'สุรพงษ์'วอนประชาคมโลกประณามกปปส.

'สุรพงษ์'วอนประชาคมโลกประณามกปปส.

"สุรพงษ์"เรียกร้องประชาคมโลก ให้ประณามกปปส.ขวางเลือกตั้ง 2 ก.พ. ชี้มีพฤติกรรมขัดต่อนิติรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เชิญคณะทูตานุทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ เข้ารับฟังการชี้แจงสถานการณ์ ในประเทศ โดยมีคณะทูตจาก 50 ประเทศ 4 องค์กรระหว่างประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้มีระดับเอกอัครราชทูต 31 ประเทศ ที่มารับฟังด้วยตนเอง ทั้งนี้ใช้เวลาบรรยายประมาณ 1 ชั่วโมง โดยมีการเปิดวีดีทัศน์ภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองประกอบ ขณะที่โดยรอบกระทรวงมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา โดยประตูทางเข้าออกทั้งสองด้านจะมีเจ้าหน้าที่คอยเปิดให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ของกระทรวงและผู้ที่จำเป็นต้องติดต่อราชการเข้ามาได้เท่านั้น พร้อมกันนี้ยังมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารประจำการดูแลทั่วบริเวณ

ภายหลังการชี้แจงนายสุรพงษ์ กล่าวว่า ได้เล่าถึงสถานการณ์ในประเทศ นับตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่มกปปส.และเหตุรุนแรงต่าง ๆ การเลือกตั้งล่วงหน้า และการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มีประชาชนออกมาใช้สิทธิจำนวนมาก ทำให้กกต.จำเป็นต้องเดินหน้าจัดการเลือกตั้งให้เรียบร้อย เพื่อให้ต่างประเทศเข้าใจ ว่าประเทศไทย ยังเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นให้เห็นว่าการฉีกรัฐธรรมนูญ หรือการปฏิวัติคงจะไม่เกิดขึ้น และจะปฏิรูปประเทศหลังการเลือกตั้ง จากนั้นจะยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ พร้อมเรียกร้องให้ประเทศในระบอบประชาธิปไตยให้การสนับสนุนไทยในการเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตย และช่วยกันตำหนิ หากมีพฤติกรรมที่ไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทั้งนี้หลังเหตุกาาณ์ในประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ จะมีการชี้แจงให้ต่างประเทศรับทราบอีกครั้ง

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า การใช้สถานที่กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง ไม่ได้เป็นการท้ายทาย แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแล้ว เพราะงานต่างประเทศไม่สามารถหยุดได้ และหากผู้ชุมนุมบุกเข้ามาจะไม่หนี แต่จะสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจับกุมตามกฎหมายทันที พร้อมเรียกร้องผู้ชุมนุม อย่ากีดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะหลวงปู่พุทธอิสระที่มีหมายจับแล้ว ขอให้เปิดพื้นที่และเตรียมเข้ามอบตัว ทั้งนี้จะหารือกับอธิบดีกรมการกงสุล เพื่อเปิดให้บริการทำหนังสือเดินทางในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) ซึ่งเป็นวันหยุด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า 1เดือนที่ผ่านมาหากมองภายนอกเหมือนว่ากระทรวงปิด มีการคล้องโซ่ไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยเเละทรัพย์สินของกระทรวง รวมทั้งสวัสดิภาพข้าราชการของกระทรวงบางส่วนที่มาทำงานตามปกติ ยืนยันว่าที่ผ่านมากระทรวงมีการติดต่อกับนานาชาติทางช่องทางการทูตเหมือนดั่งที่เคยปฏิบัติตามปกติ เเละไม่มีประเทศใดสอบถามเรื่องการดำเนินโครงการใดๆของรัฐบาลที่มีปัญหา เเม้เเต่การรับจำนำข้าว เพราะต่างชาติไปหาข้อมูลจากเอกชน เเละไม่มีชาติใดตั้งคำถามเรื่องนี้กับกระทรวง ย้ำว่ากระทรวงมีหน้าที่ชี้เจงทำความเข้าใจเเละสร้างความเชื่อมั่นให้นานาชาติ จึงยุติการทำงานไม่ได้ ทั้งนี้กระทรวงเตรียมเปิดสถานที่ให้ข้ารชการกลับมาทำงานตามปกติเร็วๆนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุรพงษ์ได้ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลกระทรวงการต่างประเทศประจำตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป เนื่องจากจะเปิดให้ข้าราชการได้เข้าทำงานตามปกติ