กกต.เดินหน้าเลือกตั้งโชว์วิธีคำนวณจัดพิมพ์บัตร

นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. เปิดเผยว่า สำนักงานกกต. ได้จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง หลังจากที่ประชุมกกต. มีมติเห็นชอบรูปแบบลักษณะ ขนาด และจำนวนบัตรเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินการจัดพิมพ์ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อเพื่อให้ทันตามกรอบระยะเวลา โดยจะใช้หลักการคำนวณจำนวนบัตรเลือกตั้งของกกต. ซึ่งการคำนวณจำนวนบัตรเลือกตั้งจะยึดตามแนวทางปฏิบัติที่ผ่านมาและเพื่อแก้ไขปัญหาบัตรเลือกตั้งไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องพิมพ์เกินจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และแยกบัตรเลือกตั้งออกเป็น 2 กองใหญ่ คือ บัตรเลือกตั้งที่จะใช้ในวันเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้งที่จะใช้ในการเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีวิธีคิดคำนวณการพิมพ์บัตร ดังนี้ 1.ประชากรจำนวน 64,456,695 คน มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 49,027,000 คน (ข้อมูลจากกรมการปกครอง) 2.หน่วยเลือกตั้งปกติประมาณ 93,184 หน่วย 3.ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด ประมาณ 2,647,330 คน (ข้อมูล 3 ก.ค.2554) ใช้หน่วยเลือกตั้งประมาณ 3,310 หน่วย 4.ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง ประมาณ 223,204 คน (ข้อมูล 3 ก.ค.2554) ใช้หน่วยเลือกตั้งประมาณ 280 หน่วย 5.ผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ประมาณ 146,150 คน (ข้อมูล 3 ก.ค. 2554)

6.ในแต่ละหน่วยเลือกตั้งจะต้องคำนวณบัตรเลือกตั้งให้มีจำนวนเพียงพอที่จะใช้ในการลงคะแนนเลือกตั้ง (ตามระเบียบ กกต. ข้อ 112) 7.การจ่ายบัตรเลือกตั้งให้คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ให้จ่ายบัตรเลือกตั้งเป็นเล่ม บัตรเลือกตั้ง 1 เล่ม มี 25 ฉบับ กรณีมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้ง 26 คน จะจ่ายบัตรเลือกตั้ง 2 เล่ม (50 ฉบับ หน่วยเลือกตั้งนั้น จะได้รับบัตรเลือกตั้งเกิน 24 ฉบับ) ประกอบกับคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งนั้น สามารถเพิ่มชื่อใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในหน่วยเลือกตั้งดังกล่าวด้วย โดยใช้บัตรเลือกตั้งที่จัดเตรียมไว้ ดังนั้น เพื่อให้มีบัตรเลือกตั้งเพียงพอในแต่ละหน่วยเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจึงมีความจำเป็นต้องพิมพ์บัตรเลือกตั้งเพิ่มขึ้นตามจำนวนหน่วยเลือกตั้งในแต่ละประเภทของวันเลือกตั้ง และ8.บัตรเลือกตั้งที่จัดพิมพ์ทั้งหมด 54,463,000 ฉบับ เกินจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 5,436,000 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 11.08 (ใช้เวลาในการจัดพิมพ์ประมาณ 30 วัน)

นายภุชงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น สำนักงาน กกต. ได้กำหนดมาตรการเข้มในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง โดยได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงาน กกต. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโรงพิมพ์ เพื่อทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งในแต่ละวันจะมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานทั้ง 3 แห่งปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันในการควบคุมจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ สำหรับการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ณ ที่เลือกตั้งกลางในเขตเลือกตั้งและนอกเขตจังหวัดในวันที่ 26 ม.ค.นี้ รวมทั้งบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรนั้น ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเก็บรักษาบัตรเลือกตั้งในสถานที่ปลอดภัยจำนวน 3 ผลัดและติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิดตลอดเวลา 24 ชั่วโมง จนกว่าคณะกรรมการนับคะแนนจะเบิกหีบบัตรเลือกตั้งดังกล่าวไปนับคะแนนในวันเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.

นายภุชงค์ กล่าวอีกว่า กกต.อยากสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนว่า สำนักงาน กกต. ได้วางระบบควบคุมการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งไว้อย่างรัดกุมทุกขั้นตอนและได้เตรียมความพร้อมในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเป็นอย่างดีโดยก่อนหน้านี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งฯ โดยมีเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน และมีกรรมการ ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน กกต. ผู้แทนจากหน่วยราชการอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ตัวแทนของสมาคมโรงพิมพ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยรวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกหลายชุดเพื่อพัฒนารูปแบบ มาตรการป้องกันการปลอมแปลง และขั้นตอนการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเช่น การทำลวดลายหรือสัญญลักษณ์หรือรหัสลับซ่อนไว้ในบัตรเลือกตั้ง การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ออกแบบลวดลายพิเศษพิมพ์ลงในบัตรเลือกตั้งตามจุดที่กำหนด รวมทั้งกำหนดการประทับตราหรือเครื่องหมายบนบัตรเลือกตั้งก่อนนำไปใช้ลงคะแนนอีกด้วย