’เพื่อไทย‘ ขยับไพ่ลับ ‘3 แคนดิเดต’ ชิงเหลี่ยมข่ม ภท. เร่งเกมยุบสภา

คอการเมืองจับจ้องไปที่ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” พรรคเพื่อไทย ในศึกเลือกตั้งใหญ่ต้นปี 2569 เพราะครั้งนี้ แตกต่างจากบริบทการเลือกตั้งใหญ่ในทุกครั้งไป

ด้วยปัจจัยที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้นำจิตวิญญาณพรรค ยังถูกคุมขังจากการบังคับโทษอยู่ในเรือนจำกลางคลองเปรมเป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ 9 ก.ย. 2568

ขณะที่ทายาททางการเมืองตระกูลชินวัตรอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” จำเป็นต้องเพลย์เซฟพรรค ด้วยการทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรค ถัดจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พ้นตำแหน่งนายกฯ ในข้อกล่าวหาฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เหลือแต่สถานะ “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” 

จึงส่งไม้ต่อให้แกนนำแถวสอง “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” สส.เชียงใหม่ 5 สมัย และอดีต รมช.คลัง รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค รวมทั้งเซ็ตคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่มี “จาตุรนต์ ฉายแสง”เป็นประธาน เพื่อวางเกมการเมือง ก่อนส่งความเห็นให้ “กรรมการบริหารพรรรคเพื่อไทย” ที่ผสมผสานคน 3 รุ่น

ด้วยคุณสมบัติการสื่อสารทางการเมืองของ “จุลพันธ์” ที่ครบเครื่อง มีความสนใจทางการเมือง และดีเอ็นเอที่ผสมผสานระหว่าง “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” และดีเอ็นเอพรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทย เป็นลูกหม้อใกล้ชิดกับ “แพทองธาร” เพราะด้วยวัยที่ไม่ห่างกันมาก การยืนระยะ และตอบคำถามการเมือง ไม่เน้นเรียกทัวร์มาลงพรรค

โฟกัสหัวใจหลักแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย 3 รายชื่อ โดยคีย์แมนพรรคจะเคาะภายในวันที่ 16 ธ.ค.2568 และวางไทม์ไลน์เปิดตัว 3 แคนดิเดต ไม่เกินกลางเดือนธ.ค.นี้

“เราก็มีแผนในการเปิดรายชื่ออยู่ อีกสักไม่เกิน 1 เดือน คงได้เห็นกัน ก็จะเป็นชื่อ ที่หวังว่าจะตอบโจทย์ประชาชน” จุลพันธ์ ตอบผ่านสัมภาษณ์พิเศษ “กรุงเทพธุรกิจ”

แน่นอนว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องเร่งจัดทำนโยบาย ตัวผู้สมัครและแคนดิเดตนายกฯ โดยยกเครื่องก่อนที่ฤดูกาลเลือกตั้งใหญ่จะมาถึง เพื่อดึงกระแส และแต้มของกลุ่มคนที่ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์สูงในแต่ละภูมิภาคมาเป็นฐานเสียงคะแนนนิยม รวมทั้งดึงแฟนคลับเก่า และกลุ่มฐานเสียงใหม่ให้ได้มากที่สุด

เดิมทีห้วงสัปดาห์วันรัฐธรรมนูญนี้ พรรคเพื่อไทยเตรียมอีเวนต์เปิดนโยบาย เปิดแคนดิเดตนายกฯ แต่เมื่อเกิดสถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชาที่ตึงเครียดยิ่งขึ้น ทำให้ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อดูสถานการณ์ที่เหมาะสม เช่นเดียวกับการเดินเกมการเมือง เรื่องบี้ภูมิใจไทยยุบสภาฯ

แหล่งข่าวจากกรรมการบริหารพรรค ระบุว่า เหตุการณ์ปะทะกันระหว่างไทย-กัมพููชา อาจเป็นผลให้กำหนดการยุบสภาของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ต้องล่าช้าออกไปอีก หากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเร็ว กระแสอาจตีกลับพรรคเพื่อไทยได้

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยอ่านเกมว่า ยังมีเวลารอสถานการณ์ทางการเมืองทั้งหมด รวมทั้งรอเกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 2 ระหว่าง 10-11 ธ.ค.นี้ และรอจังหวะ สว.โหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระที่ 3 ด้วย

การเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ สัปดาห์นี้จึงเลื่อนออกไปก่อน โดยใช้เหตุสู้รบชายแดนมาเลื่อนไทม์ไลน์โชว์ไพ่ลับแคนดิเดต

“เปิดแคนดิเดตครบ 3 คนแน่ แต่ว่าวันนี้ไม่ต้องรีบ ต้องรอหลักการก่อนว่า จะไม่มีเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการยุบสภา หากยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตอนนี้กระแสอาจตีกลับและถูกรัฐบาลโจมตี เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเป็นแพะได้” แหล่งข่าวเพื่อไทย ระบุ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้ามีการวิเคราะห์และหยั่งกระแสทางการเมืองว่า แคนดิเดตนายกฯ ค่ายแดง จะไม่พ้น 3 ชื่อ

ชื่อแรก “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” เขยของ “ทักษิณ ชินวัตร” ล่าสุด มีความชัดเจนแล้วว่า ยังไม่ตอบรับเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในการเลือกตั้งรอบนี้ หลังจากเคยบอกปัดมาแล้วเมื่อปี 2562 คาดว่าต้องการเลี่ยงสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่เป็นคุณต่อคนชินวัตร

ขณะที่โจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ในการวางลำดับแคนดิเดตนายกฯ ต้องการให้มีภาพ "มืออาชีพด้านเศรษฐกิจ" 

ล่าสุด มีสัญญาณดีว่า เพื่อไทยได้“แคนดิเดตนายกฯ”มือเศรษฐกิจแล้ว แต่ชื่อนี้ยังเก็บอยู่ในชั้นความลับ ยังไม่มีการโชว์ตัวต่อสาธารณะ

ส่วน 1 ใน 3 ชื่อแคนดิเดต ที่แน่นอนแล้ว คือ “ดร.เชน” ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ บุตรชายคนโตของ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกฯ คนที่ 26 และ “เยาวภา วงศ์สวัสดิ์” แกนนำภาคเหนือ มีโปรไฟล์สายแข็งด้านวิชาการ เป็นนักวิจัยด้านสมองแลวิศวกรรมชีวการแพทย์

“ยศชนัน” เพิ่งขึ้นเวทีของพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2568 ในการอบรมโครงการ Pheu Thai Young Professionals Program (YPP) รุ่นที่ 2 เพื่อปั้นคนรุ่นใหม่สู่เวทีการเมือง ถ่ายทอดประสบการณ์การวิจัยมากว่า 20 ปี ตั้งแต่ห้องทดลอง ไปจนถึงชีวิตจริงของคนพิการ เด็กยากจน และการใช้เทคโนโลยีเพื่อทำให้ประเทศนี้น่าอยู่ขึ้นสำหรับทุกคน

พรรคเพื่อไทย วางตัว “ยศชนัน” ด้วยจุดแข็ง นักวิชาการภาพลักษณ์ดี อีกทั้งมีความเป็นคนการเมืองดีเอ็นเอคนชินวัตร เคยผ่านสนามเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่ เมื่อปี 2557 แต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ เพราะเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง และต่อมาเกิดรัฐประหาร

ชื่อ “ยศชนัน” ถือว่าเป็นไฟต์บังคับที่คีย์แมนพรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องเลือกใช้ ในระหว่างที่หาตัวเลือกแคนดิเดตนายกฯ ได้ยากในบริบททางการเมืองปัจจุบัน ที่ต้องสู้ศึกไม่ต่ำกว่า 3 ก๊ก ขณะที่ต้องกู้เรตติ้ง เพื่อดึงความนิยมกลับมาเป็นเบอร์หนึ่ง เพื่อกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 

ก่อนหน้านี้ “ยศชนัน” ก็เข้าออกพรรคเพื่อไทย โดยมี หมอมิ้ง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช คีย์แมนที่ดูแลด้านนโยบายพรรค คอยประกบ รวมทั้งยังร่วมวงประชุมกับทีมเศรษฐกิจพรรค อยู่เป็นระยะ 

ส่วนแคนดิเดตนายกฯ ลำดับท้าย เพื่อไทยมักวางตัว ผู้ที่มี"โปรไฟล์ทางการเมืองสูง" 

จะเห็นได้ว่า ในการเลือกตั้งใหญ่ 2 ครั้งหลังสุด เป็นชื่ออดีต รมว.ยุติธรรม “ชัยเกษม นิติสิริ” แต่ด้วยสุขภาพที่ยังไม่สมบูรณ์ แม้ก่อนหน้านี้มีแรงเชียร์จาก สส.ในพรรคให้หวยไปออกที่ “เดอะซัน” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการเลือกตั้ง แต่ชื่อของ “สุริยะ”ไม่ใช่ตัวเลือก เพราะไม่ตอบโจทย์ในการดึงแต้มคนที่ไม่ตัดสินใจ

ฉะนั้น การวางแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 3 เมื่อต้องเน้นภาพ ผู้ประสบการณ์ทางการเมืองสูง มีจุดยืนที่ชัดเจน ทำให้แกนนำพรรค มองไปที่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน คือ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” ซึ่งก็มีเสียงตอบรับ สนับสนุนจาก สส.ในพรรคไม่น้อย

นับจากนี้บริบททางการเมืองปัจจุบัน “เพื่อไทย” จำเป็นต้องดูเงื่อนไขทั้งการปะทะตามแนวชายแดน กลเกมชิงไหวชิงพริบในรัฐสภาผ่านพิธีกรรม การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสามารถฝ่าด่าน 1 ใน 3 สว.ที่มี สว.น้ำเงิน ในวาระที่ 3 ได้หรือไม่

รวมทั้งยังต้องกำหนดไทม์ไลน์ให้ดีกับการยื่นญัตติอภิปรายไว้วางใจนายกฯ อนุทิน แน่นอนว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้ไทม์ไลน์หลังปีใหม่เพื่อรอจังหวะยื่น โดยอ่านเกมว่า นายกฯ อาจยุบสภาทันที และยุบสภาก่อน 31 ม.ค.2569

ขณะเดียวกัน แกนนำเพื่อไทยประเมินว่า ยิ่งปล่อยให้ “อนุทิน”และภูมิใจไทย อยู่ในอำนาจนานเท่าใด เพื่อไทยอาจเสียเปรียบมากขึ้นเท่านั้น กลไกชิงความได้เปรียบผ่านอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีไปพร้อมๆ กับการใช้อำนาจยุบสภา ผ่าทางตันของนายกฯ

จับตาจังหวะการเร่งเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย 3 รายชื่อของค่ายแดงในห้วง 16 ธ.ค.2569 ที่เป็นไพ่ลับ-อาวุธลับ ก่อนเดินเกมกดดันนายกฯ“อนุทิน”ด้วยข้อหาหนีการตรวจสอบ ด้วยการชิงยุบสภา