'ชัยสิทธิ์' เปิดบ้านวันเกิด วอนรัฐบาลอยู่ตามโรดแม็ป

"ชัยสิทธิ์"เปิดบ้าน จัดเบิร์ดเดย์"70 ปี" ด้าน"บิ๊กทหาร" แห่ร่วมงานพรึบ วอนอยู่ตามโรดแม็ป ติงร่างรธน.อย่าร่างจากปากกระบอกปืน
ที่บ้านสวนทวดจีบ คลอง 4 พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เปิดบ้านสวนทวดจีบให้เหล่าคนสนิทเข้าอวยพรเนื่องในวันคล้ายเกิดครบรอบ 70 ปี โดยมีพล.อ.วีรัณ ฉันทศาสตร์โกศล ที่ปรึกษากองทัพบก ในฐานะตัวแทนพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เข้าอวยพรพร้อมมอบกระเช้าดอกไม้
นอกจากนี้ยังมีอดีตรัฐมนตรี นักการเมืองเข้าร่วมอวยพร อาทิ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรมช.แรงงาน นายชินวัตร หาบุญพาด อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)
พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้ตนอายุ 70 ปีแล้วก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆ แต่ฟังข่าวสารต่างๆ ที่ประชาชนเดือดร้อนเป็นประจำ โดยเฉพาะปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นห่วงชาวไร่ชาวนา ดังนั้นรัฐบาลก็น่าจะมีความรู้สึกเป็นห่วงมากกว่าตน และคิดว่าน่าจะหาวิธีแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการขุดเจาะบ่อบาดาล เห็นด้วยและควรขุดในจำนวนมาก เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งส่วนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนมีความอดทน เพราะปัญหาดังกล่าวเป็นวิกฤตทางธรรมชาติ ทางรัฐบาลก็ต้องช่วยหามาตรการแก้ปัญหา ส่วนจะรู้สึกกังวลใจแทนรัฐบาลหรือไม่นั้น ก็รู้สึกหนักใจ แต่เชื่อมั่นในศักยภาพ และความสามารถของรัฐบาลว่าจะสามารถฝ่าฟันวิกฤตไปได้ แต่ทุกคนควรให้ความร่วมมือ และความอดทน ซึ่งคนไทยทุกคนมีความอดทนอยู่แล้ว คาดว่าสถานการณ์อาจจะดีขึ้น สำหรับโรดแม็ปของรัฐบาล คิดว่าน่าจะเป็นไปตามนั้น เพราะเป็นเสมือนสัญญาประชาคม ซึ่งถ้าไม่มีอะไรสุดวิสัย ก็น่าจะเป็นไปตามโรดแม็ป ประกอบกับประเทศในโลกประชาธิปไตย ต้องปกครองในระบอบประชาธิปไตยทั้งนั้น โดยเฉพาะประเทศโลกที่สาม ขณะที่เหตุสุดวิสัยจะเป็นอย่างไรนั้น ส่วนตัวไม่รู้ แต่ถ้ายิ่งเร็วเมื่อไหร่ตามโรดแม็ปก็ยิ่งดี
เมื่อถามว่า เหตุสุดวิสัยนี้ คือการต่ออายุของรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล ปัญหามีไว้แก้ ก็แก้กันไป แต่คิดว่าในเมื่อดำเนินการถึงขนาดนี้ ก็เอาให้รอด
พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวถึงแนวโน้มการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญของสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)ว่า มันมีตัวอย่างรัฐธรรมนูญที่ใช้แล้วมีปัญหา ก็น่าที่จะต้องปรับแก้ไข เพราะเป็นโอกาสดีที่ไม่มีอีกแล้ว ที่จะร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาให้เป็นประชาธิปไตย อย่าให้ใครด่าได้ว่าเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากปากกระบอกปืน ส่วนจะเป็นที่ยอมรับหรือไม่ ภายหลังการทำประชามตินั้น คงเป็นไปตามขั้นตอน คิดว่าทุกคนมีความหวังดีต่อประเทศชาติและประชาชน ที่สำคัญต้องอย่าเห็นแก่พรรคพวก หรือประโยชน์ส่วนตัว
ทั้งนี้คิดว่าก็น่าจะมีการปรับแก้ไขเนื้อหากันไป เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติมีแต่วิกฤต ขอให้กำลังใจนายกฯ เพราะขณะนี้ประสบปัญหาเป็นจำนวนมาก ทั้งปัญหาธรรมชาติ และปัญหาต่างๆ รุมเร้ามาเรื่อยๆ ขอให้กำลังใจและหวังว่านายกฯ จะแก้ปัญหาโดยราบรื่น เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นคนมีความสามารถ มีความอดทน ขอให้ประสบความสำเร็จในการแก้ปัญหาทุกๆด้าน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โทรศัพท์มาอวยพร หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้โทรศัพท์มาอวยพรวันเกิด และไม่ได้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานแล้ว วันเกิดเป็นวันธรรมดาไม่ได้สำคัญอะไร พ.ต.ท.ทักษิณ คงไม่โทรมา
ผู้สื่อข่าวถามถึงคดีความที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กำลังถูกดำเนินคดีและอยู่ในขั้นตอนของศาล พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ยังเชื่อในความยุติธรรม และน.ส.ยิ่งลักษณ์ทำไปตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไม่ว่ารัฐบาลใดก็ต้องทำตามสัญญาที่ให้กับรัฐสภาไว้ คิดว่าคงมีความยุติธรรมและหวังดีต่อกันบ้าง ไม่ใช่เป็นศัตรูกันจนประเทศชาติไม่มีความสุข ประชาชนเดือดร้อน หากใครทำดี ทำไม่ดี ต้องขอให้ว่าไปตามกระบวนการ หากเราไม่ใช้รัฐสภาเป็นหลักของบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมติครม.
"ส่วนความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับทุกฝ่ายหรือไม่นั้น เชื่อว่าฝ่ายกระบวนการยุติธรรมคงคิดได้ เพราะความยุติธรรมจะทำให้โลกดีขึ้น ทำให้ทุกคนไม่มีปัญหาหากตัดสินด้วยความยุติธรรม หากตัดสินด้วยความอยุติธรรม จะทำให้ประเทศชาติอยู่ไม่ได้มีปัญหา ผมไม่ชอบเลยที่มากหมอมากความ อะไรก็ฟ้องๆ ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ที่แล้วๆมารัฐธรรมนูญควรร่างไว้เหมือนกันว่าหากค้านทุกอย่างก็ไม่มีความเป็นเอกภาพ ประเทศชาติไปไม่ได้ ต้องถือเสียงส่วนใหญ่และระบบรัฐสภาศักดิ์สิทธิ์ที่สุด"พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว
โดยบรรยากาศภายในงาน ผู้สื่อข่าวแซวหยอกล้อว่า เนื่องในวันเกิดท่านอยากได้อะไรของขวัญ จะเป็นส.ส.ชัยสิทธิ์หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่เอาแล้ว เข็ดแล้ว” พร้อมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า อย่าถามนายกฯมาก เขาเหนื่อยแล้ว อย่างไรก็ตามพล.อ.ชัยสิทธิ์ ได้มอบของที่ระลึกให้ผู้มาร่วมงานวันนี้ คือ ไฟฉาย และระบุว่า “เอาไว้ส่องหาทาง เผื่ออยู่ในที่มืด จะได้เจอแสงสว่าง และส่องหาประชาธิปไตย”







