ปชน.ใช้เวทีแถลงนโยบาย ชำแหละคนมีคดีติดตัวใน 'ครม.อนุทิน'

ปชน.ใช้เวทีแถลงนโยบาย ชำแหละคนมีคดีติดตัวใน 'ครม.อนุทิน'

'ณัฐพงษ์' เตรียมใช้เวทีแถลงนโยบาย ชำแหละโฉมหน้า 'ครม.อนุทิน' โฟกัสคนมีคดีติดตัว เมิน 'เพื่อไทย' ไม่ร่วมวิปฝ่ายค้าน แต่ทอดสะพานอยากให้ทำงานร่วมกัน

KEY

POINTS

  • พรรคประชาชน (ปชน.) เตรียมใช้เวทีแถลงนโยบายรัฐบาลเพื่ออภิปรายคุณสมบัติและความเหมาะสมของรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรีของนายอนุทิน
  • การอภิปรายจะมุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีบางคนซึ่งถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลในคดีทุจริต
  • นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคฯ ยืนยันว่าได้เตรียมทีมผู้อภิปรายไว้แล้ว และถือเป็นจุดเริ่มต้นในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่พบว่าบางคนถูก ป.ป.ช.ชี้มูลคดีทุจริต ว่า จะต้องมีการเสนอข้อมูลอยู่แล้ว วันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรคประชาชนเตรียมผู้อภิปรายไว้แล้ว จะมีการอภิปรายถึงคุณสมบัติและความเหมาะสมของรัฐมนตรีแต่ละคน รวมถึงการดำเนินนโยบายรัฐบาล ในช่วงตลอดระยะเวลา 4 เดือน ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ อีกทั้งจะดูเรื่องแผนการทำงาน ที่รัฐบาลต้องปฏิบัติตาม MOA ซึ่ง พรรคประชาชนเตรียมกรอบเนื้อหาที่จะอภิปรายไว้แล้ว 

ส่วนการอภิปรายนโยบายรัฐบาลของพรรคประชาชน จะแบ่งเนื้อหาอภิปรายกับพรรคเพื่อไทยอย่างไร เพราะพรรคเพื่อไทยประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระ จะไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้านกับพรรคประชาชน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ต่างคนต่างทำหน้าที่ได้อยู่แล้ว การที่ไม่ร่วมรัฐบาลก็ถือว่าเป็นฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นพรรคเพื่อไทยก็ทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ คงไม่มีปัญหาอะไรในสภา

ถามย้ำว่า จะมีการแบ่งเนื้อหาการอภิปรายอย่างไรเพื่อไม่ให้ซ้ำกัน เนื่องจากไม่ได้มีการประสานงานกัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การทำงานภายในวิป ก็จะคุยตกลงเรื่องการแบ่งเวลา ส่วนเนื้อหาคงไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่ละพรรค 

ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าไปร่วมวิปฝ่ายค้าน จะไม่ทำให้เป็นปัญหาในการทำงานหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้าตามกฎหมาย ตอนนี้พรรคเพื่อไทยยังอยู่ในสถานะเป็นรัฐบาล เพราะมีตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่จริง ๆ ในทางปฏิบัติ อยากให้พรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ เคยสื่อสารไปแล้วหลายครั้ง ตราบใดที่พรรคเพื่อไทยยังคงทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็งอยู่ การจะกำกับทิศทางรัฐบาลภูมิใจไทยให้เดินหน้าตามกรอบMOA ก็จะมีความเป็นไปได้เกือบ 100% ดังนั้นการทำงานตอนนี้ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่อยากให้เอาอุปสรรคอื่นๆอะไรมาขวางกั้น 

เมื่อถามว่า จะต้องไปพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเองหรือไม่ ในฐานะเป็นผู้นำฝ่ายค้านนั้น หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า พูดคุยประสานงานกันอยู่แล้ว ตนไม่อยากให้มีการแสดงท่าที ว่าไม่อยากจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่อยากให้กลายเป็นว่าฝ่ายค้านมาค้านกันเอง และยังยืนยัน การหาทางออกให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาชน ก็ต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ในสภา

เมื่อถามว่าในฐานะผู้เป็นอาวุโสน้อยกว่า จะต้องไปคุยกับพรรคเพื่อไทยก่อนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องให้ใครเข้าไปหา หรือไปพูดคุยกับใครก่อน เพราะในสภามีกลไกของวิป ไม่อยากให้มีใครต้องถือทิฐิ เราจะต้องเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี ถ้าจะมีการยุบสภาภายใน 4 เดือน และเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญประชาชนก็จะได้ประโยชน์

ส่วนที่มีภาพนายอนุทินไป รับประทานอาหารร่วมกันกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี มองว่ามีนัยทางการเมืองอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติที่จะมีการพูดคุยกัน ส่วนการโพสต์ภาพออกมา ต้องการจะสื่ออะไรหรือไม่นั้น ต้องไปถามนายอนุทิน ตนคงตอบแทนไม่ได้ ว่าจุดประสงค์การนัดทานอาหาร และโพสต์ภาพออกมาแบบนี้ มีวัตถุประสงค์อะไร 

เมื่อถามว่า กังวลใจหรือไม่ การโพสต์ภาพแบบนี้จะมีนัยการเมือง นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ไม่กังวลใจ และให้กลับมามองที่หน้ากระดานการเมืองจำนวนเก้าอี้ สส. และตอนนี้ไม่มีความเป็นไปได้อื่นใด ที่จะเกิดรัฐบาลเสียงข้างมาก ถ้าพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง จะสามารถรักษาเสียงในพรรคให้อยู่ร่วมกัน ตอนนี้อาจจะมีข่าวที่ปรากฏออกมาว่านายอนุทิน จะดูดเสียง สส.มาอยู่ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยมากยิ่งขึ้นนั้น ย้ำว่าไม่ได้มีข้อห่วงใยอะไร หากฝ่ายค้านทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เราก็จะกำกับทิศทางรัฐบาลเสียงข้างน้อยให้เป็นไปตาม moa ได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงหน้าตา ครม. ของนายอนุทิน ว่า มีข้อห่วงใยหลายคน และหลังแถลงนโยบายแล้ว ก็จะเป็นหนึ่งหมุดใหม่แรกที่เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่