'สรรเสริญ'เผย ยอดนักท่องเที่ยวแตะ 29.5 ล้านคนทะลุเป้า

'สรรเสริญ'เผย ยอดนักท่องเที่ยวแตะ 29.5 ล้านคนทะลุเป้า

"พล.ต.สรรเสริญ" เผย ยอดนักท่องเที่ยวขณะนี้อยู่ที่ 29.5 ล้านคน ทะลุเป้า ด้าน นายกรัฐมนตรีสั่งเดินหน้าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกำชับในที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในปัจจุบันจำนวน 29.5 ล้านคน สูงกว่าเป้าหมายคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปีประมาณ 28.8 ล้านคน สูงจากปี 57 ที่มีจำนวน 24.7 ล้านคน จึงเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในด้านต่างๆ เช่น การสร้างท่าเรือยอร์ชจังหวัดภูเก็ต เพื่อเชื่อมโยงการเดินเรือกับสิงคโปร์และประเทศเพื่อนบ้าน การพัฒนาทะเลชายฝั่ง การส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบผจญภัยของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่จากต่างชาติ

นอกจากนี้รัฐบาลให้ความสำคัญช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผ่านสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)มองว่าการปล่อยสินเชื่อผ่านธนาคารพาณิชย์ยังไม่เพียงพอ จึงมองหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ไปศึกแผนงานของ สสว.ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มเติม รวมทั้งให้สำรวจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งได้ล้มไปแล้วและฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง มีการจดทะเบียนใหม่เพิ่มเติมเท่าใดสำหรับ SME Strat Up เพื่อต้องการทราบตัวเลขให้ชัดเจนและออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม

นายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงการคลัง พิจารณาหาแนวทางการหาแหล่งเงินมาช่วยสนับสนุนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพิ่มเติม และหาทางดึงเงินจากนักศึกษาที่จบการศึกษาและได้ออกไปทำงานแล้วให้นำเงินมาชำระคืนกับกองทุน กยศ.เพื่อให้นักศึกษารุ่นใหม่ได้กู้ยืมเพิ่มเติม ยืนยันว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดการยุบกองทุนแต่ต้องการให้กองทุนเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการให้นายสมคิด ตั้งคณะทำงาน รองรับการสร้างโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เพื่อเปิดรับฟังข้อเสนอแนะจากนักวิชาการ เอ็นจีโอ หาข้อสรุปร่วมกันอย่างชัดเจน ป้องกันไม่ให้เมื่อเริ่มก่อสร้างโครงการไปแล้วจะออกมาเรียกร้องว่าเกิดผลกระทบในด้านต่างๆจากโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาสถานที่จำหน่ายสินค้า เพื่อสร้างเป็นตลาดนัดเสาร์- อาทิตย์ หรือตลาดทำเลดี ไม่แพ้พื้นที่เดิม จากการย้ายชาวบ้านจากตลาดคลองโอ่งอ่าง เพื่อพัฒนาคลองดังกล่าวให้สวยงามและแก้ปัญหาความแออัดในบริเวณดังกล่าว