รวบบริษัทท่องเที่ยว ขู่ลูกทัวร์-ปล่อยลอยแพ

รวบบริษัทท่องเที่ยว ข่มขู่ลูกทัวร์ให้ซื้อแพคเกจเพิ่ม หากปฏิเสธจะกลั่นแกล้งไม่ยอมให้กุญแจห้องพัก - ปล่อยลอยแพ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ พ.ต.อ.ประเสริฐ เงินยวง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ธวัช วงศ์สง่า รอง ผบก.น.4 พ.อ.จิรสิทธิ์ จันทรมี ผบ.บก.ควบคุม ร.2 รอ. พ.ต.อ.เกื้อกมล ดวงประทีป ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ สว.ส.ทท.กก.1 บก.ทท. ร่วมกับนายอธิพงศ์ แสงศิลป์ หัวหน้างานกิจการพิเศษและตรวจสอบธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กรมการท่องเที่ยง นายโสภณ บำเทิงเวชช์ รอง ผอ.สำนักตรวจสอบภาษีกลางกรมสรรพากร และนายสาโรจน์ สุวัตถิกุล รองอธิบดีกรกรมธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงผลจับกุม น.ส.ซานซาน บดีภัทรกุล อายุ 36 ปี นายหลิง เซี่ยน อายุ 52 ปี( Mr.Lui Qing Zhong )สัญชาติจีน และนายสมบัติ บดีภัทรกุล อายุ 54 ปี พร้อมอุปกรณ์สำนักงาน เอกสารใบจองรถ จองโรงแรม ตารางนำเที่ยว รวมถึงเอกสารต่างๆในการประกอบธุรกิจนำเที่ยว หลังพบร่วมกันเปิดบริษัททัวร์เถื่อน ข่มขู่นักท่องเที่ยวซื้อแพ็คเกจเพิ่ม หากไม่ยอนยอมก็จะลอยแพนักท่องเที่ยว
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 19 มิ.ย. เวลา 00.30 น. ได้รับแจ้งจากลูกทัวร์ว่า มัคคเทศก์บริษัทนิวไท่ว๋านกั๋วทราเวล จำกัด บังคับขายโปรแกรมทัวร์และไม่ยอมให้กุญแจห้องพักกับนักท่องเที่ยวจำนวน 37 คน เหตุเกิดที่ รร.อาร์คอน ซอยนาเกลือ 16 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตรวจสอบทราบชื่อ น.ส.นันทกานต์ หรือตาล กัณหาสินธุ์ อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 70/92 ม.5 ซอยบ้านหนองตาเล็ก ต.หมากแห้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จากการสอบสวน น.ส.นันทกานต์ รับสารภาพเป็นมัคคเทศก์รับผิดชอบกรุ๊ปทัวร์ดังกล่าวจริง โดยมีนายหลิงเป็นมัคคุเทศก์ร่วมด้วยและเป็นผู้บรรยายแนะนำแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ รวมถึงจัดการเรื่องห้องพัก
"เจ้าหน้าที่จึงจับกุมบุคคลทั้ง 2 โดยแจ้งข้อหา เป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน กับ น.ส.นันทกานต์ และแจ้งข้อหา นายลี จุงคุน ( Mr.Li Jinkun ) อายุ 28 ปีที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ข้อหา เป็นมัคคุเทศก์ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์แทนตน
ขณะเดียวกันได้ขอหมาค้นศาลจังหวัดมีนบุรี เข้าตรวจค้นบริษัท ไท่ วาน กั๋ว ทราเวล จำกัดเลขที่ 4 / 136-137 ซอยรามคำแหง 147 / 2 ถนนรามคำแหง แขวง-เขตสะพานสูง กทม. ซึ่งมี น.ส.ซานซาน เป็นเจ้าของ ซึ่งนายหลิง เซี่ยน จง รับเป็นมัคคุเทศน์ ประจำบริษัทดังกล่าวและเป็นมัคคุเทศน์ให้บริษัทนิวไท่ ว่าน กั๋ว ทราเวล จำกัด ซึ่งมีนายสมบัติเป็นเจ้าของ
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ให้เจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยวตรวจสอบบริษัททั้ง 2 บริษัท พบว่า บริษัท ไท่ วาน กั๋ว ทราเวล จำกัด ถูกพักใช้ใบอนุญาตจำนวน 6 เดือน ตั้งแต่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ส่วนบริษัท นิว ไท่ ว่าน กั๋ว ทราเวล จำกัด ซึ่งมีนายสมบัติเป็นเจ้าของเพิ่งเปิดหลังจากบริษัท ไท่ วาน กั๋ว ทราเวล จำกัด ถูกพักใบอนุญาต แต่เอกสารต่างๆภายในบริษัทกับต้องผ่านการอนุญาตจาก น.ส.ซานซาน ทั้งที่ไม่มีชื่อเป็นคณะกรรมการในบริษัท ทำให้มีบริษัททัวร์ดังกล่าวมีลักษณะการทำงานเป็น “นอมินี”
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตั้งข้อสังเกตุว่าทั้ง น.ส.ซานซาน และ นายสมบัติ มีบัตรประชาชนไทยและนำบัตรประชาชน ดังกล่าวไปจดทะเบียนบริษัททั้งที่ทั้งสองพูดภาษาไทยไม่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสอบที่มาของบัตรประชาชนด้วยว่ามีที่มาหรือทั้งสองมีสัญชาติไทยจริงหรือไม่ พร้อมทั้งนำเอกสารการทำทัวร์ที่ยึดได้ภายในบริษัทไปตรวจสอบและขยายผลต่อไป
นายอธิพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีบริษัทหลายแห่งที่จ้างมัคคเทศก์ไทยมาทำงานก็จริง แต่จะจ้างมัคคเทศก์ต่างชาติหรือที่เรียกว่าไกด์เถือนเข้ามาทำงานประกบคู่ด้วย เนื่องจากไกด์เถื่อนนั้นจะเก่งภาษามากกว่าโดยการแนะนำสถานที่หรือนำเที่ยวต่างๆจะเป็นหน้าที่ของไกด์เถื่อนทั้งหมด ทำให้ในบางครั้งข้อมูลที่ให้กับนักท่องเที่ยวอาจจะคาดเคลื่อนจากความจริง อีกทั้งยังเป็นการแย่งงานคนไทยอีกด้วย ทำให้ประเทศไทยสูญเสียรายได้ในการท่องเที่ยว เพราะเงินที่เข้ามานั้นไม่ได้กระจายออกไปยังคนไทยมาเท่าที่ควร ซึ่งในประเทศไทยนั้นไกด์เถื่อนถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมายเพราะอาชีพมัคคเทศก์จะสงวนไว้ให้คนไทยทำเท่านั้น นำนักท่องเที่ยวไป
ด้าน รองอธิบดีกรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า กรณีประกอบธุรกิจนำเที่ยวซึ่งถูกพักใช้ใบนุญาตไปแล้วและได้เปิดบริษัทขึ้นมาใหม่หากผลการตรวจสอบพบว่าเป็นจริงก็จะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการในเรื่อง นอมิดี เพิ่มเติมตาม พรบ.ธุรกิจนำเที่ยวต่อไป ในส่วนของอัตราโทษกรณีดังกล่าวจะมีความผิดทางอาญา มีโทษจำคุก 3 ปีปรับ 100,000 ถึง 1,000,000 บาท หากไม่หยุดประกอบกิจการจะมีอัตราโทษปรับเป็นรายวันวันละ 10,000 ถึง 15,000 บาท
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลทั้งสองว่า ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต,เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมประสานล่ามช่วยแปลภาษาเพื่ออำนวยความสะดวกในการสอบปากคำ หากพบว่ามีกระทำความผิดในลักษณะอื่นก็จะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยนำตัวผู้จ้อหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน ดำเนินคดี







