'วิโรจน์' ฉายภาพ สแกมเมอร์101 หวั่นไทยแหล่งฟอกเงินทุนเทากัมพูชา

“วิโรจน์” ฉายภาพปัญหาสแกมเมอร์101 หวั่นไทยกลายเป็นแหล่งฟอกเงินให้ทุนเทากัมพูชา เสนอ 5 ทางแก้ ชูหลังเลือกตั้งปีหน้าจะมี ”นายกฯณัฐพงษ์“ ประกาศถือธงนำแกปัญหาในเวทีประชุมใหญ่ธนาคารโลก
เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคประชาชน จัดกิจกรรม รีชาร์จประชาชน ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย. ภายใต้คอนเซ็ปงาน วาระประเทศไทย ความมั่นคงใหม่-เศรษฐกิจใหม่-บริหารประเทศแบบใหม่ ไทยทันโลก โดยในช่วงเช้าเป็นการจัดแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านความมั่นคง หัวข้อ “เอาจริง! มาตรการจัดการทุนเทายึดประเทศ” นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร และนางสฤณี อาชวานันทกุล
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สะภาพปัญหาโดยใช้หัวข้อว่า "สแกมเมอร์ 101 จากเงินที่รอคุณยายสู่ความวอดวายระดับประเทศ" ชี้กัมพูชา เป็นประเทศที่มีเครือข่ายสแกมเมอร์เกือบ 60 แห่ง มูลค่าเงินต่อปี 125,00 ล้านยูเอสดอลล่า หรือเป็นเงินกว่า 4-6 แสนล้านบาท ดังนั้นไทยสูญเงินจากการหลอกของแสกมเมอร์ 115,300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินส่วนนี้กระทบกับเศรษฐกิจไทย
ขณะการเปิดบัญชีม้า ผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า ได้รับผลกระทบ นอกจากมีโทษจำคุกตามกฏหมาย จะหางานทำยากมากเพราะไม่สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ เพราะมีชื่อขึ้นทะเบียนบัญชีม้า พร้อมยกตัวอย่างทหารเกณฑ์ตอนนี้หลายคนเปิดบัญชีไม่ได้ เพราะมีชื่อว่าเคยเปิดบัญชีม้า และประเทศไทยถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแหล่งการฟอกเงินจากบัญชีม้า และไปยังกัมพูชา ผ่านนอมินี ในรูปแบบการซื้อธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดได้รายวัน เช่น ร้านอาหาร ผับบาร์ โดยใช้เงินสีเทากับเงินที่ได้ในทุกวันผสมกันไป เพื่อให้ถูกกฎหมายไม่โดนสรรพากรตรวจสอบ
“หากปล่อยให้มีการหลอกเงินต่อไป แล้วสกัดกั้นไม่ได้ ธุรกิจสุจริตในไทยก็ต้องปิดตัวลง ,พนักงานคลอเซนเตอร์ตัวจริงพังไปด้วย , ปั่นราคา, อสังหาริมทรัพย์ , มูลนิธิจะไม่น่าเชื่อถือ , มีการทำทัวร์ศูนย์เหรียญ , เกิดพนันออนไลน์ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การหลอกเงินคุณยาย แต่ทำ ให้ธุรกิจสุจริตในไทยวอดวายทั้ง ประเทศ" นายวิโรจน์กล่าว
นายวิโรจน์ ยังกล่าวต่อว่า คุณภาพชีวิตของคนไทยแย่ลง ความเปราะบางการเงินเกิดขึ้น กำลังซื้อก็ลดลง และประเทศ
อาจจะถูกจัดให้เป็นประเทศสีเทาเข้าสักวัน หากถึงวันนั้นภาคการเงินการธนาคารเราพังทันทีเพราะไม่มีใครอยากมาลงทุนในประเทศไทย และเราจะถูกตรวจสอบอย่างหนักและลึก เพราะเราจะถูกมองว่าเป็นเครือข่ายของแก๊งสแกมเมอร์ในฐานะคนฟอกเงิน ถ้าเปรียบกัมพูชาคือโจร ที่ออกไปปล้นเงิน เราคือคู่สมรสของโจรที่มีหน้าที่ซ่อนเงินให้โจร
พร้อมเสนอทางแก้ 1. ต้องเร่งสร้างระบบนิเวศให้ประเทศไทยมีเกราะคุ้มกันจากสแกมเมอร์ มี พ.ร.ก.ไซเบอร์ฉบับที่2 มาตรา 8/10 ออกมาตราการในทางปฏิบัติ หากไม่ยอมทำตามต้องร่วมรับผิดร่วมจ่ายความเสียหายให้กับประชาชนด้วย แต่ปรากฏว่ากฎหมายลูกธนาคารแห่งประเทศไทยยังออกไม่ครบประชาชนไม่รู้ว่าเมื่อเกิดความเสียหายแล้วจะไปหาความรับผิดชอบร่วมจากที่ไหน จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และผู้ว่า กสทช.และเลขาคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ต.ล.)ทำไม่ได้สักที จะปกป้องผลประโยชน์ของนายธนาคาร จะปกป้องผลประโยชน์ของผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ และปล่อยให้ประชาชนร้องเพลงพี่เบิร์ด ตือคนทีาแพ้ต้องดูแลตัวเองหรือ , กสทช.ทำไมไม่ทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยทำไมไม่ล็อคเลขประจำตัวประชาชนที่เป็นบัญชีม้า ไม่สามารถซื้อซิมใหม่ได้
2. DBD DOI และกรมสรรพากร ต้องร่วมมือกันปราบนอมินีและธุรกิจศูนย์เหรียญ ที่ไม่เสียภาษี
3. บช.สอท. ,บก.ปอท. ,ปปง.และปปช. ร่วมมือกับต่างประเทศ ขยายผลจับกุมตัวใหญ่ให้ได้ "จับ" "ยึด"ให้ได้ สหรัฐอเมริกาสิงคโปร์ เปิดเผยชื่อบริษัทและตัวการมาแล้ว แต่ประเทศไทย ทั้งที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าเป็นฐานการฟอกเงิน แต่ยังเปิดเผยและคอคนไทยคนไหนที่ อุ้มสมคบคิด ปรับเครือข่ายสแกมเมอร์ที่กัมพูชามาดำเนินคดีไม่ได้ คนเชื่อว่าตำรวจไทย ปปง.ไทยทำได้ ถ้ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจ แต่ตนคงหวังจากรัฐบาลนี้ไม่ได้ คงต้องหวังจากรัฐบาลประชาชน ในการเลือกตั้งครั้งถัดไป
4. ก.ล.ต.ปปง.คปภ. และกรมการปกครอง ต้องทำให้กลุ่มการลงทุนต่างๆไม่สามารถปิดบังตัวตนของผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงได้ ต้องเปิดเผยตัวตนที่มาของเงินในทุกช่องทาง
สุดท้าย5. มาตรการระหว่างประเทศเราคงต้องแสดงความมุ่งมั่น จะต้องลงสัตยาบันให้ได้ และใช้อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อทะลายเครือข่ายใหญ่ ในเวทีอาเซียน ถึงเวลาที่เราต้องถือธงนำได้เวลาใช้ปฏิญญาต่างๆของอาเซียน ในการจัดการเครือข่ายสแกมเมอร์ในภูมิภาคอย่างจริงจังได้แล้ว ร่วมมือกับองค์กรต่างประเทศ ในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ สกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเงินสกปรก และเรายังสามารถร่วมมือกับประเทศต่างๆ ที่ยังไม่ได้ลงนามทั้งอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศสอินเดีย เกาหลีใต้สิงคโปร์และยังมีอีกหลายประเทศ ภายใต้ทางการทูต ที่เราสามารถร่วมมือกันและปราบปราม บางสิ่งบางอย่างหรือภารกิจบางอย่างด้วยความสมัครใจ ที่ประเทศต่างๆมองว่าเป็นภัยคุกคามร่วมกัน และฝากกระทรวงการต่างประเทศ จัดให้กัมพูชาอยู่ในประเทศสีเทาให้ด้ แต่เราก็ต้องบริสุทธิ์ด้วย ซึ่งไทยเราทำได้เลย
นายวิโรจน์ ยังกล่าวต่อว่าประเทศไทยใน เดือนตุลาคม ปี 2569 เป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม IMF และกลุ่มธนาคารโลก
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรีของเรานายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ จะถือธงนำประเทศไทย กล่าวสุนทรพจน์ที่ยิ่งใหญ่ ว่าประเทศไทยของเราจะเป็นแกนนำ ที่พร้อมให้ความร่วมมือ กับโลกทำลายกระบวนการสแกมเมอร์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้สิ้นซาก นี่คือภารกิจของนายกรัฐมนตรี ของคนไทยที่ชื่อณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ" นายวิโรจน์กล่าว
สำหรับในช่วงบ่ายมีการจัดแลกเปลี่ยนในหัวข้อ “ความมั่นคงและการต่างประเทศในยุคโลกล้อมไทย” นำโดยในรังสิมันต์ โรม -นายฟูอาดี้ พิศสุวรรณ และนายพิศาล มาณวพัฒน์ จากนั้นจะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับเรื่องชุบชีวิตเศรษฐกิจไทย โดยนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร และ สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์







