'ณัฐพงษ์' นำทัพ สส.ปชน.พบศาล คดีถูก 'บ.พลังงาน' ฟ้องเรียก 300 ล้าน
'ณัฐพงษ์' นำทีม สส.ปชน. ถูก 'ยักษ์ใหญ่พลังงาน' เข้าพบศาลตามนัดไต่สวน หลังโดนฟ้องเรียกค่าเสียหาย 300 ล้านบาท จากการอภิปรายในสภา ยันเจตนาบริสุทธิ์ พร้อมสู้เต็มที่
KEY
POINTS
- นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อม สส. ของพรรคอีก 2 คน เข้ารับฟังการไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่ถูกบริษัทพลังงานฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกว่า 300 ล้านบาท
- สาเหตุของการฟ้องร้องมาจากการแถลงข่าวและอภิปรายในสภาเกี่ยวกับปัญหาค่าไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในอดีต
- นายณัฐพงษ์ยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการทำหน้าที่ สส. โดยสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการของศาลเพื่อพิสูจน์เจตนา
- ศาลยังไต่สวนมูลฟ้องไม่แล้วเสร็จ และได้นัดไต่สวนพยานฝ่ายโจทก์เพิ่มเติมในวันที่ 27 ตุลาคม 2568
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2568 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) พร้อมด้วยนายวรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และ นายศุภโชติ ไชยสัจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ร่วมพบศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้อง กรณีที่ทั้ง 3 ถูกฟ้องจากบริษัทพลังงานใหญ่เป็นมูลค่ารวมกว่า 300 ล้านบาท จากการแถลงข่าวและอภิปรายในหลายวาระเกี่ยวกับการเรียกร้องกรณีค่าไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรมในประเทศไทย ที่เกิดจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลหลายสมัยที่ผ่านมา
ภายหลังเข้าพบศาลตามนัดไต่สวนมูลฟ้องเสร็จสิ้น นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับกระบวนการไต่สวนมูลฟ้องวันนี้ยังไม่จบดี โจทก์ยังเหลือพยานที่ต้องการให้มาไต่สวนมูลฟ้องเพิ่มเติม ซึ่งโดยเบื้องต้นมีการนัดอีกครั้งในวันที่ 27 ต.ค. 2568 ทั้งนี้ ยืนยันว่าพวกตนมีเจตนาสุจริตในการทำหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการตรวจสอบการดำเนินนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สาธารณะต่อประชาชน ขณะเดียวกันโจทก์ก็มีสิทธิในการยื่นฟ้อง ผลจะเป็นอย่างไรนั้นเชื่อว่าศาลจะให้ความยุติธรรมกับพวกตนได้
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในหลายครั้งการอภิปรายของ สส. ในสภา อาจมีประเด็นที่เกิดการฟ้องร้องขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ตนยังไม่ขอลงรายละเอียด คดีที่ตนเป็นจำเลยเกิดจากการแถลงข่าว ส่วนของวรภพและศุภโชติเกิดจากการอภิปรายในสภา แต่พวกตนทั้งหมดยืนยันว่ามีเจตนาสุจริตในการทำหน้าที่ สส. ในการเรียกร้องประโยชน์สาธารณะ จึงไม่มีข้อห่วงกังวลใดๆ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการที่ศาลคิดว่าสมควร เพื่อยืนยันในเจตนาบริสุทธิ์ของพวกตนในการทำหน้าที่ สส. ต่อไป
ส่วนข้อคิดเห็นที่มีการพูดถึงกันว่าเป็นการฟ้องร้องเพื่อปิดปากหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้ ประชาชนและสื่อมวลชนที่ติดตามอยู่ย่อมมีวิจารณญาณในการติดตามข้อมูลข่าวสารและพิจารณาของตัวเอง พวกตนเพียงจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อสาธารณะเท่านั้น