รวบอีก 2 แม่ข่ายยูฟันฯ

รวบอีก 2 แม่ข่ายยูฟันฯ

ตำรวจรวบอีก 2 แม่ข่ายคดียูฟันฯ ย้ำเป็นสมาชิกระดับแม่ข่ายในสายของ"อภิชณัฏฐ์ แสนกล้า" ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า

กองบังคับการการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค(บก.ปคบ.) ชั้น 4 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถ.แจ้ววัฒนะ กทม. พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ.พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิรพล อัจกลับ ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับอันดับที่ 45 และ 46 ในคดีร่วมกันกระทำความผิดกับบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด เป็นสมาชิกระดับผู้นำ จำนวน 2 คน คือ นายณัฐพล จิรสมิทธา หรือ เอวิท อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่1308/2558 ลงวันที่ 23 มิ.ย.58 และนางสาววรวีร์ ไชยะ อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่1370/2558 ลงวันที่23มิ.ย.2558

พ.ต.อ.อังกรู กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองเป็นสมาชิกระดับแม่ข่ายในสายของนายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า หรือโน๊ต ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนายณัฐพล เป็นสมาชิกที่มีหน้าที่บรรยายแผนรายได้ของบริษัท ยูฟันฯ และทำการชักชวนหรือโน้มน้าวใจให้ประชาชนร่วมลงทุนกับบริษัทฯ รวมไปถึงมีผู้อื่นนำวีดีทัศน์ ที่เป็นคำบรรยายของนายณัฐพล ไปเผยแพร่ต่อในระบบอินเตอร์เน็ต จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายณัฐพล พบมีจากการทำความผิดอยู่ในบัญชีเงินฝาก จำนวน 3.9 ล้านบาท ส่วน น.ส.วรวีร์ เป็นสมาชิกอยู่ทีมเดียวกับนายณัฐพล โดยเจ้าหน้าได้ทำการสืบสวนเส้นทางการเงินมีรายได้จากการกระทำความผิดเข้าบัญชี จำนวนกว่า 24 ล้านบาท จึงได้ขอออกหมายจับ โดยทั้งสองถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันกระทำความผิดการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ส่วนนายณัฐพล ได้เพิ่มข้อหานำเข้าสู่ระบบนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลอันเป็นเท็จ

นายณัฐพล กล่าวว่า ที่มาวันนี้(3 ส.ค.) เพื่อชี้แจงและแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากตนเองไม่ทราบว่าบริษัทยูฟันฯนั้น กระทำการผิดกฎหมาย โดยตนได้ร่วมลงทุนกับบริษัทยูฟันฯตั้งแต่เดือน พ.ค.57 ที่ผ่านมา จำนวนเงิน 3 หมื่น 5 พันบาท อยู่ในระดับ 2 ดาว และต่อมาซักระยะก็มีการลงทุนเพิ่มอีก 1 แสน 7 หมื่นบาท ด้วยความที่ตนเป็นคนพูดสนุกและอธิบายแผนงานเข้าใจ จึงได้มีการไปพูดบนเวที โดยตนมีลูกข่ายจำนวน 700-800 คน ทั้งนี้ในช่วงแรกที่เริ่มมีการสอบส่วนและเข้าตรวจค้นบริษัทยูฟันฯ เมื่อวันที่10 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนรู้สึกตกใจ และยังมีความเชื่อมั่นในบริษัทว่า ทำธุรกิจถูกต้องจึงได้ออกมาวิพากย์วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและสื่อมวลชน ซึ่งในส่วนนี้ตนยอมรับผิดและขอโทษสื่อมวลชน เพราะกระทำไปโดยไม่เจตนา และรู้เท่าไม่ถึงการ

ด้านน.ส.วรวีร์ กล่าวว่า ตนได้ศึกษาการลงทุนของบริษัทยูฟันฯด้วยตัวผ่านเว็ปไซต์ยูทูป และได้ลงทุนครั้งแรก เมื่อช่วงเดือน พ.ค.57 จำนวน 3 แสน 5 หมื่นบาท มีลูกข่ายมากกว่า 1,000 ราย ซึ่งในช่วงแรกที่มีการปราบปรามและยังไม่ตัดสินใจเข้ามามอบตัว เพราะยังเชื่อมั่นในบริษัท เนื่องจากทางเจ้าของบริษัทได้มีการชี้แจงผ่านคลิปว่า บริษัทไม่ผิดและจะตั้งทนายความสู้คดีให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากบริษัทแต่อย่างใด แล้วเมื่อมีการพูดคุยกับทางตำรวจก็เริ่มเข้าใจถึงกระบวนการต่าง จึงตัดสินใจเข้ามอบตัว

พ.ต.อ.อังกรูกล่าวต่อว่า จากการที่ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 164 คนอาจจะมีการออกหมายจับเพิ่มในข้อหาฟอกเงิน เนื้องจากตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมถึง ป.ป.ง. ดีเอสไอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังสืบสวนขยายผลไปถึงผู้ที่นำรถ บ้าน และที่ดินที่ได้มาจากการทำธุรกิจยูฟันไปขาย โอน อย่างไม่ถูกต้อง จะถือว่าเป็นการเจตนาร่วมกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การฟ้องเงิน ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ที่มีรายชื่อตามหมายจับให้มามอบตัว เพื่อจะได้มีสิทธิ์ในการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งขณะนี้ออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 164 ราย จับกุมได้แล้ว 46 ราย เบื้องต้นคาดว่า หนีออกไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านแล้วประมาณ 30 ราย ส่วนผู้ที่มีการติดต่อจะขอมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมอำนวยความสะดวก และดูแลรักษาความภัยอย่างเต็มที่