ราชทัณฑ์สยบข่าว 'ทักษิณ' ออกเรือนจำไปลอกท่อ ชี้ยังติดเงื่อนไข

เมื่อวันที่ 26 ก.ย.2568 พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ MCOTHD ตอนหนึ่งถึงกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ต้องขังเด็ดขาด จะได้ออกไปลอกท่อ

โดย พ.ต.ท.เชน กล่าวยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แม้ครบหลักเกณฑ์ความประพฤติดี เหลือโทษน้อย แต่ยังติดเงื่อนไขเรื่องชั้นของนักโทษ เพราะเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลาง ผู้ที่จะออกไปทำสาธารณประโยชน์ได้ ต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี ส่วนการจะปรับเป็นนักโทษชั้นดี ยังต้องใช้เวลาพิจารณา 3-4 เดือน

“ปกติไม่ได้ออกหรอกครับ ต้องอยู่ไป 3-4 เดือนไปก่อน แล้วก็จะปรับเป็นชั้นดี แล้วค่อยออก การปรับเป็นชั้นดีไม่ใช่ได้ทุกคน ต้องไม่เกเร ไม่ใช่มาถึงให้ทำแล้วก็ไม่ได้ทำ ก็ไม่ได้ปรับหรอกครับ” พ.ต.ท.เชน กล่าว

พ.ต.ท.เชน กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีของนายทักษิณ ไม่สามารถนำมาเทียบกับ กรณีของนายเสกสรรค์ สุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” ที่ไปเล่นดนตรีปลอบขวัญชายแดน เนื่องจากเป็นการทำโครงการ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ไม่ใช่ของบุคคล และ ไม่ใช่ว่าจะทำโครงการใดก็ได้ เพื่อมาขอออกไปข้างนอก เพราะการออกไปทำสาธารณประโยชน์ มีผลต่อการลดโทษ แต่เหตุการณ์ชายแดน ไม่ใช่เรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้บ่อย จึงเป็นข้อยกเว้นให้เสนอโครงการ เพื่อให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์อนุมัติได้

พ.ต.ท.เชน กล่าวด้วยว่า หลักการสำคัญ คือ ออกนอกเรือนจำไม่ได้ แม้จะมีข้อยกเว้นทำโครงการ แต่ไม่ใช่ทุกกรณีที่จะยกมาเป็นเงื่อนไข ดังนั้นนายทักษิณ จึงยังไม่ได้ออกจากเรือนจำในขณะนี้ 

อนึ่ง วานนี้ (25 ก.ย.68) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า นายทักษิณ ได้พูดคุย และแจ้งความประสงค์กับผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม หากเป็นไปได้ก็อยากช่วยงานสาธารณะ (ลอกท่อ) เพื่อประโยชน์ของกรมราชทัณฑ์

นางกนกวรรณ กล่าวว่า การพิจารณาส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ (ลอกท่อ) ต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่า ด้วยการส่งนักโทษเด็ดขาดออกทำงานสาธารณะหรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ พ.ศ.2566 ที่ได้กำหนดเงื่อนไข และคุณสมบัติของนักโทษเด็ดขาดตามนัย ของกฎหมายฉบับนี้โดยสังเขป 1.เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดีขึ้นไป กำหนดโทษจำคุกไม่เกินสามปี ต้องจำคุกมาแล้วระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 (การมีโทษหนึ่งปีต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 เดือน) , 2.ต้องโทษจำคุกครั้งแรก , 3.การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดให้ออกไปทำงานจะต้องคำนึงถึงพฤติการณ์การกระทำผิด ลักษณะความผิด ความรุนแรงของคดี และ 4.ด้านข้อมูลบุคคล ให้คำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สุขภาพหรือความแข็งแรงของร่างกาย

"สำหรับข้อดี คือ 1.เป็นการสร้างตัวอย่างที่ดี ในการใช้ความมานะอุตสาหะ ทำความดีเพื่อตอบแทนสังคม หรือชดเชยการกระทำความผิด และ 2.ช่วยให้เกิดการประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ด้านการทำงานสาธารณะต่อประชาชน ดังนั้น ถ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบ เรือนจำอาจพิจารณานำเข้าคณะกรรมการชั้นเรือนจำ เพื่อเสนอคณะกรรมการชั้นกรมราชทัณฑ์พิจารณาอีกครั้ง" นางกนกวรรณ กล่าว

ทั้งนี้ นายทักษิณ เข้ารับโทษในเรือนจำเมื่อวันที่ 9 ก.ย.68 ที่ผ่านมา ยังไม่ครบ 4 เดือน จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะออกไปช่วยงานสาธารณะได้

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์