ยอดเหยื่อยูฟันแจ้งความพุ่งกว่า500ราย

ยอดเหยื่อยูฟันแจ้งความพุ่งกว่า500ราย

ยอดเหยื่อยูฟันแจ้งความพุ่งกว่า500ราย ตร.เตรียมชงยกระดับยูฟันคดีข้ามชาติ ตั้งเป้าโค่นองค์กรแชร์ลูกโซ่

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.นราเดช กลมทุกสิ่ง รอง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ในฐานะหัวหน้าชุด สอบสวนคดีบริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด และนายสุรศักดิ์ ตรีรัตน์ตระกูล อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ร่วมประชุมหารือเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เเชร์ลูกโซ่เครือข่ายยูฟัน

พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเเละรวบรวมพยานหลักฐาน เป็นที่เเน่ชัดเเล้วว่า บริษัทยูฟันมีการกระทำความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่สามารถดำเนินคดีได้ ในเขตเเดนของรัฐมากกว่าหนึ่งรัฐเเละมีการวางแผนเตรียมการกระทำความผิดมากกว่าสามรัฐ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ดังนั้นการดำเนินคดีจำเป็นต้องให้ สำนักงานอัยการสูงสุดเข้ามาร่วมดำเนินการ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในการร่วมสืบสวนครั้งนี้ด้วยเพื่อให้พยานหลักฐานมีความเเน่นหนารัดกุมในการดำเนินคดีกับอาชญากรข้ามชาติ

“สำหรับการดำเนินคดีบริษัทยูฟัน ต้องมีการยกระดับในการติดตามอาชญากรข้ามชาติ เเละอัยการจะเข้ามาร่วมในการดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เพื่อเป็นการถอนรากถอนโคนของเครือข่ายองค์กรเเชร์ลูกโซ่ให้หมดสิ้นไปจากกลุ่มประเทศอาเซียน อีกทั้งที่สำนักงานอัยการสูงสุดเข้ามาร่วมดำเนินการสอบสวนตั้งเเต่เเรก จะทำให้สำนวนการสอบสวนนั้นครบถ้วน เเละได้หลักฐานอย่างเพียงพอจนสิ้นข้อสงสัย นำไปสู่กระบวนการฟ้องต่อศาลได้ง่ายขึ้น รวมถึงการติดต่อร่วมมือกับต่างชาติก็จะง่ายขึ้นเช่นกัน” พล.ต.ท.สุวิระ กล่าว

ขณะที่นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้คณะทำงานได้รับข้อมูลจากชุดคลี่คลายคดีบริษัทยูฟันฯของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาจากที่ผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์เป็นจำนวนมาก นำไปสู่การสืบสวนเชื่อมโยงไปถึงการกระทำความผิดของบริษัทยูฟันฯ ได้ความว่ามีการกระทำผิดทั้งนอกเเละในประเทศมีเกี่ยวพันกัน กรณีนี้เป็นความผิดทางอาญาต้องรับโทษทางกฎหมายไทย เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 ที่ระบุว่า ถ้าความผิดมีโทษตามกฎหมายไทย ได้กระทำความผิดนอกราชอาณาจักรไทย ให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการเเทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ หรือจะมอบหมายให้หน้าที่นั้น ให้อัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้สอบสวนเเทนก็ได้ รวมถึงทำการสอบสวนร่วมกันก็ได้

นายสุรศักดิ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ได้รับข้อมูลจากการกระทำความผิดอาญาในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริษัทยูฟันมีความผิดอาญาเกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน มีโทษความผิดจำคุกสูงสุดไม่เกิน 4 ปี เเต่การกระทำความผิดเกิดขึ้นมากกว่าหนึ่งรัฐ เพื่อให้ได้เงินหรือประโยชน์อันเกิดเเก่ตน เข้าข่ายอาชญากรข้ามชาติ โดยมีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรด้วย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจาณาความอาญาใหม่ ลงวันที่ 24 กันยายน 2546 ดังนั้นตนจึงนำทีมงานมาร่วมสืบสวนด้วยทั้งหมด 6 คนประกอบด้วย รองอธิบดีฝ่ายสืบสวนคดีอาญา อัยการผู้เชี่ยวชาญสอบสวนคดีอาญา และอัยการจังหวัดประจำฝ่ายสืบสวนคดีอาญา

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. หลังการประชุมแล้วเสร็จ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง พล.ต.ท.สุวิระ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คณะอัยการได้เเจ้งกับพนักงานนสอบสวนคดีนี้ว่า การที่จะรับคดียูฟันฯ เป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติได้นั้น ทางพนักงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่มีตัวบ่งชี้ใหัชัดเจนว่า มีการกระทำผิดนอกราชอาณาจักร ถึงจะเสนอท่านอัยการสูงสุดเพื่อขอความเห็นได้ ซึ่งหากอัยการสูงสุดมีความเห็นเเละรับเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ก็จะทำให้โทษความผิดนั้นมีความรุนเเรงมากขึ้นกว่ากฎหมายปกติ

พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ทางอัยการยังไม่สามารถรับเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติได้นั้น เนื่องจากพยานหลักฐานที่เป็นเอกสารไม่เพียงพอ ถึงเเม้ว่าการข่าวจะสามารถระบุได้ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดข้ามชาติก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนจึงต้องสอบปากคำผู้เสียหายควบคู่ไปกับรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อชี้มูลในส่วนของการกระทำนอกราชอาณาจักรไปในคราวเดียวกัน อย่างไรก็ตามถือเป็นการดีที่คดีดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่การรับเรื่องเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งจะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถสอบปากคำได้ด้วยตนเอง เพราะหากคดีเข้าไปสู่กระบวนคดีนอกราชอาณาจักรแล้ว ทางอัยการสูงสุดจะเป็นผู้กำหนดวิธีการในการสอบปากคำ จะมีขั้นตอนเเละรายละเอียดในการสอบปากคำที่ซับซ้อนขึ้น 

“ดังนั้นขอเชิญชวนให้ผู้เสียหายรีบดำเนินการเข้าเเจ้งความโดยเร็วที่สุด โดยตลอดวันหยุดยาว 5 วันที่จะถึงนี้ ทางตำรวจยังคงมีการรับเเจ้งความทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ขณะเดียวกันตำรวจชุดทำงานคดีนี้ยังมีการประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ตำรวจสันติบาล ฯลฯ ในการร่วมติดตามจับกุมคนร้าย คาดว่าต้นเดือนพฤษภาคมนี้จะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้” พล0ต0ท0สุวิระ กล่าวยืนยัน

พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวเสริมด้วยว่า จากการตรวจสอบยอดผู้เสียหายเข้าเเจ้งความเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่ผ่านมา มีทั้งหมด 449 รายมูลค่าความเสียหายแล้วกว่า 126 ล้านบาท และวันนี้(30 เม.ย.)ยังคงมีการเข้าแจ้งความของผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ หากรวมยอดวันนี้ด้วยน่าจะถึง 500 ราย ขณะเดียวกันมีการยึดทรัพย์มาเเล้วกว่า 727 ล้านบาท ทำให้ผู้เสียหายที่เเจ้งความจะได้รับการชดเชยอย่างเต็มจำนวนเงิน ในส่วนของการยึดทรัพย์นั้น ขอยืนยันว่า หากบุคคลใดที่ช่วยยักย้ายถ่ายเท หรือให้ความร่วมมือในการหลบซ่อนหรือเก็บรักษาทรัพย์สินของผู้กระทำความผิด ให้รีบมาเเจ้งความต่อเจ้าหน้าเพื่อเเสดงความบริสุทธิ์ หากเจ้าหน้าที่พบภายหลัง เเละไม่สามารถแสดงถึงที่มาของทรัพย์สินดังกล่าวได้ จะถูกข้อหาร่วมกันฟอกเงิน เเละถูก ปปง.ยึดทรัพย์คืน