กองทัพฝังกลบ‘รัฐประหาร’ ชูอำนาจในระบบ ฝ่าวิกฤติ

ผลพวงจากการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา 'กองทัพไทย" ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยอย่างยอดเยี่ยม ขับไล่ทหารกัมพูชา ยึดคืนพื้นที่ 11 จุด ซึ่งต้องแลกมาด้วยชีวิต เลือดเนื้อ อย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรีของความเป็นชายชาติทหาร 

ส่งผลให้คนไทยทั้งประเทศ เทใจให้กองทัพ หวังให้เป็นเสาหลักพึ่งพิงในยามประเทศเผชิญวิกฤติ 
ในระหว่างศึกชายแดนไทยกัมพูชา ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ การเมืองก็เข้าสู่ภาวะสุญญากาศ ขาดผู้นำ

ขณะที่ทาง“กองทัพ” ก็ได้วางแนวทางจัดระเบียบประเทศอย่างเป็นระบบ โดยไม่ต้องอาศัยอำนาจนอกรัฐธรรมนูญที่ประชาชนไม่ยอมรับ ก่อ“รัฐประหาร” ให้ถูกประชาคมโลกประณามเฉกในอดีต

“แม่ทัพกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ผู้ที่ถูกกล่าวถึงอย่างกว้างขวาง “ฮีโร่” สู้ศึกกัมพูชา กำลังทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมคนไทยทั้งประเทศให้กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน

หลังเจรจาหยุดยิง “แม่ทัพกุ้ง” เข้านอก ออกในรั้วมหาวิทยาลัย โรงเรียน กทม.และต่างจังหวัด ปลุกความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งล้วนเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศชาติ

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สัญลักษณ์ประชาธิปไตย ในอดีตมีความทรงจำที่ไม่ดีต่อกองทัพ และยังส่งผลมาถึงปัจจุบัน “แม่ทัพกุ้ง”บุกทะลวง เข้าไปเคลียร์ใจ เน้นย้ำบทบาททหารยุคใหม่

“ก่อนหน้านี้ทหารใส่ชุดลายพรางเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ แต่ผมใส่เข้าไปในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้บังคับบัญชาถามว่า คิดดีแล้วใช่หรือไม่ เขาเตรียมรถพยาบาลไว้ให้ แต่เมื่อไปเจอน้องๆ นักศึกษา น่ารัก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คือสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มีสิ่งที่ติดใจรุ่นพี่ หากปล่อยไว้ เมื่อไหร่จะได้พูดคุยกัน จึงตัดสินใจไปมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”

“ผมได้ฝากพี่น้องทหาร ตำรวจ กับน้องๆ นักศึกษา บอกว่าเขาเป็นคนไทยคนหนึ่งที่รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับน้องๆ ทุกคน แต่นับจากวันนี้ ต้องทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง ให้ช่วยกันคิด ให้ลืมภาพเก่า ทหารปฏิวัติ ถือปืนเอ็ม 16 มันผ่านไปแล้ว อยากให้เริ่มต้นใหม่ และไม่ต้องถามว่าจะปฏิวัติหรือไม่ ไม่อยู่ในสมอง ผมมีเพื่อนเป็น ผบ.ทบ.(พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์) ยืนยันว่า หมดยุคหมดสมัยไปแล้ว” พล.ท.บุญสิน กล่าว

แม่ทัพกุ้ง ปฏิเสธเล่นการเมืองหลังเกษียณฯ แต่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา ผบ.ทบ.(พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์) ให้คำแนะนำชายแดนไทย-กัมพูชา แต่งานหลักคือ การเข้าถึงมวลชน

โดยวางเป้าหมาย สานต่อภารกิจรักชาติ หวงแผ่นดิน ทำให้ประเทศเกิดความมั่นคง มีประชาชนเข้มแข็ง รู้รักสามัคคี มีความเป็นหนึ่งเดียว ปลูกฝังให้เลือกคนดี ซื่อสัตย์ สุจริต มองผลประโยชน์ส่วนรวมเข้ามาบริหารประเทศ

“เกษียณฯยังทำหน้าที่นี้ต่อไป ไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง แต่จะพูดให้บ้านเมืองมีความเข้มแข็ง ซื่อสัตย์ สุจริต ทำในสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม จากนี้ไปประเทศชาติจะดีขึ้น” พล.ท.บุญสิน กล่าวอย่างเชื่อมั่น

ขณะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา แม้จะอยู่ระหว่างหยุดยิง แต่หยุดยิงชั่วคราว สถานการณ์วางใจไม่ได้ ทหารกัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ลอบวางทุ่นระเบิด ระเบิดแสวงเครื่อง ในเขตพื้นที่ไทย

ทหารไทยได้ทำหนังสือประท้วงผ่านกลไกต่างๆ ในเวทีโลก ควบคู่กับการปฏิบัติทางทหาร ตามกฎการปะทะ หากพบทหารกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย วางทุ่นระเบิด เปิดฉากยิงขับไล่ได้ทันที

บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ถือเป็นหนึ่งในจุดเปราะบาง หากเจรจาไม่เป็นผล ฝ่ายไทยจะใช้อำนาจตามกฎหมายผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำตั้งบ้านเรือนมากว่า 40 ปีออกนอกพื้นที่ทันที

ภูมะเขือ พื้นที่ยุทธศาสตร์เขตอธิปไตยไทย กัมพูชาจ้องยึดหลังพบความเคลื่อนไหว “พล.อ.ฮิง บุนเฮียง” รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารอารักขา BHQ เข้าพื้นที่ปราสาทพระวิหาร บริเวณใกล้เคียงภูมะเขือ

BHQ กองกำลังที่ดีที่สุดของกัมพูชา และได้รับความไว้วางใจจาก “ฮุนเซน” รักษาการประมุขแห่งรัฐกัมพูชา เพราะผ่านการฝึกมาพอสมควรและเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วที่อยู่ในการเฝ้าระวังของทหารไทย

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายพื้นที่กัมพูชาจ้องยึดคืน เช่น ช่องอ่านม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ที่ถูกล้อมรอบรั้วลวดหนาม แสดงอาญาเขตของฝ่ายไทย และการเข้า-ออกในอนาคต คนต่างชาติต้องใช้ วีซ่าและพาสปอร์ตเท่านั้นเพื่อเยี่ยมชม

ทำให้ฝ่ายไทยเตรียมใช้ช่องทางที่ถูกต้อง ด้วยการทำหนังสือประท้วง ปราสาทตาเมือนควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ทหารกัมพูชาใช้ตัวปราสาทเป็นที่ตั้งทหาร ส่วนรอบนอกฝั่งทุ่นระเบิดป้องกันอีกชั้น

สำหรับผู้ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจากแม่ทัพกุ้ง สางปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ให้จบ “รองแม่ทัพเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ ว่าที่ แม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งมีบุคลิกพร้อมปะฉะดะ ไม่แตกต่างกับพล.ท.บุญสิน

เหตุผลที่เป็น“รองแม่ทัพเติ่ง” ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมรุ่นของพล.อ.พนา และพล.ท.บุญสิน แต่หากพลิกประวัติ ถือว่าเป็นทหารมากฝีมือ ผ่านการรบหลายสมรภูมิ

ปี 2554 เคยเป็นผู้บังคับกองพันทหารราบเฉพาะกิจที่ 161 หรือ “กองพันเฉพาะกิจพระวิหาร” มีพื้นที่หน้าแนวที่ต้องรับผิดชอบ ตั้งแต่ช่องอานม้า-ภูมะเขือ และพื้นที่พลาญยาว-พลาญหินแปดก้อน

“รองแม่ทัพเติ่ง” เติบโตในชีวิตราชการตามลำดับในพื้นที่อีสานใต้ ตั้งแต่เริ่มราชการจากร้อยตรี เป็นผู้หมวด ผู้พัน และผู้กอง กระทั่งก้าวเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 16 (ผบ.ร.16) ค่ายบดินทรเดชา จ.ยโสธร เมื่อปี 2561

เป็นผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.ขุนหาญ อ.ขุขันธ์ และ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ฝั่งตรงข้าม อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ของกัมพูชาจึงรู้จักคนและพื้นที่ตลอดแนวชายแดน

ปี 2564 “รองแม่ทัพเติ่ง” ขยับเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ควบคุมพื้นที่ไทย-กัมพูชา ซึ่งถือเป็นตำแหน่งหลักฝ่ายยุทธการควบคุมกำลังรบที่สำคัญ ก่อนขยับขึ้นรองแม่ทัพภาคที่ 2

ในห้วงเกิดการสู้รบ 24 ก.ค.-28 ก.ค. ที่ทหารเขมรเปิดฉากถล่มยิงปั๊มน้ำมัน โรงพยาบาลและโรงเรียน “รองแม่ทัพเติ่ง” อยู่ร่วมวางแผนปฏิบัติการหน้าแนวกับ พล.อ.พนา และพล.ท.บุญสิน

รวมทั้งสมรภูมิรบปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ภูมะเขือ ช่องอานม้า และช่องบก ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมพื้นที่การรบและการประสานการรบระหว่างแนวหน้า ศูนย์ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าและศูนย์ปฏิบัติการการหลัก

หลังหยุดยิง “รองแม่ทัพเติ่ง” ยังเป็นผู้นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team : IOT) จำนวน 8 ประเทศ ลงพื้นที่ 4 จุด ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ผามออีแดง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โรงพยาบาลพนมดงรัก เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ช่องจุ๊ปตะโมก จ.สุรินทร์

ในระหว่างที่ฝ่ายการเมืองกำลังช่วงชิงเก้าอี้นายกฯ คนที่ 32 ของประเทศไทย ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะตกผลึกกันเมื่อไหร่ ฟากกองทัพก็เดินหน้าจัดระเบียบชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ ด้วยการขึงรั้ว แสดงอาณาเขต จัดวางคนเตรียมรับมือหากมีการปะทะกันรอบใหม่

ควบคู่จัดระเบียบคนในประเทศ ปลูกฝังปัญญาชน รู้รักสามัคคี เลือกคนดี ซื่อสัตย์ สุจริต เห็นแก่ประโยชน์ประเทศชาติมากกว่าส่วนตนขึ้นมาบริหารประเทศ

ดังนั้น แม้แต่ทหารยังเลือกที่จะปฏิรูปตัวเอง ใช้อำนาจตามกฎหมายตามกรอบรัฐธรรมนูญ พยายามขับเคลื่อนประเทศให้พ้นวิกฤติ เหลือเพียงฝ่ายการเมืองที่ต้องทบทวนตัวเองว่า ต้นตอวิกฤติซ้อนวิกฤติใครเป็นผู้ก่อ