'สุภิญญา'แจงประเด็นร้อน! กรณีสรยุทธ-คุณปลื้มและ5ช่องทีวี

ลึกและเพิ่งเปิดเผย! "กสทช.สุภิญญา" แจงประเด็นร้อน กรณีสรยุทธ-คุณปลื้ม-5ช่องทีวี ปมจรรยาบรรณและจริยธรรมฉาว
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. ได้โพสต์ข้อความเมื่อคืนที่ผ่านมา (3มี.ค.) ผ่านทวิตเตอร์@supinya ระบุว่า ท่านที่ตั้งคำถามมาเรื่องบทบาท กสทช. กรณีคุณสรยุทธ ไร่ส้ม ช่อง3 เทียบกรณีอื่นๆ ขออธิบายดังนี้และให้แยกว่าอะไรคืองาน กสทช. อะไร #คหสต. (ความเห็นส่วนตัว) ดิฉัน
บทบาท กสทช.ต่อกรณีคุณสรยุทธ เริ่มที่เชิญทางช่อง3มาชี้แจง(เหมือนเชิญกรณีอื่นๆที่มีเรื่องร้องเรียน) ส่วนการแนะให้พักงานเป็น #คหสต.ดิฉันคนเดียว ดังนั้นการที่ กสทช. จะลุกขึ้นมาเชิญช่องต่างๆมาชี้แจง มีการประชุม หารือ โน่นนี่ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก เพราะคืองานประจำ ทำกันแทบทุกวัน
ในความเป็น กสทช.ภาพรวม ยังไม่ได้ take action ที่ต่างกรณีอื่นๆแต่อย่างใด เพียงการตอบสนองอาจจะเร็ว เพราะกระแสรุมเร้าอึกทึกครึกโครม เป็นธรรมดา ส่วน #คหสต. ของดิฉัน ที่เสนอแนะทางช่อง 3 ให้พักงานลดกระแสตอบสนองแรงกดดัน ก็เป็น #คหสต. เพราะอะไรดิฉันถึงมีดุลยพินิจเช่นนั้น จะอธิบายต่อไป
ถ้าจะบอกว่า กสทช.โดยภาพรวมสองมาตรฐานหรือไม่ ก็ไม่ เพราะ สนง.ยังอยู่ในขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจจริงเรื่องร้องเรียนตามขั้นตอน บอร์ดยังไม่ลงมติ ดังนั้นถ้าจะวิจารณ์ ดิฉันที่มี #คหสต. ก็ได้ แต่ กสทช.โดยภาพรวม ยังไม่ได้ตัดสินอะไรออกมา เพราะ สนง.ยังไม่เสนอบอร์ดลงมติอะไร ก็มีexitก่อนแล้ว
ดิฉันมีดุลยพินิจว่า กรณี #ไร่ส้ม นั้นเข้าข่ายคดีร้ายแรงเพราะให้สินบน จนท.รัฐ เรื่องเวลาโฆษณา ที่เกิดกับบุคคลสาธารณะกับช่องฟรีทีวีระดับชาติ ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นในยุค กสทช. สมมติมีธุรกิจสื่อจ่ายสินบนให้ จนท. กสทช. รับรองว่าคงอยู่กันยากทั้ง กสทช. ทั้งเอกชน ถ้าศาลชั้นต้นตัดสินว่าผิด
ขนาด กสทช.มีแนวคิดจะเลื่อนการจ่ายเงินประมูลให้ทีวีดิจิตอล ก็โดนขู่ว่าจะถูกฟ้อง ป.ป.ช.เสียแล้ว เพราะอาจถูกมองว่าเอื้อประโยชน์เอกชนเช่นกัน ดังนั้นคดีที่ศาลชั้นต้นตัดสินตามข้อเท็จจริงว่าสื่อมีการจ่ายสินบนให้ จนท.รัฐ ดิฉันจึงเห็นว่าร้ายแรง ส่วนหนึ่งเพราะกระทบอ้อมมาที่งาน กสทช.ด้วย
ถ้าดิฉันในฐานะ กสทช.ใช้ดุลยพินิจว่าการที่สื่อจ่ายสินบนให้ จนท.รัฐเรื่องโฆษณาไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ก็จะทำให้สังคมคลางแคลงใจการทำหน้าที่แน่นอน มันก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการทำงานของ กสทช. (ที่น้อยลงไปทุกวันอยู่แล้ว) เพราะ กสทช.มีหน้าที่ต้องกำกับการประกอบการ เวลาโฆษณาช่องทีวีด้วย
ดิฉันไม่ทราบว่า กสทช.ท่านอื่นจะมี 'ดุลยพินิจ' ต่อเรื่องนี้อย่างไร แต่ดิฉันมีเหตุผลของตนเอง เมื่อนักข่าวถามก็จึงเสนอแนะช่อง3ไปเช่นนั้น ก็เป็นเพียงการเสนอแนะ เป็น #คหสต. เพราะในฐานะ กสทช.1เสียง ไม่มีอำนาจใดอยู่แล้ว ต้องเป็น มติบอร์ด ก่อนเท่านั้น จึงมีผลบังคับใช้
อีกทั้งเรื่องจริยธรรม กรณี #ไร่ส้ม นี้ ดิฉันก็คิดว่า กสทช. ไม่มีอำนาจไปตัดสินตรงๆ เพราะกฏหมายบอกว่าให้ส่งเสริมสื่อกำกับกันเองก่อน การเสนอแนะให้ทางช่อง3กำกับตนเองก่อน แทนที่จะรอให้คนอื่นมากดดัน จึงเป็นการส่งเสริมการกำกับดูแลตนเองของช่อง3ตามหน้าที่ในกฏหมายด้วย
แล้วคดีอื่นๆ มีอะไรที่เห็นว่าร้ายแรงอีกบ้าง นอกจากคดีรับสินบน ก็คงมีพวกคดีข่มขืน ฆ่าคนตาย ล่วงละเมิดทางเพศ ถ้าข้อเท็จจริงชัดในศาลชั้นต้น ส่วนพวกคดีสิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนหรือแม้แต่คดีการเมือง ดิฉันมองว่าต้องให้โอกาส เช่นคดีหมิ่นประมาท แม้ผิดแต่อาจเป็นไปเพื่อ ปย.สาธารณะก็ได้
สื่อถูกฟ้องคดีหมิ่นประมาทกันมาก สมมติถ้าถูกศาลชั้นต้นตัดสินว่าผิด แม้ว่านำเสนอความจริงเช่นเปิดโปงการทุจริต ดิฉันอาจอยู่ข้างสื่อ เป็นต้น คดีพวกอุบัติเหตุ แม้ร้ายแรง แต่อาจเพราะไม่เจตนา จึงอาจร้ายแรงน้อยกว่าคดีให้สินบนที่มีเจตนาชัด เป็นต้น เราควรดูทั้งเจตนาและเนื้อคดี
เพราะจริยธรรม เป็นเรื่องที่ต้องใช้ดุลยพินิจ หรือ สามัญสำนึก จึงไม่แปลกที่ต่างคนจะคิดไม่เหมือนกัน กฏหมายจึงไม่ให้อำนาจ กสทช.5คน ตัดสินกันเอง กลไกพหุภาคี จึงน่าจะเป็นคำตอบของสังคมไทย ในการกำกับจริยธรรมของสื่อ เพื่อหาค่ามาตรฐานกลางที่สังคม รับได้ รับไม่ได้ ร่วมกัน
กระแสสังคม ไม่ใช่ไม่ดี หลายครั้งดีมาก เพราะเป็นกลไก ตรวจสอบถ่วงดุล check & balance ที่มีพลังที่สุดแล้ว ถ้าเทียบกับ 'สถาบัน' อื่นๆ ฝ่ายที่ตรวจสอบคนอื่นว่าทำไมไม่ตรวจสอบคนนั้นคนนี้ จริงๆก็ควรลุกขึ้นมารวมกลุ่มตรวจสอบเองให้แรงๆ แข่งกันตรวจสอบฝั่งที่เรากังขา สังคม win-win
ท่านที่ตั้งคำถามว่า กสทช.ไม่ตรวจสอบกลุ่มช่องทีวีการเมืองในดาวเทียมบ้างหรือเช่น ASTV TNews หรือแม้แต่ PeacTV จะบอกว่ากลุ่มนี้โดนเชิญกันจนน่วม ที่ผ่านมา กสทช. ก็อ้างจริยธรรม ความรับผิดชอบของสื่อ เชิญกลุ่มช่องทีวีดาวเทียมการเมือง พูดคุยกดดันจนฝ่อกันไปมากแล้ว เพียงแต่ข่าวไม่ดังเท่า
ส่วนช่อง New TV ก็เคยโดน กสทช. เรียกชี้แจงมาแล้ว กรณีรายการคุณปอง อัญชะลี โดนเสนอนแนะกันไปเรื่องจรรยาบรรณ ไม่ใช่ไม่โดน แต่ไม่เป็นข่าว ช่อง @amarintvhd เอง รายการคุณพุทธอภิวรรณ ก็โดน กสทช. เรียกชี้แจงมาแล้วหลายรอบ เรื่องจริยธรรมการนำเสนอข่าว ไม่ใช่ไม่โดน
คลาสสิคสุดคือช่อง @Voice_TV โดน กสทช.เรียกชี้แจงจนผู้บริหารช่องสั่งพักงานคุณปลื้ม 3-7วัน แต่ไม่มีข่าว ตัวช่องเองก็เงียบกริบ มีดิฉันมาให้ข่าว ตอนช่อง @Voice_TV โดนอนุเนื้อหาเรียกชี้แจง แล้วฝ่ายผู้บริหาช่องเสนอพักรายการคุณปลื้ม 7 วัน ดิฉันคิดว่าทางช่องจะโวย กสทช. แต่กลับเงียบๆ
แม้ดิฉันจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับความเห็นคุณปลื้มนัก เพราะแปลกๆ แต่ดิฉันเป็นคนเดียวใน กสท. ที่ลงมติให้คุณปลื้มไม่ผิด เพราะยังไม่ล้ำเส้นขนาดนั้น เข้าใจได้ว่าทางช่อง @Voice_TV อาจมีความกังวลอะไรอยู่ จึงไม่โวยวายการใช้อำนาจของ กสทช. และยอมเสนอพักรายการคุณปลื้มเอง หลายครั้ง
ทราบจาก อนุเนื้อหาว่า ยังมีเคสช่อง @Voice_TV กรณีคุณปลื้ม รอส่งให้ กสท. พิจารณาอีก ถ้่าทางช่องเห็นว่าตนไม่ผิด ก็ควรโวยการใช้อำนาจ กสทช.ได้ ถ้าเทียบกรณีการที่ช่อง @Voice_TV สั่งพักงานคุณปลื้ม ดิฉันมองว่า เรื่องแรงน้อยกว่าเคสช่อง 3 มาก คนละมิติเลย เพราะคุณปลื้มแค่แสดงความเห็น
ข้อหาที่คุณปลื้มโดนช่อง @Voice_TV สั่งพักงาน ก็เรื่องจรรยาบรรณจริยธรรมการนำเสนอข่าวนี่ล่ะ ช่องยอมรับว่าไม่เป็นกลาง(ถึงขั้นพักงานเชียว) ลึกๆดิฉันเข้าใจดีว่าช่อง @Voice_TV คงกลัวแรงกดดันบางอย่าง จึงยอมพักงานคุณปลื้ม เหมือนที่ช่อง3 เจอแรงกดดัน ต่างคนต่างเจอแรงกดดัน คนละแบบ
ดิฉันจึงไม่เห็นด้วยกับมติ กสท. กรณี @Voice_TV เพราะคิดว่าใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ แต่ทางตัวช่องเองยอมรับสภาพไปตามเหตุปัจจัย จึงสั่งพักงานไปเอง
สรุป แทบทุกช่องเจอแรงกดดันจาก กสทช. ดิฉันเห็นด้วยบ้าง ค้านบ้าง แต่คิดว่าควรให้ทุกเรื่องอยู่ในพื้นที่สาธารณะ ดีกว่าปิดห้องคุยกันเงียบๆ พอสังเขป คืนนี้พาดพิงผู้คนไปเยอะเลย ถือว่าแลกเปลี่ยนการทำงานของ กสทช. เพื่อทราบค่ะ ยังมีอีกเยอะ ซับซ้อนนะ เห็นต่างบ้างเหมือนบ้าง ว่ากันไปค่ะ







