รวบ7ผู้ต้องหาขนยาเกือบ3แสนเม็ด ไอซ์73กรัม

รวบ7ผู้ต้องหาขนยาเกือบ3แสนเม็ด ไอซ์73กรัม

ตร.ภ.5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 7 คน อาศัยช่วงฝนตกชุกในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขนยาบ้าเกือบ 3 แสนเม็ด ไอซ์ 73 กรัม รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภ. 5 ร่วมกับ พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รองผบช.ภ.5,พล.ต.ต.ประหยัชว์ บุญศรี รอง.ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ประจวบ วงศ์สุข ผบก.สส.ภ. 5 ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ 5 คดี สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ในวันแม่แห่งชาติ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 293,042 เม็ด ยาไอซ์ 73.3 กรัม

พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากยุทธศาสตร์การสกัดกั้นยาเสพติดของทางเจ้าหน้าที่ทั้ง 43 ด่านตรวจในพื้นที่ภาคเหนือทั้งในเส้นทางสายหลัก และสายรอง อย่างเข้มข้น โดยวานนี้ (12 สิงหาคม) สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 7 ราย จาก 5 คดีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง ภายใต้ความดูแลของตำรวจภูธรภาค5 โดยคดีแรกเมื่อเวลา 11.30น. (12 ส.ค.)รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขร-7252 เชียงใหม่ ได้ขับผ่าน ด่านตรวจท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่พบพิรุธ บุคคลในรถทั้ง 3 คนได้แก่ นายอภิสิทธิ์ อ้ายหลวง อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 107/1 ม.7 ต.ทุ่งต้อม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนาย ประทิน หล้านอด อายุ 22 ปี และนายแดง นามสมมติ (นายธีรยุทธ จันทร์ตา) อายุ 16 ปี ทั้ง 3 คน มีอาการลุกลี้ลุกลน เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจค้น ภายในรถ

ขณะที่ในรถไม่มีสิ่งของต้องสงสัย แต่เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นยางอะไหล่ 2 เส้นท้ายรถ และในรถ ไม่ใช่ของยี่ห้อรถดังกล่าว และเมื่อลองเคาะดูก็พบว่าไม่มีลมอยู่ภายใน จึงตรวจสอบพบมีรอยคมมีดกรีดเป็นรอยแยกจากกัน อย่างแนบเนียน และพบว่ามีการซุกซ่อนยาบ้าภายในจำนวนรวมกว่า 260,000 เม็ด โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพ โดยพยายามจะใช้เส้นทางดังกลางขนยาเสพติดจากแนวชายแดนเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน

ส่วนรายที่2 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายมลทัน ทะนันไธสง ชาวอำเภอฝาง จ.เชียงใหม่ ที่บริเวณถนนวงแหวนรอบ 3 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 30,800 เม็ดซุกซ่อนในรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีเม็กซ์ หลายเลขทะเบียน ผล-7322 เชียงใหม่ หลังจากพบว่ารถคันดังกล่าวจอดซุ่มอยู่ริมถนนเป็นเวลานานคล้ายรอใคร กระทั่งเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวเข้าสอบถาม พบนายมลทัน มีอาการพิรุธ และพบว่ามีสิ่งของวางอยู่ข้างคนขับจึงขอตรวจค้น พบว่ามียาบ้าจำนวนกว่า 10,000 เม็ดซุกซ่อนอำพรางอยู่ในกล่องใส่โทรศัพท์มือถือ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวไว้และขยายผลไปยังบ้านเช่าของนายมลทัน ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก็พบว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในลำโพงเครื่องเสียงในห้องนอน อีกกว่า 20,800 เม็ด ซึ่งนายมลทันยอมรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยกำลังเตรียมนำไปส่งให้กับเอเย่นต์ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว

รายที่ 3 สภ.เมืองลำปาง สามารถจับกุมตัวนายกิตติชัย การะถัน อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 73/1 หม่ 4 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลางยาบ้า 2,020 เม็ดไอซ์ 71.30 กรัม ภายในรถเก๋ง ฮอนด้าสีดำ ทะเบียน กล 9075 เชียงใหม่ เตรียมนำส่งขายยังพื้นที่ตัวเมืองลำปาง รายที่ 4 สภ.เมือง ลำปาง จับกุมตัวนางจันทร์ พุทธัมบุตร อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ 7 ต.ปงแสนทอง อ.เมือง จ.ลำปาง พร้อมของกลางยาบ้า196 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกง ขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพ ว่ามีอาชีพทำนา แต่รายได้ไม่พอใช้เลยค้ายาบ้าภายในหมู่บ้านเป็นอาชีพเสริม ก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว

และรายที่ 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นางกัญญณัช ชัยมงคล อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 202/3 หมู่ 2 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้ที่ด่านตรวจผาหงส์ สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ขณะที่นางกัญญณัช โดยสารมากับรถประจำทางสาย ฝาง-เชียงใหม่ ขณะกำลังเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่พบของกลาง ยาบ้า 26 เม็ด ไอซ์ 2 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายข้าง ขณะที่ผู้ต้องหาสารภาพว่าได้เดินทางไปซื้อยาเสพติดเพื่อนำไปเสพเอง ทำมาแล้วหลายครั้งก่อนจะถูกจับกุมดังกล่าว

 “สรุปผลการจับกุม 5 รายได้ของกลางยาบ้ารวม 293,042 เม็ด ไอซ์ 73.3 กรัม ผู้ต้องหา 7 คน ยึดรถยนต์ 3 คัน โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ก่อนจะสืบสวนเพื่อขยายผลกับกุมเครือข่าย และยึดทรัพย์ต่อไป ซึ่งอย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้เกิดฝนตกหนัก และเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดจึงฉวยโอกาสอาศัยแฝงตัวลักลอบขนยาเสพติด เพราะคิดว่า ทางเจ้าหน้าที่อาจจะหย่อนยาน ในการสกัดกั้นยาเสพติด แต่แท้จริงแล้วเจ้าหน้าที่ยังคงทำงานกันอย่างเต็มที่ โดยมีการดักซุ่มอยู่ยังจุดเส้นทางที่คาดว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดผ่าน แม้ผู้ค้าจะใช้วิธีการต่างๆ ตบตา อย่างครั้งนี้ที่ซุกยาเสพติดในยางรถอย่างแนบเนียนก็ยังสามารรถตรวจค้น และจับกุมได้ โดยไม่ต้องใช้เครื่องเอ็กซเรย์ ใช้เพียงความชำนาญของเจ้าหน้าที่เท่านั้น”พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ กล่าว