'กมธ.นิรโทษ' เพิ่ม อำนาจกก.นิรโทษฯ ล้างผิด เยาวชน คดีม.112

'กมธ.นิรโทษ' เพิ่ม อำนาจกก.นิรโทษฯ ล้างผิด เยาวชน คดีม.112

"โฆษกกมธ.สังคมสันติสุข" เผยผลพิจารณานัดสุดท้าย ย้ำการนิรโทษกรรมคนต้องคดีการเมือง 49-68 พร้อมเพิ่มอำนาจ กก.นิรโทษกรรม ให้ล้างผิด เยาวชนต้องคดีม.112

‘กมธ.สร้างเสริมสันติสุขฯ’ ประชุมนัดสุดท้ายเคาะแนวทางนิรโทษกรรม-ที่มา 9 คกก. พร้อมอำนาจหน้าที่ จ่อยื่น ‘ปธ.สภาฯ’ สัปดาห์หน้า คาด เข้าถกในสภาฯ เร็วที่สุด

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุข พ.ศ.... ที่มีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกมธฯ โดยเป็นการประชุมสรุปภาพรวมเป็นนัดสุดท้าย ซึ่งใช้เวลาประชุมกว่า 6 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 14.50 น. นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ โฆษก กมธ. แถลงผลการประชุม ว่า การทำงานของกมธ.ฯ ชุดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความตั้งใจที่จะลดความขัดแย้ง ไม่ใช่การเพิ่มความขัดแย้ง ทุกอย่างที่เราหารือกันเป็นการทำให้เกิดสังคมสันติสุข  กมธ.พยายามแก้ปัญหาให้ถูกจุดหมาย คือ คืนความเป็นธรรมให้ประชาชนที่แสดงออกทางการเมือง ไปร่วมชุมนุม แต่ถูกดำเนินคดี ดังนั้น กมธ.ได้วางกรอบกฎหมายที่ชัดเจน คือ

1.ตั้งแต่ช่วงก่อนรัฐประหาร พ.ศ.2549 จนถึงช่วงที่มีความขัดแย้ง ช่วงการรัฐประหารล่าสุด มาจนถึงสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ไม่เกินวันที่เสนอร่างกฎหมายและสภาฯ รับหลัก

2.การนิรโทษกรรมที่วางกรอบไม่นิรโทษกรรมเกี่ยวกับการกระทำที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต ถึงแก่ชีวิต เรื่องการทุจริต และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  ทั้งนี้การกระทำความผิดที่จะได้รับการนิรโทษกรรมนั้นต้องอยู่ในบัญชีแนบท้ายร่างพ.ร.บ. เพื่อทำให้บุคคลที่เป็นเหยื่อหรือถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งให้ได้รับความช่วยเหลือ ทั้งนี้ไม่นิรโทษกรรมให้กับคดีความผิดทางแพ่ง

"กรณีที่ผู้เสียหายเป็นรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ กฎหมายกำหนดว่าเราจะไม่ไปฟ้องร้องหรือบังคับคดี แต่หากกรณีใดที่ฟ้องร้องหรือบังคับคดีไปแล้ว ได้รับการชดใช้หรือคืนเงินไปและเก็บเข้าคลังไปแล้ว ก็ไม่มีการส่งคืน เพราะถือเป็นพยายามสร้างความสมดุลในเชิงความเป็นธรรม สำหรับคนที่ถูกบังคับคดีไปจนกระทั่งล้มละลาย ไม่สามารถใช้ชีวิตปกติได้ ในคดีทางแพ่งไม่ได้หายไป แต่จะกำหนดให้ไม่บังคับคดีเพิ่มเติมอีกทั้งยังมีเรื่องการดูเรื่องพฤติกรรมการกลับตัวกลับใจ" นายวีรพัฒน์ กล่าว

ด้านนายเอกชัย ไชยนุวัติ โฆษกกมธ.ฯ กล่าวว่า กมธ.ได้เพิ่มมาตรา 9/1 ให้คณะกรรมการที่จะมีการจัดตั้งขึ้นมามีอำนาจในการจัดทำแผนแก้ไขบำบัดและฟื้นฟูผู้กระทำความผิด ในกรณีบุคคลที่ต้องคดีเกี่ยวกับการกระทำความผิดที่อายุต่ำกว่า 18 ปี

ขณะที่นายนิกร จำนง เลขานุการกมธ.ฯ​ กล่าวว่า กมธ.มีความประสงค์ที่จะเสนอกฎหมายให้ทันการประชุมสภาฯ สมัยนี้ให้ได้ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจะเข้าสู่ที่ประชุมเข้าวาระ 2 และ 3 ต่อไป คาดว่าจะทำให้เร็วที่สุด 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาระของร่างกฎหมายที่ถูกจับตา คือ กลไกของคณะกรรมการที่จะพิจารณาบุคคลที่เข้าข่ายได้รับการนิรโทษกรรม จำนวน 9 คนนั้น มีดังนี้  1.นายกรัฐมนตรีหรือผู้ได้รับมอบเป็นประธาน 2. รมว.ยุติธรรม หรือผู้ได้รับมอบเป็นรองประธาน 3.ปลัดกระทรวงยุติธรรม 4.เลขาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 5.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายยุติธรรมจากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) 
6.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายยุติธรรมจากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)

7.ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมายยุติธรรมจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) 8. ตัวแทนจากองค์ภาคประชาชนจากประธานสภาผู้แทนราษฎร และ 9.ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นกรรมการและเลขานุการ

ขณะที่ อำนาจคณะกรรมการ กำหนดให้ 1.วินิจฉัยชี้ขาดนิรโทษกรรม 2.รับเรื่องร้องขอจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3.กำหนดแผนแก้ไขฟื้นฟูกรณีที่เยาวชนที่ไม่ได้นิรโทษกรรมตามประมวลกฎหมายมาตรา 112 ให้เข้าแผนแก้ไขฟื้นฟูแทนดำเนินคดี 4.เรียกเอกสารหรือมาให้ข้อมูล 5.จัดทำผลการประเมินสถานการณ์ รายงานต่อรัฐสภา คณะรัฐมนตรี (ครม.) และเผยแพร่ 6.สื่อสารสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะ 7.แต่งตั้งอนุและคณะทำงาน 8.ออกระเบียบ ประกาศ ตามร่างพ.ร.บ.นี้ และ 9.ดำเนินการอื่นใดตามพ.ร.บ.นี้คำวินิจฉัยตาม (1) ของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สิ้นสุด ทุกหน่วยงานต้องรับไปดำเนินการ