โดรนมหาภัย 'แม่ทัพกุ้ง' โปรดฟัง 'บิ๊กเยิ้ม' ก่อน

โดรนมหาภัย 'แม่ทัพกุ้ง'  โปรดฟัง 'บิ๊กเยิ้ม' ก่อน

โดรนโปรเจกต์ยักษ์ ของบริษัทเอกชน โดยมี"บิ๊กเยิ้ม" ร่วมคณะเกือบทำ "แม่ทัพกุ้ง" ลงจากเก้าอี้ มทภ.2 ไม่สวย เสียแล้ว

KEY

POINTS

 

  • ผู้แทนบริษัท โฟกัส แม่ทัพกุ้ง อยากมอบของ พร้อมเสนอโครงการพิเศษโดรน มูลค่า เฉียดพันล้าน
  • กองทัพบก รีบออกมาชี้แจง ปกป้อง มทภ.2 ยัน ไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ บริษัทแค่มาเสนอ

กลายเป็นประเด็นร้อนหลัง เพจเฟซบุ๊กของกองทัพภาคที่ 2 ได้เผยแพร่ภาพผู้แทนบริษัท Capital Trust Group Limited ได้เข้าพบ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยื่นเอกสารเสนอโครงการ "AgriTech Drone Digital Bond" วงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดหาโดรนเกษตรอัจฉริยะ 1 ล้านลำในประเทศไทย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อเพิ่มทักษะให้กับทหารในการทำเกษตร” 

โดยมีการโฟกัสไปที่ "บิ๊กเยิ้ม"พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตแม่ทัพภาคที่2 รวมเฟรมถ่ายภาพร่วมตัวแทนบริษัท และ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่2 

มีรายงานว่า ในภาพดังกล่าว พลโทบุญสิน รู้จัก พลเอกธวัชชัย เพียงคนเดียว แต่ไม่รู้จักผู้แทนบริษัท เนื่องจากเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา ที่เคยปฏิบัติราชการภาคสนาม ด้วยกันมาก่อน จึงมีการนำลงเพจ ทภ.2 และลบทิ้งในเวลาต่อมา

แต่มีชาวเน็ตตาไวแคปภาพทันและส่งต่อในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเป็นวงกว้างทั้งตัว พลเอกธวัชชัย คาดว่าเป็นผู้นำพา รวมถึงตัว แม่ทัพกุ้ง และ ทภ.2 

ต่อมา กองทัพบก โดย พลตรีวินธัย
สุวารี โฆษกกองทัพบก รีบออกมาชี้แจงว่า กองทัพบกและกองทัพภาคที่ 2 ยังไม่ได้มีการดำเนินการใด ๆ เป็นเพียงการเสนอ โครงการเท่านั้น 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลเอกธวัชชัย ชี้แจงว่า คนชอบมองในแง่ลบ โดยไม่ทราบเจตนาที่แท้จริง ตนเป็นทหารเก่า และเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่2 รับผิดชอบพื้นที่นี้มาก่อน ซึ่งปัจจุบัน เกิดเหตุการณ์ปะทะ ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา และเป็นการสู้รบด้วยอาวุธสมัยใหม่ ซึ่งโดรนถือว่ามีความสำคัญ หากยังใช้วิธีแบบเดิม กำลังพลก็เหยียบกับระเบิด ขาขาด แต่หาก จะไประดมทุน เพื่อภารกิจทหาร ก็คงไม่มีใครเขาทำกัน 

ยอมรับว่าตนรู้จัก กับผู้แทนในบริษัทดังกล่าว เขาก็เสนอมา และยืนยันว่า การระดมทุน ไม่ได้ระดมทุนภายในประเทศไทย แต่เป็นคนต่างประเทศทั้งหมด และบริษัทอยากจะไปมอบให้พื้นที่กองทัพภาคที่2 แต่ทุกอย่างก็ต้องมีอะไรมาก่อนและ "แม่ทัพกุ้ง" พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็มีคนชื่นชอบ  ก็อยากจะไปมอบของ พื้นที่ของกองทัพภาคอื่น เขาไม่ไป เขาอยากจะไป พื้นที่ของกองทัพภาคที่2 เพราะเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์

" พี่ได้ไปคุยกับน้อง(แม่ทัพกุ้ง) ว่าเราไม่ได้เสียอะไร เพราะพี่มีกระแสอยู่ส่วนหนึ่ง จากกรณีพี่ไปร่วมกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ชัย ในช่วงที่ผ่านมา และการที่บริษัทไปเสนอ จะไปเสนอแค่ 100 ลำ ก็คงไม่โดนใจ จึงนำเสนอไปจำนวนเยอะๆคือ 1ล้านลำ ซึ่งความเป็นจริง อาจจะแค่ 5,000 ลำ  ซึ่งทางบริษัทได้มาพูดคุยกับพี่

เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่มองว่าเราไม่เสียเงิน เขาบอกว่าข้างนอกมีเศรษฐี ถ้าเขาสนใจเขาจะร่วมบริจาก เขาแนะนำมา เราก็บอกถ้าแบบนั้นก็ลองดู เพราะปัจจุบันใช้เงินหลวงซื้อโดรนได้ ครั้งละไม่กี่ตัว ไม่สามารถสร้างความเกรงกลัวให้กับข้าศึกได้" พลเอกธวัชชัย กล่าวและว่า

ถ้ามีโดรนแล้ว ถ้าเราไม่ฝึกฝน ไม่มีความชำนาญ การใช้งานก็ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก็ใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ จึงเป็นที่มาของ โครงการอบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อเพิ่มทักษะให้กับทหารในการทำเกษตร” เพื่อให้เกิดการผสมผสานเป็นไฮบริดจ์ จึงสามารถประยุกต์ดัดแปลงได้ ทั้งการใช้เพื่อการเกษตร ในขณะเดียวกัน ความชำนาญที่กำลังพลจะได้รับ ก็สามารถนำไปใช้ในการรบได้เช่นกัน

การฝึกโดรนเพื่อการเกษตร ถ้าเป็นวันหยุดราชการ ทางบริษัท จะไปหา เกษตรกรที่ต้องการ จัดรดน้ำ ใส่ปุ๋ย พ่นยาฆ่าแมลง สมมุติ ไร่ละ 100 บาท ลูกน้องอาจได้เปอร์เซนต์10-20บาท คล้ายกับ ไรเดอร์ขับแกร๊บ ในส่วนนี้ทางบริษัท จะเอากลับไปหมุนเวียน ของเขาเอง ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรา หรือกองทัพทั้งสิ้น แต่ผลที่ได้รับ กำลังพลจะมีทักษะขับโดรน จะออกมาเป็นใบรับรอง ให้ถูกต้องตามกฎหมายของไทย คล้ายกับใบขับขี่ อีกทั้งโดรน ภายในประเทศเราก็ผลิตได้  ไม่ต้องไปจัดซื้อจัดหา จากของจีนหรือของสหรัฐ

"ตอนนี้ก็โดนโจมตี พี่ไม่มีอะไร และพี่ก็อายุมากแล้ว เรื่องผลประโยชน์ไม่มีร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งในส่วนตัวของพี่ และทีมงาน"

พลเอกธวัชชัย กล่าวอีกว่า บริษัทเหล่านี้ ล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ เขาก็คิดใหม่ทำใหม่ และโดรนที่ได้มา ก็ไม่ได้เอาไปขาย ก็จะนำไปกระจายให้หน่วยทหารได้ใช้  ในสถานการณ์ปกติหน่วยที่รับผิดชอบก็ฝึกโดรน มีเหตุการณ์ เราก็สามารถดัดแปลงไปปฏิบัติภารกิจทางทหารได้ทันที ปัจจุบัน เรามีโดรนไม่กี่ตัว แต่หากในอนาคต มีเป็นพันตัว หมื่นตัว ก็จะสร้างความเกรงขามให้กับข้าศึก

ไม่มีใครอยากจะมายุ่งกับเรา วัตถุประสงค์ก็มีเพียงแค่นี้ และที่สำคัญไม่ได้เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการที่นำเงินมาลงทุน เพราะเมื่อมาแล้วก็ต้องผ่านกฎหมายของไทยเช่นกัน จะนำเข้า มีวัตถุประสงค์อย่างไร ส่วนจะสำเร็จหรือไม่ ก็ไม่เป็นอะไร แต่หากสำเร็จก็จะเป็นผลดี หากไม่สำเร็จก็นับหนึ่งแบบเดิมไป ใช้งบบริจาค ที่มาจากการชุมนุม ของประชาชนไปก่อน จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ของอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

"พี่ก็โดนทางบ้านดุมาเหมือนกัน อายุมากแล้ว ย่าง74 ปี ไปยุ่งอะไรกับเขา เพียงแต่พี่อยากช่วยเหลือกองทัพ และไม่ใช่เฉพาะกองทัพภาคที่2อย่างเดียว ก็มองไปที่กองทัพภาคอื่นด้วยพี่ก็เห็นว่าไม่เสียหายอะไร" 

พลเอกธวัชชัย ย้ำว่า สำหรับชื่อโครงอบรมโดรนเพื่อการเกษตร ที่ไปบอกว่าไม่ใช่ภารกิจทหาร ถ้าหากไปบอกว่าอบรมเพื่อการรบ แล้วใครจะมาลงทุน จึงจำเป็น ต้องใช้เรื่องการเกษตร เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นวิธีการระดมทุนของเขา

ยอมรับว่าผู้แทนบริษัท โฟกัสมาที่ตัวของแม่ทัพกุ้ง เนื่องจากปัจจุบัน กระแสเขาฟีเวอร์ แต่ไม่ได้มีสัญญาอะไร แค่เป็นการนำไปเสนอ จะเอาหรือไม่เอาขึ้นอยู่กับกองทัพภาคที่ 2 กองทัพบก ตัดสินใจ ตนก็เกษียณแล้ว ก็นำมาเสนอน้อง อย่างแม่ทัพกุ้งก็เคยทำงานร่วมกัน ช่วงที่ตนเป็นแม่ทัพภาคที่สอง กุ้ง เป็นผู้พัน ซึ่งต้องชื่นชม แม่ทัพกุ้ง ที่กลายเป็นไวรัลให้คนไทยหันกลับมาชื่นชมทหาร ตนก็ขอบคุณเขา 

"เข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วงแม่ทัพกุ้ง
เอาชื่อเสียงของเขาไปหากิน ตนยืนยัน รับราชการทหาร ออกสนามมาทั้งชีวิตจนเกษียณ ดูแลลูกน้องตลอด แต่เห็นว่าเป็นโครงการที่ดี"

โดย บิ๊กเยิ้ม กล่าวทิ้งท้ายว่า
สังคมสามารถวิจารณ์ตนได้ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งตนจะได้กลับไปถามรายละเอียดบริษัทให้ชัดเจนมากกว่านี้