เปิดใจเจ้าของคลิปฮอต'จดหมายเหตุกรุงเสีย'

เปิดใจเจ้าของคลิปฮอต'จดหมายเหตุกรุงเสีย'

เปิดใจเจ้าของคลิปฮอต"จดหมายเหตุกรุงเสีย The Fall of Ayutthaya" ที่ถูกแชร์ต่อกันใน เฟซบุ๊คมากถึง 4 หมื่นกว่าครั้ง หลังจากเผยแพร่ไปเพียง 3วัน

สำหรับเนื้อหาใน คลิปวิดีโอนี้ เป็นการ เล่าประวัติศาตร์การเสียกรุงในช่วงกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 มาเปรียบเทียบกับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันได้อย่างลงตัว โดยมีความยาวเพียง 7นาที เท่านั้น แต่บ่องตง คลิปนี้อธิบายเนื้อหา เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ในช่วง นั้นได้อย่างครบถ้วนและเข้าใจง่ายโดยใช้วิธีผสมผสานงานดีไซน์กับภาพเคลื่อนไหวในการบอกเล่าเรื่องราว


นายกีรติ วรรณเลิศศิริ อายุ 23 ปี กราฟฟิค ดีไซเนอร์ อดีต นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ เจ้าของคลิป เปิดใจกับสื่อเครือเนชั่น ว่า จดหมายเหตุกรุงศรี เป็นศิลปนิพนธ์ ที่เขาทำสมัยที่เรียนอยู่ปี4 (ปี2555) โดยเดิมทีตั้งใจจะทำแค่สื่อการสอนประวัติศาสตร์ไทยธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่เมื่อได้ลองคุยกับอาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมแล้ว พบว่าข้อเสียของการศึกษาไทย คือ ข้อมูลประวัติศาสตร์มักคลาดเคลื่อน สับสน คนเรียนก็มักจะเบื่อ แถมที่เรียนไปก็แค่เอาไปสอบ ไม่มีใครคิดจะเอาประวัติศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งที่จริงมันมีประโยชน์ เพราะประวัติศาสตร์ทำให้เราได้เรียนรู้ อดีต เพื่อทำเราจะได้ให้ปัจจุบันดีขึ้น

เขาจึงต่อยอดจากสื่อประวัติศาสตร์ธรรมดามารวมกับเหตุผลว่าทำไมเราถึงเรียนประวัติศาสตร์แล้วก็บอกคนดูทุกคนว่าเราไม่เคยใช้ประวัติศาสตร์พัฒนาตัวเราเลย

จากนั้น คลิปนี้กลายเป็นวิทยานิพนธ์ที่ได้รับเลือกให้ไปแสดงโชว์ในงานปล่อยแสงของ TCDC เมื่อปี 2555 และกลับมาฮิตในโซเชียลมีเดียอีกครั้งหลังจาก เพจ Show Clip ซึ่งเป็นเพจที่แชร์คลิปในเฟสบุ๊ค เอามาแชร์อีกครั้ง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (21 เมษายน ) คนก็เลยมาดูแล้วก็ขยายต่อเป็นวงกว้าง โดยมีคนกดไลค์ มากกว่า 3 หมื่อนครั้ง หลังจากเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊คเพียง 4 วัน และมีคนแชร์ต่อกันมากกว่า หมื่นครั้งแล้ว

กีรติ แอบกระซิบกับเราว่า สมัยที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เขาเคยเวิร์คช็อป ในโครงการ YourTV ของ Nation Chanel โดยได้เรียนโปรแกรมที่เขาใช้ทำ motion นี้ "ที่จริงก็ต้องขอบคุณเนชั่นด้วยครับ "

นอกจากเขาจะเคยเข้าเขาเคยเวิร์คช็อป ในโครงการ YourTV ของ Nation Chanel แล้ว ยังเคยได้รับคัดเลือกในโครงการ a team juniour 8 ของนิตยสาร a day อีกด้วย นอกจากนี้ยัง เป็น ผู้กำกับละครเวที เรื่อง “ยู่หลง ใจสู้ฟัดหมัดธรรมดา” ของ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบัน เทคโนโลยี พระจอมเกล้า เจ้าคุณ ทหาร ลาดกระบัง อีกด้วย
กีรติ เล่าถึงเหตุผลที่เขาเลือกเหตุการณ์ เสียกรุง ครั้งที่ 2 มาเปรียบเทียบกับสถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน เพราะ เขาคิดว่า เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นความเสียหายมากที่สุดที่เชื้อชาติไทยเคยประสบ มันทำให้ความเป็นไทยแทบล่มสลายและหลังจากที่เขาศึกษาดูต้นเหตุหลักของการเสียกรุงครั้งนั้น อาจจะเป็นด้วยภูมิประเทศของกรุงศรี การบัญชาการทหารที่ผิดพลาด แต่ในเหตุผลย่อยประกอบ ก็มีบางอย่างที่คล้ายคลึงกับในปัจจุบันเช่นคนที่อำนาจใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนจนการติดสินบนการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายในขุนนางที่สนใจแต่เรื่องการรักษาอำนาจของตนมากกว่าความเป็นอยู่ของประชาชน

แม้เหตุผลพวกนี้ไม่ทำให้กรุงแตก แต่มันทำให้ความเป็นรัฐอ่อนแอลงได้ จนเมื่อเราโดนบททดสอบจากข้าศึกซึ่งถ้าในปัจจุบันอาจจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ “ผมพยายามติดตามการเมืองอยู่ตลอด แต่ก็ไม่ได้เจาะลึกมาก บ้านเมืองเราตอนนี้ดูเศรษฐกิจก็ดีขึ้น เทคโนโลยีก็เจริญขึ้น แต่สิ่งที่ผมว่าประเทศเรายังขาดมันไม่ใช่การพัฒนาจากภายนอก แต่คือคุณภาพจิตใจ คุณธรรม ที่เรายังขาดมาก ซึ่งคลิปนี้อาจจะไม่ถึงขนาดทำให้คนต่างขั้ว ต่างสี กลับมาปรองดองกัน แต่เขาหวังว่าหลังจากที่คนกลุ่มต่างๆได้ดูคลิปนี้แล้วจะหยุดคิดสักนิดนึงว่าสิ่งที่เราทำอยู่ เราทำเพื่ออะไร เพื่อตัวเอง หรือเพื่อฝ่ายของเราเท่านั้น หรือเพื่อทุกคน และผมแค่ยกตัวอย่างง่ายๆ ว่าถ้าคุณทำให้ชาติบ้านเมืองมันอ่อนแอ สุดท้ายเรามันก็นำภัยมาสู่ตัวคุณ และพวกเราทุกคน” กีรติ กล่าว

หลังจากคลิปนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม นั้น กีรติบอกว่า เขามีโปรเจคต่อไปในการทำคลิปเรื่องเล่าประวัติศาตร์แบบนี้อีก ซึ่งเขาไม่อยากทำแค่เล่าประวัติศาสตร์เฉยๆ แต่อยากทำคลิปเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ที่คนดูแล้ว บอกอะไรบางอย่างแก่คนดู ไม่ใช่ดูเสร็จก็ผ่านไป

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมอยากเป็น ปากเสียงแทนคนอื่น แทนคนรุ่นเดียวกัน ที่มองผู้ใหญ่ในสังคม มองประเทศบ้าง โดยหวังว่าผลงานชิ้นต่อไปจะต้องดีกว่าผลงานเดิม แม้ว่าการได้รับความนิยมของคลิปนี้จะเกินความคาดหวังของผมแล้ว แต่ก็พยายามทำให้ดีกว่าเดิม ถ้าจะถามว่ากดดันไม่ ไม่ได้กดดันหรอกครับ รู้สึกเป็นแรงผลักดันมากกว่า ที่ได้เปลี่ยนอะไรให้ประเทศนี้ดีขึ้น ได้หยุดคิด นิดเดียวก็ยังดี”

ใครยังไม่ได้ดู แวะไปดูได้ที่ http://www.youtube.com/watch?v=D5P9Bm8ua9Q