'อภิสิทธิ์'ชี้นายกฯม.7เป็นไปได้ยาก

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวผ่านรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์Blue Sky Chanel ต่อประเด็นการใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ตามแนวคิดของนายชัยเกษม นิติศิริ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า เป็นความมั่ว และเป็นเรื่องที่ไม่บังควร และที่สำคัญไม่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องเกิดเหตุขึ้นก่อน ทั้งนี้ตนวิเคราะห์ได้ว่าสิ่งที่เสนอดังกล่าวเป็นการช่วงชิงอำนาจและสิทธิ์ของการนำเรื่องกราบบังคบทูลฯ ให้อยู่กับฝ่ายของตนเอง ซึ่งเป็นลักษณะการต่อรองเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยทำก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ใช้การยื้อไปจนถึงที่สุด และมีการต่อรองไปเรื่อยๆ หากถึงสถานการณ์ใดที่ต้องยอมจำนน ก็จะยอมรับในสิ่งที่เคยปฏิเสธไปแล้ว อย่างกรณีการใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 เป็นต้น เพราะเมื่อปี 2549 ที่เคยมีการเสนอนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 เพื่อไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณปฏิเสธที่จะเสียสละนำคณะรัฐมนตรีลาออกทั้งคณะ เพื่อให้เกิดแนวทางตามเงื่อนไขดังกล่าว

นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะระบุถึงความเป็นไปได้ของการใช้แนวทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 เนื่องจากต้องขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำร้องให้พิจารณาสถานภาพความเป็นนายกฯ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และการตัดสินใจลาออกของ ครม. รักษาการทั้งคณะ อย่างไรก็ตามประเด็นการใช้แนวทางรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 ในปัจจุบันยอมรับว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติเพราะมีข้อถกเถียงที่ยังไม่ได้ข้อยุติ อาทิ เมื่อน.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นจากความเป็นนายกฯแล้ว ต้องพิจารณาต่อว่า ครม. ต้องพ้นไปด้วยหรือไม่ ซึ่งอาจมีบุคคลอ้างว่า ครม. ต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ และที่สำคัญ คือรัฐบาลที่มาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7 นั้นจะมีอำนาจและหน้าที่อย่างไรบ้าง

"ผมเป็นห่วงว่าจะมีความวุ่นวายก่อนการใช้แนวทางตามมาตรา 7 เพราะหากมันเกิดขึ้นโดยมีคดีความ มีคำวินิจฉัยของศาล อาจเกิดการปลุกระดม สร้างความขัดแย้ง และลากศาลเข้าไปอยู่ในความขัดแย้งด้วย ดังนั้นทางเลือกหนึ่งที่พอเป็นไปได้ คือ นายกฯ ลาออกวันนี้ คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญก็จะจบ และคดีก็ไม่อยู่ในศาลแล้ว นอกจากนั้นเพื่อยุติปัญหาฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องมาคุยกัน หากไม่ทำ แล้วหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย มีการปลุกระดมจากฝ่ายรัฐบาล ไม่ยอมรับอำนาจศาลและให้ ครม.ชุดปัจจุบันเดินเข้าไปทำงานต่อ ออกคำสั่งทางราชการต่อ มันเกิดความวุ่นวายแน่ เพราะประชาชนเองก็ต้องเอาอำนาจคืน เหมือนอย่างที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พูด และตอนนั้นผมไม่ทราบด้วยว่าทหารจะเข้ามาหรือไม่" นายอภิสิทธิ์ ระบุ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุต่อว่าตนเคยวิเคราะห์ไว้ว่าหากเกิดความวุ่นวายและมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่นอกรัฐธรรมนูญ ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณต้องระมัดระวังอย่าทำให้เกิดขึ้นจริง แต่หากสิ่งที่ตนวิเคราะห์เกิดขึ้น เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณคงไม่เดือดร้อน เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศ เปรียบเหมือนกับคนเล่นวีดีโอเกม ที่ในเกมทำสงคราม และฆ่ากัน แต่คนเล่มเกมอยู่นอกจอ เขาไม่เจ็บ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนมองว่าจะเป็นทางออกของความขัดแย้งคือทำความเข้าใจกันและหาทางออกบนผลประโยชน์ของประเทศ โดยตนมองว่าต้องนำหลักการข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงมาหารือและให้เกิดการยอมรับซึ่งกันและกัน โดยต้องเสนอเงื่อนไขให้คนยอมรับการเลือกตั้ง แล้วกลับไปเลือกตั้ง