะ Zero Waste บ้านโป่งศรีนคร อ.ป่าแดด และรับฟังบรรยายสรุปโครงการสนับสนุนเชียงรายเมืองสมุนไพรและต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพ
“การจัดการขยะมูลฝอยถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยชุมชนบ้านโป่งศรีนครได้บริหารจัดการขยะตามแนวทางของรัฐบาลที่รณรงค์ให้กำจัดอย่างถูกวิธีและนำกลับไปใช้ใหม่ เช่น นำขยะไปทำปุ๋ยอินทรีย์เพื่อการเพาะปลูกพืชผักสวนครัว และนำขยะไปรีไซเคิลทำเป็นกระเป๋าถือเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน จนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ จากโครงการประกวดชุมชนปลอดขยะ Zero Waste ประจำปี 2559
ส่วนสวนสมุนไพร ม.แม่ฟ้าหลวง บนพื้นที่ 17 ไร่ ซึ่งประกอบด้วยพรรณไม้สมุนไพรกว่า 500 ชนิด 4,992 ต้น ทางม.แม่ฟ้าหลวง ได้เปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ พัฒนางานด้านสมุนไพร รวมทั้งจัดตั้งโรงงานผลิตยาสมุนไพรและโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง เพื่อให้บริการทางด้านสุขภาพ สนับสนุนจังหวัดเชียงรายและตอบสนองนโยบายรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากสมุนไพรอย่างมีประสิทธิภาพ”
พันเอก อธิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียังจะได้พบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อสอบถามปัญหาและให้กำลังใจ รวมทั้งจะเป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) เพื่อหารือถึงแนวทางการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ต่อไป
“ท่านนายกฯ อยากไปให้กำลังใจทั้งผู้ปฏิบัติงานและพี่น้องประชาชนชาวเชียงราย และหวังให้การติดตามโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่แต่ละครั้งเป็นตัวอย่างให้แก่จังหวัดอื่น ๆ ได้เรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การกำจัดขยะของบ้านโป่งศรีนครที่ประสบความสำเร็จจนทางจังหวัดได้ผลักดันให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบที่อยากให้ทุกคนได้มาศึกษาและนำไปปฏิบัติ เช่นเดียวกับสวนสมุนไพรที่ทุกพื้นที่สามารถดำเนินการได้ในลักษณะเดียวกัน เพื่อส่งเสริมศักยภาพของสมุนไพรท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน เป็นต้น”







