ผบ.ทร.ยันไม่อะลุ่มอล่วยเรือประมงไม่มีอาชญาบัตร

"พล.ร.อ.ไกรสร"ยันไม่อะลุ่มอล่วยเรือประมงไม่มีอาชญาบัตร ซัดไม่ทำตามกฎหมาย เป็นปัญหาเรื้อรังเกือบ 20 ปี
ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฏหมาย (ศป.มผ.) กล่าวถึงกรณีชาวประมงเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือกรณีวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ จะสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันให้เรือประมงที่ไม่มีอาชญาบัตรถูกต้องทำการประมง ว่า การแก้ไขปัญหาดังกล่าวอยู่ในกรอบของ ศป.มผ. ก็พยายามอะลุ่มอล่วยที่สุดแล้ว
ซึ่งเรือประมงที่ผิดกฎหมายไม่มีอาชญาบัตร หรือความไม่พร้อมของเรือที่ค้างคามาตั้งแต่ปี 2539 เมื่อมีปัญหาเราก็จำเป็นต้องแก้ไขทีละขั้นตอน ดังนั้นเรือประมงที่พร้อมก็สามารถออกหาปลาได้ ส่วนเรือที่ไม่พร้อมต้องแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะมีเรือที่ถูกกฎหมาย และไม่ถูกกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับกรณีเรือประมงประกาศจะนัดหยุดจอดเรือที่อาจส่งผลกระทบหลายอย่างนั้น ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นอะไร ก็คงต้องหยุดไป เพราะพวกเขาไม่พร้อม ในเมื่อรัฐบาลมอบหมายให้กองทัพเรือเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ ถ้ามีกฎหมาย หรือข้อบังคับใดๆก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น
หากอะลุ่มอล่วยให้คงทำอะไรไม่ได้ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อเรือประมงที่ถูกกหมายประมาณ 20,000 ลำได้ ส่วนการหารือกับกลุ่มเรือประมงเพื่อหาทางออกร่วมกัน ประเด็นนี้ต้องเข้าใจว่าการประชุมตนไม่เคยปิดกั้น รวมทั้งสมาคมทั้งในและนอกน่านน้ำ ตลอดจนสมาคมส่งออก ก็สามารถเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ เพื่อหาทางออก และให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ที่ดีที่สุด
พล.ร.อ.ไกรสร กล่าวต่อว่า สำหรับเครื่องตรวจจับสัญญาณ VMS เรายังไม่นำมาใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แต่เราจะเลื่อนไปใช้อีก 6 เดือน ส่วนกรณีที่เรือประมงจะประกาศจอดเรือวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ทาง ศป.มผ. เห็นว่าไม่ใช่ปัญหาที่จะต้องมาแก้ไข แต่เป็นเรื่องของผู้ประกอบการเรือประมงจะต้องแก้ไขปัญหาให้เข้ามาอยู่ในกรอบ ซึ่งเราอย่าไปมองโจทย์ตามพวกเขา ยกตัวอย่าง ถ้าไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ถ้าไปเอาคนกลุ่มนี้ไปขับรถตามท้องถนนจะไปชนใครหรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่กฎหมายได้ระบุชัดเจนต้องมีใบอนุญาตขับขี่ถึงจะสามารถขับรถได้ เช่นเดียวกับการจับสัตว์น้ำในทะเลก็มีกรอบกำหนดอยู่ โดยทางกรมประมงพร้อมให้การสนับสนุน และเรือประมงที่ถูกกฎหมายมีเพียงพอต่อการออกจับปลา และเพียงพอต่อความต้องการบริโภคของประชาชน ส่วนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ ตนไม่ทราบคงต้องประเมินกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามถึงกรณีชาวประมง จ.สมุทรสงคราม ออกมาเรียกร้องให้ ศป.มผ.ทบทวน เนื่องจากประกอบอาชีพบริเวณใกล้ฝั่ง ผบ.ศป.มผ. กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าประมงใกล้ฝั่งกับประมงพื้นบ้านแตกต่างกัน ซึ่งประมงพื้นบ้านทำการประมงห่างจากฝั่งเพียง 3,0000 เมตร ซึ่งเป็นอวนลอยไม่มีผลกระทบใดๆเลย และเป็นเพียงประมงครอบครัว ส่วนอวนลาก และอวนรุนนั้น ตรงนี้จะส่งผลกระทบ ทางศป.มผ.จะเป็นต้องตรวจสอบ แต่ถ้าเป็นการประมงน้ำตื้นเราจะไม่ยุ่ง
"ทางเรือประมงต้องแก้ไข ไม่ใช่ว่าทาง ศป.มผ. แก้ไขกฎหมาย เพื่อเอื้อให้กับผู้ประกอบการประมง กฎหมายเขียนในภาพกว้าง ทุกคนต้องปรับเข้าหากฎหมาย ทั้งนี้การทำงานของเราก็เหมือนตำรวจ ถ้าไม่สวมหมวกกันน็อค หรือมีใบอนุญาตขับขี่ คงไม่ได้ และปัญหานี้ก็ปล่อยเรื้อรังมานาน อีกทั้งปัญหาอาชญาบัตรก็เกิดขึ้นมาเกือบ 20 ปีแล้ว เพราะปล่อยมานานไม่แก้ไขเลย จนกลายเป็นความเคยชิน" พล.ร.อ.ไกรสร กล่าว
ผบ.ศป.มผ. กล่าวถึงการที่ไอยูยู กำหนดมาตรการ 6 ข้อในการทำประมง ว่า ทางศป.มผ. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวใน 2 เดือนแรกเกี่ยวกับนโยบายการประมง กับการแก้ไขกฎหมายได้ดำเนินการเสร็จ แต่อยู่ในช่วงการเสนอแก้ไขกฎหมาย และคาดว่า 1-2 เดือนจะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และจะส่งให้ไอยูยูรับทราบด้วย
แต่ถ้ามีการทวงติงมา เราก็จะแก้ไขให้เป็นไปตามหลักสากล อีกทั้งทางศป.มผ.จะปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งมีแผนรองรับ การตรวจสอบย้อนกลับ ในขณะเดียวกันทางไอยูยูจะส่งตัวแทนมาพูดคุยกับเราในช่วงเดือนกันยายน โดยจะไม่มีการพูดถึงใบเหลือง ใบแดง ถ้าเราดำเนินการไปตามกรอบ ว่าจะตอบโจทย์หรือไม่ แต่ตนคิดว่า ผลน่าจะออกมาในทางบวก ส่วนจะปลดออกจากใบเหลืองหรือไม่ ตนยังไม่ทราบ







