ฝึกยิ่งใหญ่ 'ทร.-ทอ.' ขนเอฟ16-กริฟเฟน ตามแผนเฉลิมอากาศ
ฝึกกองทัพเรือ-กองทัพอากาศ ขนเอฟ16-กริฟเฟน ตามแผนเฉลิมอากาศ กลางทะเลอ่าวไทย
ในทะเลอ่าวไทย บนเรือหลวงจักรีนฤเบศ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ชมการฝึกป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองทัพเรือ โดยการสนับสนุนกำลังทางอากาศของกองทัพอากาศ เพื่อเป็นการทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกันทางทะเล โดยใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operations : NCO) โดยมี พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ รวมสังเกตุการณ์
โดยกำลังทางเรือในกองเรือฝึก ของกองทัพเรือ ประจำปี 2559 จำนวน 8 ลำ ได้แก่ รล.จักรีนฤเบศ รล.นเรศวร รล.ตากสิน รล.กระบุรี รล.รัตนโกสินทร์ รล.สุโขทัย รล.คีรีรัตน์ และ รล.สิมิลัน รวมถึงอากาศยานปราบเรือด้ำแบบที่ 1หรือ ซีฮอก จำนวน 3 ลำ
ขณะที่กำลังทางอากาศของกองทัพอากาศ ประกอบด้วย เครื่องบิน Saab 340 AEW จำนวน 1 ลำ เครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์Gripen 39 C/D จำนวน 6 ลำเครื่องบินเอฟ16 จำนวน 8 ลำ ทั้งนี้กองทัพอากาศ ได้ปรับแผนการฝึกเฉลิมอากาศเข้าร่วมการฝึกของกองทัพเรือในครั้งนี้
โดยเป็นการจำลองสถานการณ์ให้ รล.จักรีนฤเบศ ทำหน้าที่สั่งการบังคับบัญชา เครื่องบิน Gripen ปล่อยอาวุธนำวิธีโจมตีเรือผิวน้ำและสกัดอากาศยานของข้าศึก
สำหรับการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ระหว่างกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ในการปฏิบัติการทางทหาร เพื่อตอบสนองทฤษฎีการสงครามที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ในยุคของข้อมูลข่าวสาร ก่อให้เกิดอานุภาพในการรบ ผ่านการเชื่อมโยงเป็นระบบเครือข่าย ระหว่างผู้สั่งการและผู้ปฏิบัติในพื้นที่การรบ และก่อให้เกิดความรวดเร็วและตัดสินใจ ถูกต้อง หวังให้เกิดอานุภาพทำลายล้างสูง ลดการสูญเสียของกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ของฝ่ายเรา รวมถึงสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในการปฏิบัติ
โดยกองทัพอากาศได้พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical Data Link : TDL) แบบ Link-T ติดตั้งกับ บ.Gripen 39 C/D และระบบบัญชาการและควบคุมทางอากาศ ของกองทัพอากาศ เพื่อใช้ในการปฏิบัติการทางอากาศ และปฏิบัติการร่วมกับเหล่าทัพอื่น
ส่วนกองทัพเรือ ได้พัฒนาขีดความสามารถกำลังทางเรือ โดยติดตั้งระบบอำนวยการรบ กับ ร.ล.จักรีนฤเบศร, ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.ตากสิน จึงติดตั้งระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี เช่นเดียวกับกองทัพอากาศ เพื่อให้เกิดแลกเปลี่ยนข้อมูลทางยุทธวิธี กับ เครื่องบินGripen 39 C/D และ บ.Saab 340 AEW ของกองทัพอากาศแบบบูรณาการ เพื่อเสริมขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายและ ป้องกันการทำลายฝ่ายเดียวกัน
ด้าน พล.ร.อ.ณะ กล่าวว่า เนื่องจากเราเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนจึงจำเป็นต้องมีการบูรณาการทั้งเรื่องเวลา งบประมาณในการบริหารการฝึกของหน่วยต่างๆให้มาร่วมการฝึกเป็นหน่วยระดับใหญ่ทั้งทางบกและทางทะเลตามนโยบายของกระทรวงกลาโหมที่ต้องการให้แต่ละหล่าทัพร่วมปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในส่วนของกองทัพเรือได้ใการปรับปรุงยุทโธปกรณ์ที่มีคุณค่าระดับสูง ประกอบด้วย รล.จักรีนฤเบศร รล.นเรศวร รล.ตากสิน ซึ่งเป็นกำลังรบหลักของกองทัพเรือ โดยในการฝึกครั้งนี้กองทัพเรือนำเรือผิวน้ำมาร่วม จำนวน 32 ลำ อากาศยาน 10 ลำ
พล.ร.อ.ณะ กล่าวว่า การฝึกระหว่างกองทัพเรือและกองทัพอากาศเป็นการจำลองสถานการณ์รบแบบสมจริง และทำให้เราได้เห็นขีดความสามารถซึ่งกันและกัน จะนำภาพการฝึกครั้งนี้มาเป็นบทเรียนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายเพื่อพัฒนาการฝึกต่อไปตามนโยบายผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตามการฝึกระหว่างกองทัพเรือและกองทัพอากาศไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านั้นเรามีการฝึกร่วมกันอย่างต่อเนื่อง แต่ปีนี้กำลังพลของกองทัพเรือและกองทัพอากาศมีความพร้อมทั้งเรื่องยุทโธปกรณ์และระบบที่ทันสมัยdata link
“การฝึกครั้งนี้กองทัพเรือและกองทัพอากาศจะได้ทดสอบระบบของสองเหล่าทัพว่ามีประสิทธิภาพมาน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ผมรู้สึกพอใจผลการฝึกทั้งเรื่ององค์วัตถุและองค์ยุทธวิธี แต่ยอมรับว่าเรายังขาดขีดความสามารถบางประการหลายมิติ อาทิ การรบใต้น้ำ อาวุธป้องกันตนเอง อาวุธที่ใช้ในการรุก นอกจากนี้อาวุธที่มีอยู่เดิมของกองทัพเรือ มีอายุการใช้งานมานานแล้วจึงต้องดูแลเพื่อให้คุ้มค่าต่อการใช้งาน แต่ผมมองว่าบุคคลคือส่วนที่สำคัญที่สุดฝนการใช้เทคโนโลยีต่างๆเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ผมเน้นย้ำกำลังพลเสมอว่าให้เอาใจใส่ ” พล.ร.อ.ณะ กล่าว
พล.ร.อ.ณะ กล่าวต่อว่า ตามนโยบายขแงรัฐบาลและจองกระทรวงกลาโหม ซึ่งทุกเหล่าทัพมีอุดมการณ์และภารกิจในการป้องกันอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ รวมทั้งดูแลความมั่นคงแบะผาสุขของประชาชน นี่คืออุดมการณ์พวกเราทั้งกองทัพ ส่วนความคืบหน้าการจัดซื้อเรือดำน้ำ ต้องรอการพิจารณาความเป็นไปได้ของงบประมาณ
จากนั้น เวลา 14.00 น.บริเวณพื้นที่สนามฝึกยิงอาวุธหาดยาว ทุ่งโปรง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ ตรวจเยี่ยมการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธีในการฝึกเป็นหน่วย ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ประจำพื้นที่ ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2559 โดยมี พล.ร.ต.สานนท์ ผะเอม ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ให้การต้อนรับ
โดยการฝึกครั้งนี้ เพื่อทดสอบความพร้อมในการปฏิบัติงานตามแผนป้องกันประเทศ ในการป้องกันภันทางอากาศและการป้องกันพื้นที่ชั้นใน ถือเป็นการทดสอบขีดความสามารถขององค์บุคคลและองคฺวัตถุในการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี รวมทั้งเพื้อเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติทางเรือสาขาต่างๆ ในระดับหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือและการปฎิบัติตามบทบาทหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งมีการยิงอาวุธประกอบด้วยปืนใหญ่ขนาดกลางกระสุนวิธีโค้ง(ปกค.) ปืนใหญ่ขนาดกลาง(ปกร.) กระสุนวิธีราบ ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน(ปตอ.)
พล.ร.อ.ณะ กล่าวกับกำลังพลว่า ขอให้ทุกคนตั้งใจฝึกให้ดี เก็บเกี่ยวความรู้ประสบการณ์ต่างๆและการฝึกใช้ยุทโธปกรณ์ ขอให้กำลังพลทุกคน จะหยุดนิ่งไม่ได้ ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ พัฒนาตนให้เท่าทัน เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยใหม่ก้าวหน้าไปเร็วมาก ถ้าไม่หมั่นศึกษาเพิ่มเติมก็เท่ากับถอยหลัง ขอฝากไว้ว่าหากทุกคนรักกองทัพเรือก็ต้องพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถ เท่าทันเทคโนโลยีและวิทยาการต่อไป เพื่อให้กองทัพเรือมีความเข้มแข็งตลอดไป







