‘กุมารจีน’แม่สอด เกมท้าทาย'ชัยวุฒิ' แม่บ้าน ปชป.

เป็นที่รับทราบกันไปแล้ว “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อีกครั้ง

ในที่ประชุมใหญ่ของพรรค ปชป.วันนั้น เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ อดีต สส.สิบกว่าสมัย ผู้อาวุโสวัย 81 ปี ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนที่ 10 เพียงผู้เดียว

เมื่อเอ่ยชื่อ เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ย่อมนึกถึง “ผู้แทนเมืองตาก” ค่ายสีฟ้า ไม่ว่ายุคใดสมัยใด นักการเมืองรุ่นใหญ่คนนี้ไม่ทิ้งอุดมการณ์เสรีประชาธิปไตยของพรรค ปชป.

เมื่อศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองท้องถิ่น จ.ตาก จะพบว่า มีการแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งตะวันออก (อ.เมือง อ.บ้านตาก อ.วังเจ้า อ.สามเงา) กับฝั่งตะวันตก (อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด อ.ท่าสองยาง อ.อุ้มผาง)

พูดง่ายๆ ฝั่งตะวันตกนั้น ล้วนเป็นอำเภอที่อยู่ติดพรมแดนเมียนมา และการต่อสู้ทางการเมืองในโซนประจิมทิศจึงเข้มข้น

30 กว่าปีที่แล้ว การต่อสู้บนสังเวียนเลือกตั้งที่เมืองตาก ก็สู้กันอยู่ 2 ตระกูลคือ เทอดพงษ์ ไชยนันทน์ (พรรคประชาธิปัตย์) กับ อุดร ตันติสุนทร (สังกัดหลายพรรค)

ตระกูล “ไชยนันทน์” ผูกติดกับพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน ตั้งแต่รุ่นพ่อคือ “เทียม ไชยนันทน์” พ่อของเทิดพงษ์ ที่เริ่มต้นการเมืองที่ตรอกจีน ในตัวเมืองตาก

ส่วน “อุดร” นั้นปักหลักอยู่ฝั่งแม่สอด อาศัยที่เป็นลูกเขยตระกูล “พงศ์เรขนานนท์” บ้านใหญ่ชายแดนไทย-พม่า จึงได้เป็น สส.มาหลายสมัย

“พงศ์เรขนานนท์” สืบเชื้อสายมาจากชาวจีนรุ่นแรกที่มาบุกเบิกสร้างเมืองแม่สอด ดังนั้น คนชายแดนจึงเรียกว่า “บ้านใหญ่” อันหมายถึงเครือข่ายธุรกิจของตระกูลพงศ์เรขนานนท์

“ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์” ลูกชายจักคิ้ม แซ่ตั้ง ประธานแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล ก็เติบโตมาจากกลุ่มบ้านใหญ่ “พงศ์เรขนานนท์” มีพื้นฐานการศึกษาดี อ่อนน้อมถ่อมตน ช่วยเหลืองานสังคมอย่างต่อเนื่อง จนชัยวุฒิมีฉายาว่า “กุมารจีน”

สมัยเล่นการเมืองระดับเทศบาลแม่สอด ชัยวุฒิแสดงภาวะความเป็นผู้นำ ได้ทั้งบุ๋นและบู๊ จนขยับเป็น สจ.ตาก เขต อ.แม่สอด

ส่วนการเมืองระดับชาติ ชัยวุฒิได้ช่วยหาเสียงให้อุดร ตันติสุนทร มาทุกสมัย เพราะเขาเป็นสมาชิกกลุ่มบ้านใหญ่ตระกูล “พงศ์เรขนานนท์”

กระทั่ง ตระกูล “ตันติสุนทร” วางมือทางการเมือง “ชัยวุฒิ” จึงก้าวสู่สนามใหญ่ในสีเสื้อประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกตั้งเป็น สส.ตาก สมัยแรกปี 2539

ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ เข้าถึงชาวบ้านทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มชาติพันธุ์ทางฝั่งตะวันตก ชัยวุฒิกลายเป็นขวัญใจคนชายแดนไปโดยปริยาย

ไม่เพียงแค่เทศบาลนครแม่สอด ชัยวุฒิได้ขยายฐานเสียงไปฝั่งตะวันออก จนได้คะแนนเสียงมากที่สุดในเขต อ.เมืองตาก

สรุปว่า ยุคที่ จ.ตากเป็นเมืองสีฟ้า “ชัยวุฒิ” ขยายบารมีครอบคลุมทั้งฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก จนพรรค ปชป.สมัยโน้น ตั้งให้เขาเป็น “แม่ทัพภาคเหนือ”

ชัยวุฒิเป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง และมีความใกล้ชิดกับสุเทพ เทือกสุบรรณ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ เผชิญวิกฤติการเมือง “แดงทั้งแผ่นดิน” จนมีวอร์รูม “ราบ 11” มาแก้ไขวิกฤต ซึ่งชัยวุฒิได้รับความไว้วางใจจากอภิสิทธิ์ให้ไปอยู่ในวอร์รูมนั้นด้วย

ช่วงนกหวีดกู้ชาติ “ชัยวุฒิ” ได้ร่วมต่อสู้เคียงข้างมวลมหาประชาชนและเป็นแกนนำ กปปส. ที่ “ลุงกำนัน” ไว้วางใจที่สุดอีกคนหนึ่ง

การเลือกตั้งปี 2562 ชัยวุฒิ ยังลงสมัคร สส.ตาก เขต 2 (อ.แม่สอด อ.อุ้มผาง) และได้รับเลือกเป็น สส.สมัยที่ 6

ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ได้ทำจดหมายถึงผู้อำนวยการพรรค ปชป. ขอแจ้งเจตจำนงว่า ไม่มีความประสงค์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.สังกัดพรรค ปชป.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ผลการเลือกตั้งผู้แทนเมืองตากสมัยที่แล้ว ทั้ง 3 เขตปรากฏว่า พรรคก้าวไกลได้ 2 ที่นั่ง และพรรคพลังประชารัฐได้ 1 ที่นั่ง ซึ่งคะแนนบัญชีรายชื่อ พรรคสีส้มมาเป็นอันดับหนึ่ง

จากเมืองสีฟ้าในอดีต กลายเป็น “เมืองสีส้ม” แต่การเลือกตั้งนายก อบจ.ตาก บ้านใหญ่ตระกูล“ทวีเกื้อกูลกิจ” ยังรักษาแชมป์ไว้ได้

นัยว่า “ชัยวุฒิ” รับปากหัวหน้ามาร์ค มานั่งเก้าอี้ “เลขาธิการพรรค” แต่จะไม่ขอลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.หรือรับตำแหน่งรัฐมนตรี กรณีที่พรรคได้ร่วมรัฐบาล

“กุมารจีน”แห่งแม่สอด คิดจะวางมือทางการเมืองจริงๆ เมื่ออภิสิทธิ์ เอ่ยชวนให้กลับ ปชป. จึงตัดสินใจออกจากชายแดนตะวันตก มาทำภารกิจสุดท้าทาย นั่นคือ ฟื้นศรัทธามหาชนให้มาสนับสนุนพรรคสีฟ้าเหมือนในอดีต