‘สุภัทร’ เปิดใจลง สส.สงขลา เพราะ ‘น้ำท่วมหาดใหญ่’ เฉลยเหตุซบ ปชน.
‘หมอสุภัทร’ เปิดใจลง สส.สงขลา เขต 2 หลังเกิดเหตุ ‘น้ำท่วมหาดใหญ่’ เผยซบ ปชน.เพราะเป็นพรรคเดียวที่คนธรรมดาจะเป็นผู้แทนได้ ไม่หวั่นถูกสอบวินัยคดี ATK ใน สธ.
KEY
POINTS
- นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ตัดสินใจลงสมัคร สส.สงขลา โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในหาดใหญ่ ซึ่งสะท้อนความล้มเหลวของรัฐในการช่วยเหลือประชาชน
- เลือกเข้าร่วมกับพรรคประชาชน (ปชน.) เพราะเชื่อว่าเป็นพรรคที่เปิดโอกาสให้คนธรรมดาสามารถเข้ามาเป็นผู้แทนราษฎรได้
- มีเป้าหมายหลักในการวางแผนฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ในระยะยาว และใช้ความเชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเพื่อพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศ
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก อดีต สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) แชร์คลิปผ่านรีล (Reel) เฟซบุ๊ก สัมภาษณ์ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท หลังลาออกจากราชการ เพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.สงขลา เขต 2 พรรค ปชน.
โดย น.ส.รักชนก ถามว่าการเลือกตั้งรอบนี้จะหินหรือไม่ นพ.สุภัทร กล่าวว่า หินแน่นอน เพราะผู้สมัครคนเดิม นายศาสตรา ศรีปาน จากพรรคภูมิใจไทย ครองแชมป์มา 2 สมัย และนายจูรี นุ่มแก้ว ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มาลงสมัครอีก
นพ.สุภัทร กล่าวว่า ตนเกิดและเติบโตที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เรียนชั้นประถมศึกษาที่ ร.ร.แสงทองวิยทา จบมัธยมศึกษาที่หาดใหญ่วิทยาลัย ก่อนไปเรียนแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6 ปี เมื่อเรียนจบ ได้กลับมาทำงานใน โรงพยาบาลจะนะ และสะบ้าย้อย ในพื้นที่ จ.สงขลา
เมื่อถามถึงการถูกสอบวินัยเรื่อง จัดซื้อ ATK ในกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุภัทร กล่าวว่า ตอนนั้นเรานัดกัน สถานการณ์โควิด-19 แย่มาก ทุกคนไม่ได้ตรวจ ATK ทีมเพื่อน ๆ แพทย์ และทีมชุมชนประสานมา เราเลยยกทีมแพทย์ชนบทไปบุกกรุงฯ ตรวจผู้คนไป 2 แสนคน เจอคนเป็นโควิด-19 ราว 2 หมื่นคน ใน 2 หมื่นคนนั้น เชื่อว่าสามารถใช้ชีวิตกับผู้คนได้ราว 400-500 คน หลังจากกลับมาได้ 2 ปีก็โดนสอบวินัย เราตรวจปี 2564 และถูกสอบวินัยตอนปี 2566 เพราะความขัดแย้งในกระทรวงสาธารณสุข วิพากษ์วิจารณ์หลาย ๆ เรื่องราวในกระทรวงมาตลอด
เมื่อถามว่า เป็นการโดนกลั่นแกล้งหรือไม่ นพ.สุภัทร กล่าวว่า ไม่อาจมองเป็นอื่นได้ ก็ต้องมองว่าถูกกลั่นแกล้ง เป็นชนักเอาคดีมาปักหลังไว้ให้เคลื่อนไหวลำบาก ส่วนตำแหน่งเราไม่คาดหวังจะเลื่อนตำแหน่งอยู่แล้ว เราก็ขอเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชน ไม่ได้คิดไกล เป็นใหญ่เป็นโต
ซักว่าเราเป็นตัวจี๊ด ตัวปัญหาของกระทรวง ทำให้คนอื่นทำอะไรกันลำบากหรือไม่ นพ.สุภัทร กล่าวว่า ส่วนหนึ่ง เพราะบุคลิกแพทย์ชนบท จะวิจารณ์สิ่งที่ไม่ชอบธรรม ไม่เป็นธรรมในกระทรวง ไม่เป็นที่ถูกใจของผู้ใหญ่ ถ้าเราไม่เข้ามา คาดว่าผู้เสียชีวิตเพิ่มหลายพันคน ผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกเป็นแสนคน เรามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ผิดระเบียบเลย เพราะโดยกฎหมาย มีการออก ว.115 มาให้เราจัดซื้อจัดจ้างเป็นกรณีพิเศษได้ ในช่วงวิกฤติฉุกเฉินเช่นนั้น เรามั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิดเช่นนั้น
เมื่อถามว่า อะไรที่ทำให้ตัดสินใจว่าจะลง สส. และทำไมต้องเป็น พรรค ปชน. นพ.สุภัทร กล่าวว่า จุดที่ตัดสินใจสุดท้ายจริง ๆ คือเหตุการณ์ น้ำท่วมหาดใหญ่ เพราะรอบนี้ท่วมถึงชั้น 1-2 บ้านตนก็โดนระดับเอว รถยนต์หมดไป 2 คัน ตนออกไปช่วยผู้คนตลอด เห็นความยากลำบากของผู้คนจริง ๆ สถานการณ์ความโกลาหลในการช่วยเหลือผู้คนเยอะมาก เรียกว่ารัฐล้มเหลวก็ได้ เลยอาสาเข้ามา
ส่วนจะเข้ามาทำอะไรให้หาดใหญ่นั้น นพ.สุภัทร กล่าวว่า หาดใหญ่ก็เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ ถ้าหาดใหญ่มีความหวัง คนภาคใต้จะมีความหวัง ผู้คนเข้ามาทำงานที่นี่ ทำให้ชีวิตผู้คนมีคุณภาพดียิ่งขึ้น หรือว่ามีความหวังทางเศรษฐกิจได้อย่างไร เป็นโจทย์สำคัญที่สุดของการฟื้นเมืองหลังน้ำท่วม ทุกคนกำลังงงว่าเราจะลงทุนต่อดีหรือไม่ เพราะว่าปีหน้า น้ำท่วมอีกจะสูญเสียมาก ดังนั้นการเข้ามาเพื่อวางแผนระยะยาว สร้างความหวังให้ผู้คน ถือว่าสำคัญสุดในช่วงนี้
“ส่วนทำไมต้องเป็นพรรค ปชน.ก็น่าจะเป็นพรรคเดียวที่คนธรรมดาอย่างผม จะสามารถเข้าสู่การเป็นผู้แทนราษฎรได้” นพ.สุภัทร กล่าว
นพ.สุภัทร กล่าวยืนยันความมั่นใจ เพราะว่าอย่างไรก็ตามพื้นที่ จ.สงขลา ไม่เฉพาะเขต 2 เรายกทีม บุคลากรมีคุณภาพที่สุดมาลงทั้ง 9 เขตของ จ.สงขลา อยากให้ประชาชน เลือกพรรค ปชน.ของเรา เข้าสู่การเป็นรัฐบาลให้ได้
ส่วนความรู้ความสามารถในเชิงสาธารณสุข คิดว่าจะช่วยอะไรพรรคได้บ้าง นพ.สุภัทร กล่าวว่า เรื่องสาธารณสุขเป็นงานที่ถนัด เพราะเราอยู่ในกรอบกระทรวง ข้าราชการยาวนาน เห็นถึงปัญหา ความฝันคืออยากเห็นคนไทยสุขภาพดี รองรับการเข้าถึงบริการได้มากขึ้น ปัจจุบันมีบัตรทอง แต่คิวยาวมาก แออัดมาก เราจะก้าวพ้นจากจุดนี้ได้อย่างไร เป็นหัวใจที่คิดว่าจะทำให้เกิดขึ้นให้ได้ ใน 4 ปีข้างหน้า