ตร.เร่งตรวจวงจรปิดล่ามือบึ้มเอ็ม79

ตร.เร่งตรวจวงจรปิดล่ามือบึ้มเอ็ม79

บึ้มเอ็ม79-กราดยิง กปปส.ดับ3 ตร.เร่งตรวจวงจรปิดล่าคนร้าย

"เอ็ม79 ถล่ม 3 ลูก-เอ็ม16 กราดยิงซ้ำ" มวลชนกปปส.บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ตาย 3 เจ็บ 22 ลูกค้าโรงแรมข้างพื้นที่ชุมนุม หวิดดับ หลังระเบิดทะลุหลังคาเข้าไปถึงห้องนอน ตร.เร่งตรวจกล้องวงจรปิดล่าคนร้าย "นิติธร" ชี้แผนแยกมวลชน-แกนนำ

การลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 และยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 22 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 02.50 น.วานนี้(15 พ.ค.) ร.ต.ท.เลิศชาย ผือลงชัย พนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุคนร้ายยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ตกใกล้บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ ซึ่งมีผู้ชุมนุมกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ(กปท.) แนวร่วม กปปส. หลับนอนพักผ่อนอยู่บริเวณฐานอนุสาวรีย์ฯ และยังเป็นจุดตั้งเวทีชุมนุม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

หนึ่งในผู้บาดเจ็บเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ผู้ชุมนุมได้ยินระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง ที่บริเวณอนุสาวรีย์ฯ ขณะเดียวระเบิดอีกลูกได้ถูกยิงไปที่หลังคาของโรงแรมบ้านดินสอ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ลูกระเบิดทะลุเข้าไปภายในห้องพัก ทำให้มีผู้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ระหว่างเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลอยู่นั้น คนร้ายได้ยิงปืนเข้าใส่อีกหลายนัด เสียงปืนที่ดังขึ้นมาจากรอบทิศทาง กินเวลานานหลายนาทีกว่าทุกอย่างจะสงบ หลังเกิดเหตุมีผู้ชุมนุมพบรถกระบะต้องสงสัย ไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น 1 คัน และรถเก๋งอีก 3 คัน ขับตระเวนรอบพื้นที่ชุมนุม

สธ.สรุป"บึ้ม-ยิง"กปปส.ตาย3เจ็บ22

กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว รวม 3 ราย โดยเป็นการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหัวเฉียวอีก 1 ราย ขณะยอดผู้บาดเจ็บมีจำนวนทั้งสิ้น 22 ราย นอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีก 9 ราย โดยรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียว 2 ราย และโรงพยาบาลกลาง 7 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมาก 2 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล รายแรกชื่อ นายนรายศ จันทร์เพ็ชร อายุ 21 ปี เป็นคนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกยิงกลางหน้าอก 2 นัด เหนือราวนม และช่วงท้อง ส่วนอีกรายชื่อ นายสมควร นวนขนาย อายุ 51 ปี เป็นชาวจังหวัดชุมพร ถูกยิงเข้าที่หน้าอก และขา ต่อมาพบผู้ที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวเฉียวได้เสียชีวิตอีก 1 ราย

สรุปสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.2556 ถึงวันนี้ 15 พ.ค.2557 มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 826 ราย เสียชีวิต 28 ราย ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 15 ราย

"อีโอดี"เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ

หลังเหตุการณ์สงบ ตำรวจและเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด(อีโอดี) ได้เข้าไปเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ พร้อมสอบปากคำผู้บาดเจ็บและผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวน ขณะที่สื่อมวลชนกลับไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปบันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ โดยระบุว่าต้องการเคลียร์พื้นที่ก่อน ทำให้สื่อมวลชนเกาะกลุ่มรอกันอยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร

ผลการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า คนร้ายใช้เครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ยิง จากบริเวณสี่แยกคอกวัว ใกล้อาคารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า วิถีลูกระเบิดโค้งเข้ามาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนวิถีกระสุนปืนที่ยิงสาดเข้ามาหลายนัดก่อนคนร้ายจะหลบหนีนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด

ตร.ล้อมคอก-คุมเข้มจุดสูงข่ม

ต่อมาในช่วงเช้า พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6(ผบก.น.6) กล่าวภายหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า ขณะนี้กำลังประสานขอภาพกล้องวงจรปิดจากกรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจสอบอาวุธปืนที่ใช้กราดยิงกับลักษณะพาหนะของคนร้าย

ทั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของการยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ในพื้นที่นครบาล 6 โดยหลังจากนี้จะได้วิเคราะห์จุดสูงข่ม และจุดล่อแหลมต่างๆ ในพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อเตรียมจัดกำลังตำรวจเฝ้าระวังร่วมกับการ์ด กปปส.

"ตำรวจ"ขอเวลาคลี่คลายคดี

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า จุดแรกที่บริเวณแยกคอกวัว พบร่องรอยกระสุนและปลอกกระสุนปืนขนาด .223 และ .45 ซึ่งคาดว่าเป็นกระสุนที่ใช้ยิงมาจากอาวุธปืนเอ็ม 16 ส่วนจุดที่สองคือบริเวณทิศตะวันออกของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นจุดที่ระเบิดเอ็ม 79 ตกเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.

จุดที่สาม บริเวณโรงแรมบ้านดินสอ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมีระเบิดเอ็ม 79 ตกใส่หลังคาทะลุลงมายังชั้น 4 ของห้องพักเลขที่ 402 ทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการห้องพักของโรงแรมได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 2 ราย และยังมีเอ็ม 79 อีก 1 ลูกตกที่บริเวณข้างกำแพงของบริษัท ธนบุรีประกอบยนต์ จำกัด หรือศูนย์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

อย่างไรตาม ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบพื้นที่ และกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการสอบสวนพยานแวดล้อมได้ให้การว่า ได้พบเห็นรถกระบะ ไม่ทราบรุ่น สี ทะเบียน ซึ่งยังคงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

วิถีระเบิด3ลูกมาจากจุดเดียว

พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด(อีโอดี) กล่าวว่า อาวุธที่คนร้ายใช้คือลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 ทั้งหมด 3 ลูก โดยตำแหน่งเหนี่ยวไกเริ่มต้นที่บริเวณอาคารสำนักงานสลากฯ ใกล้สี่แยกคอกวัว ยิงลูกแรกตกที่ข้างกำแพง บริษัท ธนบุรี ประกอบรถยนต์ จำกัด หรือ โชว์รูมเบนซ์ ถนนดินสอ ห่างออกไปประมาณ 300 เมตร

ลูกที่สองตกที่หลังคาโรงแรมบ้านดินสอ ห่างออกไป 330 เมตร และลูกที่สามตกที่ฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งห่างออกไปประมาณ 350 เมตร ทั้งนี้คนร้ายที่ใช้ปืนเอ็ม 16 น่าจะเป็นคนละชุดกับกลุ่มที่ใช้เอ็ม 79

"การใช้ระเบิดเอ็ม 79 ในครั้งนี้ มีลักษณะก่อเหตุคล้ายเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เช่น เหตุยิงเอ็ม 79 เข้าใส่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงเหตุยิงเอ็ม 79 เข้าใส่เวทีของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)ที่ตั้งอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 10 พ.ค." พ.ต.อ.กำธร กล่าว

"นิติธร"ชี้บึ้มหวังแยกมวลชน-แกนนำ

นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษา คปท. กล่าวถึงกรณีคนร้ายลอบยิงเอ็ม 79 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นยุทธวิธีของกลุ่มต้องการก่อเหตุ หากเห็นว่ามีช่องว่างก็จะมีการลอบทำร้ายได้เสมอ เพราะอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ หรือสร้างความเสียหายมาจากระยะไกล จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจในการป้องกัน

"หากวิเคราะห์คำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต รมว.แรงงาน และผอ.ศอ.รส. แสดงให้เห็นถึงความพยายามจับกุมแกนนำ และปล่อยให้มีการทำร้ายผู้ชุมนุม นับเป็นยุทธวิธีแยกมวลชนออกจากแกนนำ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในส่วนของการรักษาความปลอดภัย ทุกพื้นที่ทำกันอย่างเต็มที่แล้ว ไม่ได้หมายความว่า เหตุที่เกิดเพราะสร้างระบบความปลอดภัยไม่เข้มแข็ง แต่เพราะเป็นการสร้างสถานการณ์จากระยะไกล มองไม่เห็นตัวคนก่อเหตุ และเหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่าจะไม่ทำให้มวลชนท้อถอยหรือมาร่วมลดลง แต่จะมาเพิ่มขึ้นและร่วมทำลายระบอบทักษิณให้ได้"

"ถาวร"ประณามผู้ก่อเหตุ-รับกระทบขวัญ

ขณะที่นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ในฐานะผู้ดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่การชุมนุม กล่าวว่า ขอประณามผู้ก่อเหตุ เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ เย้ยกฎหมาย ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่การ์ด กปปส.ได้ทำหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่แล้ว แต่พื้นที่การชุมนุมกินบริเวณกว้าง ทำให้ผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้

นายถาวร กล่าวว่า ขอเรียกร้องฝ่ายความมั่นคงให้ดูแลอย่างเข้มงวดในการตั้งด่าน เพราะที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะมีด่านความมั่นคงอยู่รอบพื้นที่ โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุร้ายก็ไม่มีการตรวจค้นอาวุธ และไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้แม้แต่คดีเดียว และยอมรับว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับ กปปส.ส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของผู้ชุมนุม แต่จะไม่กระทบต่อแนวทางการต่อสู้ของกลุ่ม กปปส.