'อนุสรณ์' มั่นใจยกเครื่องเพื่อไทย ท้าทายได้ สส.เกินเป้าหรือไม่

'อนุสรณ์' มั่นใจยกเครื่องเพื่อไทย ท้าทายได้ สส.เกินเป้าหรือไม่

'อนุสรณ์' มั่นใจ ยกเครื่อง 'เพื่อไทย' พาพรรคพุ่งไปข้างหน้า เชื่อสะกดสายตา รับท้าทายจะได้ สส.เกินเป้าหรือไม่ - แนะ 'อนุทิน' หารือ 'ฝ่ายค้ำ' ก่อนคุย กกต.อะไรทำได้ ทำไม่ได้

KEY

POINTS

  • นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.พรรคเพื่อไทย แสดงความมั่นใจต่อการยกเครื่องพรรค แม้ถูกวิจารณ์ว่าไม่มีอะไรใหม่ โดยชี้ว่าพรรคได้เปิดตัวผู้สมัครหน้าใหม่และพร้อมเลือกตั้งมากที่สุด
  • พรรคเพื่อไทยเตรียมประกาศนโยบายและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คนในอนาคต ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความสนใจทางการเมืองได้อย่างแน่นอน
  • นายอนุสรณ์ยอมรับว่าการจะได้ สส. ตามเป้าหรือเกินเป้าในการเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นความท้าทาย แต่เชื่อมั่นว่าการปรับปรุงพรรคจะนำไปสู่ความสำเร็จ

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทย ประกาศ ยกเครื่องพรรคเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย แต่ถูกตั้งคำถาม ยังไม่มีอะไรใหม่ ว่า พรรคเพื่อไทยเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ไปแล้ว 2 รอบ แต่ละรอบก็สร้างความฮือฮา แต่ละรอบก็มีคนใหม่ๆ เรื่องราวใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา  ถือเป็นพรรคการเมืองแรกที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เปิดตัวเป็นเรื่องเป็นราวได้เร็วกว่าใคร ซึ่งก็ย่อมมีทั้งผู้สมหวังและผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตามการทำงานการเมืองสามารถทำได้หลายบริบท จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสส.ระบบเขต สส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือเป็นรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง ทุกบทบาทหน้าที่ ถ้าทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน ทุกหน้าที่ล้วนมีความสำคัญ ในระยะต่อไปพรรคเพื่อไทยจะประกาศนโยบาย รวมถึงประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคทั้ง 3 คน

นายอนุสรณ์ เชื่อว่า จะสะกดสายตา และสร้างความฮือฮาทางการเมืองได้อย่างแน่นอน พรรคการเมืองทุกพรรคมีความท้าทายในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน พรรคเพื่อไทยไม่ได้มองว่าสิ่งเหล่านั้นคือปัญหาหรืออุปสรรคที่แก้ไม่ได้ พรรคเพื่อไทยเป็นสถาบันทางการเมือง มีคนออก ก็มีคนเข้า มีคนเก่า ก็มีผู้มาใหม่ อยู่ที่ว่าจะผสานความลงตัวในการทำงานร่วมกันได้อย่างไรให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด เท่าที่ดูสัญญาณจากรัฐบาลเสียงข้างน้อยตาม MOA โอกาสยุบสภาสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และพรรคเพื่อไทยคือพรรคแรกๆที่พร้อมเลือกตั้งสูงสุด

“พรรคเพื่อไทยจะได้ สส.เป็นตามเป้า หรือเกินเป้า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เป็นความท้าทายร่วม ในพรรคเพื่อไทย คำตอบของการหยุดไหลออก จะปรากฎคำเฉลยชัดในระยะเวลาอันใกล้ มั่นใจ ยกเครื่องเพื่อไทย พาพรรคพุ่งทะยานไปข้างหน้า แน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว

แนะ 'อนุทิน' หารือ 'ฝ่ายค้ำ' ก่อนคุย กกต.อะไรทำได้ ทำไม่ได้

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขอเข้าพบหารือคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่องแนวทางการจัดทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญ และการยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU43) และบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและกัมพูชาว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU44) ในวันลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป ว่า ถึงวันนี้พรรคฝ่ายค้ำ ที่ไปโหวตนายอนุทิน เพื่อให้ไปยุบสภา ไม่ให้บริหารประเทศ นั้น ไม่มีอยู่จริง พรรคฝ่ายค้ำจะโหวตเสร็จแล้ว ไปนั่งค้ำรัฐบาลที่ตั้งมาเองกับมืออยู่เฉยๆ

โดยไม่มีประชาชนอยู่ในสมการคงไม่ได้ ประชาชนมีคำถามถึงความจริงใจของรัฐบาลเสียงข้างน้อยใน การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาชายแดน ที่โยนภาระไปให้ทหาร ประชาชนก็รู้สึกกังวลใจ ปัญหาที่รัฐบาลจะยกเลิก MOU 43-44 ก็ยังไม่กล้าตัดสินใจ ต้องไปเพิ่มภาระโดยการกลับไปถามประชาชน ทั้งที่มีโพลระบุชัดว่าประชาชนยังไม่เข้าใจเรื่องการยกเลิก MOU 43-44 และรู้สึกสับสนมาก หากจะต้องออกเสียงบัตร 4 ใบ 6 คำถาม รัฐบาลเสียงข้างน้อยจะยกเลิก MOU 43-44 ต้องหาวิธีดำเนินการเอง ไปใช่ไปโยนภาระใส่ประชาชน ก่อนที่นายอนุทิน จะไปพบกกต.ควรไปหารือกับพรรคฝ่ายค้ำก่อนว่าอะไรทำได้ ทำไม่ได้

“ในโซเชียลเขาตั้งคำถามกับนายอนุทิน ว่า งานไม่ทำ รำอย่างเดียว หรือไม่ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับนายอนุทินด้วย ต้องไปถามพรรคฝ่ายค้ำด้วยว่า อะไรทำได้ ทำไม่ได้ อะไรให้ทำ หรือ ห้ามทำ  ก่อนยกเลิก MOU ต้องดูก่อนว่าขัด MOA หรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าว