ยันรื้อถอนสะพานเหล็ก20ต.ค. เปิดทางจัดระเบียบ

ที่ห้องประชุมเพชรพระนคร ชั้น 5 อาคาร 2 สำนักงานเขตพระนคร พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เป็นประธานการประชุมคณะทำงานแก้ไขปัญหาคลองโอ่งอ่าง ตามแผนปฏิบัติการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ลุกลามบริเวณคลองโอ่งอ่างพร้อมจัดระเบียบปรับปรุงภูมิทัศน์พัฒนาสภาพแวดล้อม โดยมีนายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. ผู้บริหารเขตสัมพันธวงศ์ ผู้บริหารเขตพระนคร สำนักการโยธา สำนักการระบายน้ำ สำนักผังเมือง สำนักสิ่งแวดล้อม สำนักพัฒนาสังคม สำนักเทศกิจ สำนักงานตลาด กรมศิลปากร กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และกองพันทหารราบ ศูนย์กำลังสำรอง ร่วมประชุม 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนสำนักงานเขตสัมพันธวงศ์และสำนักงานเขตพระนคร ได้รายงานว่า ที่ผ่านมาได้ออกหนังสือเตือนผู้ประกอบการค้าจำนวน 498 รายเมื่อวันที่ 13 ต.ค.2558 โดยได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่สาธารณะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 มาตรา 368 และมาตรา 386 ประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 ประกอบมาตรา 108 ทวิและพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 3 2 โดยภายหลังปิดประกาศคำสั่งของคณะปฎิวัติ ฉบับที่ 44 พ.ศ.2502 หรือ ปว.44 ที่สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์มีผู้ประกอบการค้ามายื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งที่เขต ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจำนวน 79 ราย ส่วนสำนักงานเขตพระนครมีผู้ประกอบการค้ามายื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งที่เขตต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจำนวน 212 ราย รวมผู้ขออุทธรณ์คำสั่งหรือถอนฯ ทั้งสิ้น จำนวน 291 ราย ทั้งนี้ ในระหว่างดำเนินการรื้อถอนนั้น จะมีเจ้าหน้าที่จาก 50 สำนักงานเขต จัดเวรเพื่อมาเฝ้าพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนแผนการปรับปรุงพื้นที่หลังการรื้อถอน โดยสำนักผังเมืองนั้น จะใช้งบประมาณ40ล้านบาท ในการซ่อมแซมสะพาน ปรับปรุงทางเท้า และราวกันตก รวมทั้งเพิ่มต้นไม้ ไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายข้อมูลบอกทางนักท่องเที่ยว   

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า คณะทำงานแก้ไขปัญหาคลองโอ่งอ่าง ได้มีมติที่จะดำเนินการตามแผนปฏิบัติการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ลุกลามบริเวณคลองโอ่งอ่าง ซึ่งกทมได้ดำเนินการตามระเบียบ คำสั่ง และข้อบังคับของกฎหมายครบทุกขั้นตอน โดยได้ออกคำสั่งปิดประกาศตามอาคารบ้านเรือนทุกหลังที่บุกรุกคลองโอ่งอ่างให้ทำการรื้อถอนอาคารผู้ค้าไปแล้วตั้งวันที่ 28 ก.ย.2558 เพื่อให้ดำเนินการรื้อถอนภายใน 15 วัน ซึ่งหากไม่ดำเนินการรื้อถอนภายในระยะเวลาที่กำหนด กทม.จำเป็นต้องอาศัยอำนาจตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ดำเนินการตามขั้นตอน โดยที่ประชุมได้กำหนดวันเริ่มดำเนินการรื้อถอนในวันที่ 20 ต.ค.2558 โดยจะจัดตั้งศูนย์อำนวยการ ปิดล้อมรั้ว และติดตั้งเครื่องมือสำหรับรื้อถอน พร้อมทั้งจะประกาศให้ผู้ค้าเร่งเก็บทรัพย์สินและสินค้าภายในตัวอาคารหรือร้านค้าเพื่อป้องกันการเสียหาย      

“ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ค้าได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเพื่อพิจารณานั้น ผมยืนยันว่ากทม.มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอน ระเบียบและข้อบังคับต่อไป ในระหว่างที่รอผลการพิจารณา จึงขอความร่วมมือและวิงวอนกลุ่มผู้ค้าให้ปฎิบัติตามกฎหมายโดยยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก เพื่อประโยชน์ของประชาชนและสังคมส่วนรวม โดยในวันที่ 20 ต.ค. เวลาประมาณ 09.00น. กทม.จะไปตั้งกองอำนวยการ พร้อมตั้งแผงรั้วกันพื้นที่ เพื่อเตรียมรื้อถอนอาคาร สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่รุกล้ำคลองโอ่งอ่างออกจากพื้นที่ โดยระหว่างตั้งกองอำนวยการ กทม.จะให้ผู้ค้าทยอยขนย้ายทรัพย์สินที่อยู่ด้านในตัวอาคารออกจากพื้นที่ด้วย”พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว  

ด้านพล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า สำหรับกองอำนวยการที่จะตั้งขึ้นในวันที่ 20ต.ค.นั้น ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กทม.พยาบาล กรมศิลปากร สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรย์ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนกทม.จะรับผิดชอบเอง  โดยภายหลังวันที่ 20 ต.ค.2558 กทม.อาจจะต้องตัดน้ำตัดไฟบริเวณที่จะรื้อถอนด้วย โดยคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนธ.ค.นี้