ศธ.เร่งสกัดทุจริตลอกวิทยานิพนธ์

ศธ.เร่งสกัดทุจริตลอกวิทยานิพนธ์

ศธ.เร่งวางมาตรการสกัดทุจริตลอกวิทยานิพนธ์ และแก้ปัญหาธรรมาภิบาลในมหา’ลัย

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ในการประชุมขับเคลื่อนหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งมีตัวแทนจากหลายหน่วยงาน อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าร่วม ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาที่มีหลายประเด็น รวมถึงปัญหาการทุจริต ทั้งเรื่องการสรรหากรรมการสภามหาวิทยาลัยที่ไม่เป็นธรรมการเปิดหลักสูตรที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์การคัดลอกวิทยานิพนธ์ เป็นต้น ซึ่งปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ในแง่มุมทางกฎหมาย

 โดยเฉพาะประเด็นการคัดลอกวิทยานิพนธ์ ซึ่งเจ้าของผลงานในฐานะผู้เสียหายสามารถยืนฟ้องและดำเนินคดีทางอาญาแก่ผู้ที่คัดลอกผลงานได้ เพราะการกระทำดังกล่าวเท่ากับเป็นการขโมยทรัพย์สินทางปัญญานอกจากนี้ สตง.ยังมีข้อเสนอแนะด้วยว่าหากมหาวิทยาลัยใดมีเรื่องร้องเรียนการรับจัดอบรม การศึกษาดูงานต่างประเทศและในประเทศในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ก็ไม่จำเป็นต้องรอหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบการใช้เงิน แต่หากบุคลากรภายในมหาวิทยาลัยหากทราบเรื่องก็สามารถร้องเรียนในรูปแบบบัตรสนเท่ส่งมาที่ สตง.ได้ทันที

 “ที่ ประชุมมีข้อเสนอแนะสำหรับการแก้ไขปัญหาทุจริตภายในมหาวิทยาลัยด้วยการใช้แง่ ของกฎหมายอย่างหลากหลายมิติ ซึ่งก็เข้าใจดีว่าแม้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะเป็นหน่วยงานที่ดูแลมหาวิทยาลัยแต่ก็ไม่สามารถมีอำนาจเด็ดขาดในการจัดการ ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างจริงจังดังนั้นที่ประชุมจึงมอบหมายให้ สกอ.นำข้อเสนอแนะที่ได้รับจากหน่วยงานต่างๆ ไปศึกษาโดยเฉพาะข้อกฎหมายต่างๆเพื่อหามาตรการขจัดปัญหาทุจริตอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานและจะประกาศให้ประชาคมมหาวิทยาลัยรับทราบด้วยซึ่งเราไม่อยากให้วงการอุดมศึกษามีเรื่องทุจริตเกิดขึ้น เนื่องจากเป็นมันสมองของประเทศและควรยึดหลักจริยธรรมเป็นที่ตั้ง”รมช.ศึกษาธิการ กล่าว

 ขณะที่ รศ.นพ.สรนิตศิลธรรม รองเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.)กล่าวว่า ในส่วนการร้องเรียนด้วยบัตรสนเท่ นั้นหากผู้ส่งไม่ลงชื่อก็ไม่เป็นไร เพียงแต่ขอให้ส่งข้อมูลหลักฐานในเรื่องที่ต้องการร้องเรียนให้ครบถ้วน ทาง สกอ.ก็จะสามารถนำไปตรวจสอบตามข้อร้องเรียนได้ทันที ซึ่งได้ข้อคิดจากที่ประชุมเพื่อเป็นหลักทำงาน3เรื่องคือ ปลูกฝัง ป้องกัน และเปิดโปง อย่างไรก็ตาม สกอ.หวังว่าวงการอุดมศึกษาซึ่งเป็นวงการที่เป็นมันสมองของชาติ ควรจะต้องมีจริยธรรมและเป็นที่พึ่งของคนไทย และต้องมีปัญหาเรื่องทุจริตหรือเรื่องธรรมาภิบาลน้อยกว่าสังคมอื่นๆ เพราะฉะนั้น สกอ.จะพยายามเร่งปลูกฝังเรื่องคุณจริยธรรม ความดีงาม และใช้กฎหมายมาเป็นเครื่องมือในการควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามากขึ้น