‘โรม’ รับบทเรียนสำคัญ ปชน.แต่ไม่หวั่น เดินหน้าปราบ ‘ทุนเทา’ ต่อ

‘รังสิมันต์’ ขอโทษประชาชน ปมผู้สมัคร สส.กทม.ปชน.โดนจับคดีฟอกเงิน เผยระบบคัดกรองเข้ม แต่ผิดพลาด ยอมรับเสียงวิจารณ์ เป็นบทเรียนสำคัญ เดินหน้าปราบ ‘ทุนเทา’ ต่อ
KEY
POINTS
- นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ขอโทษต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและยอมรับว่าเป็นบทเรียนสำคัญของพรรค
- ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ทำให้พรรคหยุดเดินหน้าปราบปราม "ทุนเทา" ซึ่งเป็นวาระสำคัญของชาติและเป็นจุดยืนที่พรรคดำเนินการมาตลอด
- ประกาศชัดเจนว่าพรรคจะไม่ปกป้องผู้กระทำผิด และหากได้เป็นรัฐบาลจะถอนรากถอนโคนเครือข่ายทุนเทา โดยเฉพาะในหมู่นักการเมืองและข้าราชการ
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2568 นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยว่า อยากขอโทษประชาชนทุกคน ขอโทษซัพพอร์ตเตอร์ สมาชิกพรรคทุกคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเช้าวันนี้ คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต้องยอมรับว่าเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับพรรค ปชน. เราเองที่ผ่านมา เราพยายามที่จะเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถเสนอตัวเองเป็นผู้สมัคร สส.ของพรรคได้
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราพยายามดีไซน์ระบบคัดกรอง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจประวัติผ่านลายนิ้วมือ ไปจนถึงการตรวจสอบเครดิตบูโร แต่ไม่ว่ามีการคัดกรองเข้มข้นมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรค ต้องขอโทษประชาชนทุกคนจริง ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามอยากเน้นย้ำว่าวาระสำคัญของไทย คือวาระที่ทุนเทายึดประเทศ ทุนเทาพยายามแทรกซึมไปทุกอณูของสังคมไทย พยายามที่จะเข้ามามีบทบาทมีอำนาจในการเมือง เรื่องนี้เราต้องยอมรับกันตรง ๆ และไม่ควรเอาเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งมาปิดปาก หรือห้ามพูดเรื่องของทุนเทา เพราะถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง และเป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติ
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า แน่นอนจุดยืนของ ปชน.เราเองก็เป็นพรรคการเมืองที่พยายามทำหน้าที่ตรวจสอบ และพยายามทำหน้าที่ในการชี้ให้เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้มีอำนาจทั้งหลายนำไปสู่การปราบทุนเทา เรื่องนี้เราไม่ได้เพิ่งมาทำ แต่เป็นเรื่องที่เราดำเนินการมาหลายปีแล้ว ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคของ พล.อ.ประยุทธ์ ตนก็เป็นคนหนึ่งที่พยายามออกมาพูดว่า มีนักการเมืองคนหนึ่งที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องยาเสพติด หลังจากผ่านยุค พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องของสแกมเมอร์ ก็เป็นอีกเรื่องที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างกว้างขวาง จนมาถึงยุคปัจจุบันที่เรามีหลักฐานจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่า เครือข่ายทุนเทากำลังจะยึดประเทศ ผ่านบริษัท โครงสร้างทางเศรษฐกิจต่าง ๆ มากมาย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ และเป็นเรื่องที่เราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง หรือประชาชนต้องช่วยกันในการปราบปราม
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า สำหรับตนเหตุการณ์นี้แม้จะเป็นบทเรียนสำคัญต่อพวกเรา แต่เรายืนยันว่าจะไม่หยุดในการนำเสนอแนวทางในการแก้ และปราบปรามในเรื่องสีเทา แน่นอนว่าคงจะมีหลายคนหยิบเอาเรื่องนี้มาวิพากษ์วิจารณ์พรรค ปชน.เราก็น้อมรับทุกคำวิจารณ์ แต่เราก็ยืนยันจุดยืนของเราในการต่อสู้กับทุนเทา จะไม่มีวันเปลี่ยน เรายืนยันว่าพรรค ปชน.เราจะไม่ช่วยเหลือ หรือปกป้องใครก็ตาม ที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องทุนสีเทา เรื่องยาเสพติด เรื่องสแกมเมอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น แน่นอนมีกระบวนการทางกฎหมาย คนเหล่านี้ต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนในทางการเมืองถ้ามีข้อครหา มีหลักฐานที่น่าเชื่อได้ว่า พวกเราเองก็พร้อมจะปรับคนของเรา ให้เกิดความเหมาะสมกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ
“สุดท้ายนี้อยากฝากถึงตำรวจว่า อยากเห็นมาตรฐานแบบนี้กับวงการการเมือง กับทุกพรรคการเมือง หากมีใครก็ตามไปเกี่ยวข้องกับทุนสีเทา คนเข้ามาทำงานการเมือง ควรเป็นคนที่อย่างน้อยที่สุดต้องไม่มีข้อครหาในการเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ เพราะกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการทำนโยบาย ไม่ว่ายาเสพติด สแกมเมอร์ เว็บพนัน หรือการค้ามนุษย์ หรือทุนเทาประเภทอื่นใด ๆ ก็ตาม อยากให้เรื่องนี้เป็นมาตรฐานจริง ๆ วันหนึ่งหลังการเลือกตั้งออกมา ถ้าเราตั้งรัฐบาลได้ แนวทางในการปราบปรามทุนเทา โดยเฉพาะใครก็ตามเป็นนักการเมืองไปยุ่งเกี่ยว ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐไปยุ่งเกี่ยว แนวทางการปราบปรามอย่างถึงลูกถึงคน อย่างถอนรากถอนโคนจะเป็นสิ่งที่ ปชน.ดำเนินการอย่างแน่นอน สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเรา แต่ไม่ทำลายเรา เจตจำนงการปราบปรามทุนสีเทา ยังคงมีอยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว







