ฮือต้านเด้ง'ผบ.ซีล'

(14มี.ค.)คปท.บุกกองทัพเรือ ยื่นหนังสือเรียกร้อง ผบ.ทร.ทบทวนย้าย "ผบ.ซีล" อ้างเหตุการเมืองแทรกแซง ขู่ถ้ายังเฉยเจอฟ้องร้องแน่ ขณะที่เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศถวายฎีกาขอความเป็นธรรมให้ "พล.ร.ต.วินัย" ด้านปลัดกลาโหมแจงนายกฯ-รัฐบาลไม่เกี่ยวโผทหาร ยัน ผบ.ทร.ดำเนินการเอง เหตุมีซีลหลายนายพัวพันการชุมนุม เจ้าตัวยังไม่ฟันธงลาออก แย้มหากย้ายไปตบยุงอาจตัดสินใจ รัฐบาลสรุปแล้วย้ายสลับเก้าอี้ "ถวิล-ภราดร"

องค์กรภาคประชาชนได้ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการย้าย พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือ ผบ.หน่วยซีล ออกจากตำแหน่งไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ อัตราพลโท ภายหลังมีข่าวว่าคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลที่มี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธาน มีมติเรื่องนี้ในการพิจารณาบัญชีปรับย้ายนายทหารวาระกลางปี 2557 และล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว

วานนี้ (14 มี.ค.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และ นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. ได้นำมวลชนเคลื่อนขบวนไปยังด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.) เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เรียกร้องให้ทบทวนการปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย ออกจากตำแหน่ง พร้อมให้กำลังใจทหารเรือในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย

ทั้งนี้ พล.ร.ต.กาญจน์ ดีอุบล เลขานุการกองทัพเรือ ได้เป็นตัวแทน ผบ.ทร.ออกมารับหนังสือ

นายนิติธร กล่าวบนรถปราศรัยว่า การปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย เป็นการยอมให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซง แต่ประชาชนจะไม่ยอม ก่อนหน้านี้มีความพยายามปรับย้าย พล.ร.ต.วินัย มาครั้งหนึ่งแล้วจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคลิปเสียงสนทนาที่คล้ายกับเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อโยกย้ายนายทหารที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล แต่ ผบ.ทร.มีจุดยืนในขณะนั้นไม่ปฏิบัติตาม ทว่าครั้งนี้ ผบ.ทร.ต้านแรงเสียดทานของฝ่ายการเมืองไม่ไหว จึงขอให้ ผบ.ทร.ออกมาบอกกับประชาชนว่า ในที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับย้ายฯ ใครเป็นคนเสนอชื่อโยกย้าย พล.ร.ต.วินัย

นายนิติธร กล่าวด้วยว่า พล.ร.ต.ยุจ พิจิตรชุมพล หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ที่ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.นสร.แทนนั้น ไม่ได้ผ่านการฝึกหลักสูตรรบพิเศษของกองทัพเรือ ฉะนั้นจึงแค่ย้ายมาขัดตาทัพ รอให้ถึงเดือน ต.ค.ก็จะมีการปรับอีกครั้งเท่านั้น ดังนั้นขอให้ ผบ.ทร.ทบทวนการปรับย้าย หากยังคงนิ่งเฉยอาจถูกฟ้องร้องได้ โดยเขาจะนำมวลชนมาพบกับ ผบ.ทร.อีกครั้ง

วันเดียวกัน กลุ่มเครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ นำโดย พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี พร้อมมวลชน ได้เดินทางไปที่สำนักงานเลขาธิการสำนักพระราชวัง เพื่อยื่นหนังสือถวายฎีกาคัดค้านการโยกย้าย พล.ร.ต.วินัย ก่อนจะเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านให้กับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.ต.อิทธิพล นิ่มนวล หัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้แทนมารับหนังสือ

ปลัดกห.ป้องนายกฯ-โบ้ยผบ.ทร.ย้ายเอง

ด้าน พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวระหว่างปฏิบัติภารกิจที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ถึงบัญชีปรับย้ายนายทหารกลางปีว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ กกต.ส่งบัญชีรายชื่อที่ได้ตรวจสอบและเห็นชอบแล้วกลับมายังกระทรวงกลาโหม จากนั้นจะนำบัญชีรายชื่อเสนอต่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยคาดว่าอย่างช้าที่สุด บัญชีรายชื่ออย่างเป็นทางการจะมาถึงในวันที่ 17 มี.ค.นี้ และจะสามารถเสนอนายกฯ เพื่อลงนามและนำขึ้นทูลเกล้าฯได้ทันที

พล.อ.นิพัทธ์ กล่าวต่อว่า การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารวาระกลางปี โดยเฉพาะตำแหน่งของ พล.ร.ต.วินัย นั้น นายกฯและฝ่ายการเมืองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่การแต่งตั้งโยกย้ายมาจากสายบังคับบัญชาที่พิจารณา ซึ่ง พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร.เห็นว่ามีความเหมาะสม และพิจารณาแล้ว ก็ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบจากกรณีที่นายทหารจากหน่วยซีลหลายนายเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง

ผบ.ซีลปัดข่าวไขก๊อก-ขอดูวันต่อวัน

ขณะที่ พล.ร.ต.วินัย กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมลาออกจากราชการว่า ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ส่วนกระแสข่าวการปรับย้ายออกจากตำแหน่ง ผบ.นสร. ถือเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชาที่จะเห็นสมควร เพราะที่ผ่านมาก็ทำงานในตำแหน่งนี้มานานกว่า 3 ปีแล้ว หากมีการโยกย้ายแล้วให้ไปดำรงตำแหน่งใหม่ที่ไม่ได้ทำงานอย่างที่เคยคาดหวังไว้ ก็อาจจะพิจารณาตัวเองว่าจะลาออกหรือไม่ เพราะเป็นคนชอบทำงาน หากให้ไปนั่งในตำแหน่งที่ไม่ได้ทำงานหรือใช้ความสามารถที่มีอยู่มากนัก อาจจะพิจารณาตัดสินใจอีกครั้ง แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถตอบอะไรได้

ต่อข้อถามว่า ผบ.ทร.ได้พูดคุยเรื่องนี้หรือไม่ พล.ร.ต.วินัย กล่าวว่า ผบ.ทร.คงพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และท่านเป็นผู้ใหญ่มาก มีความเมตตากับผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน และเราเป็นลูกน้อง เมื่อนายสั่งให้ทำงานก็ต้องทำ

"ผมจะลาออกจากราชการหากผมถูกย้ายไปอยู่ในตำแหน่งที่ผมไม่ได้ทำงาน และหากมีแรงกดดันมากๆ ผมก็จะพิจารณาอีกครั้ง เพราะผมเป็นคนทำงาน จะให้ผมอยู่เฉยๆ คงไม่ไหว เช่น ถ้าย้ายผมไปอยู่ที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม แล้วจะให้ผมทำงานอะไร ขณะนี้จึงขอตัดสินใจแบบวันต่อวัน ลาออกหรือไม่ลาออกคงต้องว่ากันอีกที" พล.ร.ต.วินัย กล่าวและว่า ที่ผ่านมาหน่วยซีลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง แต่บางคนที่ไปเพราะอยากปกป้องประชาชน เกรงจะได้รับอันตราย และส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้องกรณีที่มีมวลชนออกมาเคลื่อนไหวกดดันให้ทบทวนบัญชีปรับย้ายด้วย

สรุปย้ายสลับตำแหน่ง"ถวิล-ภราดร"

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการคืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กับ นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ตามคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดว่า กระบวนการจะแล้วเสร็จภายใน 45 วันตามคำสั่งศาลอย่างแน่นอน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมรายละเอียดต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเสนอนายกฯให้เห็นชอบได้ภายในสัปดาห์หน้า ก่อนจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป ซึ่งหากไม่ทันการประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า ก็จะนำเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์ถัดไป ถือว่ายังอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนดไว้ 45 วัน หรืออย่างช้าที่สุดคือวันที่ 21 เม.ย.57

ทั้งนี้ การคืนตำแหน่งนั้น นายถวิลจะได้กลับมาทำหน้าที่เลขาธิการ สมช. ส่วน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.คนปัจจุบัน ก็จะแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำต่อไป

ด้าน พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่จะย้ายสลับตำแหน่งกับนายถวิล แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ยินดี ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพร้อมจะทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว