'วิลาศ'จับพิรุธ ปมขยายเวลาสร้างสภาใหม่

'วิลาศ'จับพิรุธ ปมขยายเวลาสร้างสภาใหม่

"วิลาศ" จับพิรุธ ปมขยายเวลาสร้างสภาใหม่ ปูดเปลี่ยนกก.ตรวจจ้างงานชุดใหม่ เอื้อประโยชน์หรือไม่

นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งข้อสังเกตในการทำสัญญาขยายเวลา การสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ให้บริษัทผู้รับเหมา อีก 387 วัน ว่า ก่อนที่จะมีการใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ย้ายนายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภาฯให้ไปเป็นที่ปรึกษาสำนักนายกฯ บริษัทชิโน-ไทยฯที่รับเหมาสร้างรัฐสภาใหม่ ได้ทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อนายพรเพชร พิชิตชลชัย ประธาน สนช. อ้างเหตุผลการส่งมอบที่ดินโรงเรียนโยธินบูรณะล่าช้า จากเดิมที่สัญญาก่อสร้างต้องแล้วเสร็จภายใน 900 วันคือระหว่างวันที่ 6 เม.ย.2556 - 24 พ.ย.2558 โดยมีการขอขยายเวลาก่อสร้างเพิ่มอีก 487 วัน ซึ่งคณะกรรมการตรวจการจ้าง สภาฯ ได้ประชุมร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างและบริษัทควบคุมงานก่อสร้าง มีมติให้ขยายเวลาเพิ่มให้ 287 วัน แต่หลังจากที่มีการย้ายนายจเรไปแล้ว นายพรเพชร ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อตลอดว่า งานล่าช้าเกิดจากคนของสภาฯ

นายวิลาศ กล่าวว่า ขณะที่นางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เลขาธิการสภาฯ ก็ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการตรวจการจ้างงานชุดใหม่ จากเดิมที่มีคณะกรรมการด้านวิศวกรรมโครงสร้างหลักๆ อาทิ วิศวกรโครงสร้างสาขาต่างๆ 5 คน สถาปนิก 3 คน และอัยการอีก 2 คน มาเป็นกรรมการชุดใหม่ ที่มีวิศวกรเครื่องกลจากกรมโยธาฯ 1คน วิศวกรโยธาจาก กทม.1 คน โดยตัดอัยการและสถาปนิกออก ส่วนที่เหลือได้ตั้งข้าราชการสภาฯระดับกลาง ซึ่งไม่มีความเชี่ยวชาญทางโครงสร้างอาคารใดๆเข้าไปเป็นแทน และประชุมครั้งเดียวก็มีมติอนุมัติให้มีการทำสัญญาขยายเวลาการก่อสร้างให้บริษัทชิโน-ไทยฯเพิ่มอีก 387 วัน 

นายวิลาศ กล่าวว่า ตนจึงสงสัยว่า เหมาะสม ถูกต้องหรือไม่ เพราะกรณีที่บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง สร้างงานไม่เสร็จตามสัญญา จะมีค่าปรับวันละ 12 ล้านบาทเศษ การขยายเวลาให้ถึง 387 วัน หรือเพิ่มจากกรรมการตรวจจ้างชุดเก่าอีก 100 วัน ก็คิดเป็นค่าเทียบปรับมากกว่า 1 พันล้านบาท ถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ใครหรือไม่ อย่างไร