'สส.ปชน.' ข้องใจ ก.เกษตร จัดงบสูง ลง จ.พะเยา ส่อเป็นเหตุผลการเมือง

"สส.ฝ่ายค้าน" ข้องใจ งบฯ ก.เกษตรฯ จัดลง จ.พะเยา สร้างตลาดกลาง 41 ลบ. ตั้งคำถามเป็นเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือการเมือง พร้อมขอลดงบกรมฝนหลวง หลังทำงานนอกภารกิจ
ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วาระสอง ซึ่งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาแล้วเสร็จ ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมได้พิจารณาต่อในมาตรา 14 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตและสหกรณ์ วงเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้พบการอภิปรายของนายกิตติภณ ปานพรหมมาศ สส.นครปฐม พรรคประชาชน อภิปรายขอปรับลดงบประมาณในส่วนงบอบรมสัมมนาและงบที่เกี่ยวข้อง ที่มีวงเงินรวม 56.27 ล้านบาท เพราะไม่สามารถวัดผลได้ว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต หรือ เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรหรือมูลค่าของผลผลิตของเกษตรกรได้จริง
ขณะที่นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายตั้งข้อสังเกตของการจัดสรรงบประมาณในส่วนของ อ.ต.ก. ซึ่งพบว่าจัดสรรงบประมาณ จำนวน 41ล้านบาท เพื่อสร้างตลาดกลางภาคเหนือ ที่จ.พะเยา เพียงแห่งเดียว ซึ่งงบดังกล่าวถือว่าสูงเกือบครึ่งหนึ่งของงบของการตลาดเพื่อเกษตรกร อย่างไรก็ดีในการสร้างตลาดกลาง จ.พะเยา ดังกล่าว พบว่ามีวงเงินผูกพัน 3 ปี รวมวงเงินรวม 168 ล้านบาท ทั้งนี้จากการลงพื้นที่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่าพื้นที่ดังกล่าวที่ได้รับงบประมาณไปแล้วเมื่อปี2568 วงเงิน 32 ล้านบาท ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อย่างไรก็ดีตนมองว่าหากตลาดดังกล่าวสำเร็จจะเป็นความเสี่ยง คือ เกิดการผูกขาดเกษตรกรจังหวัดอื่น หรือหากทำไม่สำเร็จจะกลายเป็นตลาดร้าง
“ทำไมจ.พะเยาถึงได้งบลงทุนสูงกว่าจังหวัดใหญ่ในภาคเหนือ ทั้งนี้มีข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจ ในส่วนของมูลค่าส่งออกของสินค้าเกษตรไปลาวของพะเยา ต่ำกว่า จ.เชียงราย และ จ.น่าน ถึง 3 เท่า ซึ่งการเลือกพื้นที่ดังกล่าวนั้น ผมขอตั้งข้อสังเกตว่าใครได้ประโยชน์ เป็นการเลือกพื้นที่เพราะเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือเหตุผลทางการเมือง” นายวิทวิสิทธิ์ อภิปราย
ขณะที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคประชาชน อภิปรายว่า กรมฝนหลวง ในส่วนของการบินและการเกษตร ได้รับงบปี2569 เพิ่ม 15% หรือ 2,715 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้เพิ่มภารกิจให้ตนเอง เช่น กรมท่าอากาศยาน ได้ให้การบริหารจัดการสนามบินตราด ทั้งที่ไม่ใช่ภารกิจหน้าที่ของกรมฝนหลวง ทำให้การของบประมาณปีนี้มีโครงการก่อสร้างเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เช่น การปรับปรุงผิวทางวิ่งทางขับ ที่สนามบินตราด วงเงิน 96.9 ล้านบาท สร้างศูนย์ปฏิบัติการ 2 แห่ง โดยที่แรก คือ จ.พะเยา เป็นอาคาร 2 ชั้น มูลค่า 299.8ล้านบาท ประกอบด้วยตัวอาคาร 2 ชั้น 56.5 ล้านบาท ขณะที่ค่าครุภัณฑ์ ตกแต่งภายใน มูลค่า 94.3 ล้านบาท บ้านพักของผู้อำนวยการศูนย์ 3 ล้านบาท ในรายละเอียดพบว่ามีชุดโต๊ะ เก้าอี้ ผู้อำนวยการ ชุดละ 1.3 แสนบาท จำนวน 2 ชุด
นายจิรัฏฐ์ อภิปรายต่อว่าและแห่งที่สอง คือ จ.บุรีรัมย์ เป็นอาคาร 3 ชั้น 498 ล้านบาท ครุภัณฑ์ ตกแต่ง 160 ล้านบาท และมีบ้านพักผู้อำนวยการ 3 ล้านบาท บ้านพักเจ้าหน้าที่ 20 ห้อง วงเงิน 58 ล้านบาท งานปรับผังภูมิทัศน์ 37 ล้านบาท เสาไฟโซลาร์เซล ราคาต้นละ 6 หมื่นบาท
“เพิ่มศูนย์ปฏิบัติการ แต่เครื่องบินเท่าเดิม จะเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างไร นอกจากนั้นกรมฝนหลวงขอทำแอพลิเคชั่นข้อมูลฝนหลวง 7.2 ล้านบาท และไซเบอร์ซีเคียวลิตี้ วงเงิน 65 ล้านบาท เหตุผลจำเป็นบอกว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานโจมตีเป็นหมื่นครั้งต่อเดือน ผมคาดการณ์ว่าเป็นไวรัส หรือมัลแวร์ทั่วไป เพราะผมไม่เข้าใจว่าขโมยจะแฮกข้อมูลของกรมฝนหลวงไปทำอะไร อีกทั้งไม่ใช่ข้อมูลลับ ขณะที่งบทำไซเบอร์ซิเคียวลิตี้หน่วยงานอื่น ใช้แค่ 4-5 ล้านบาท เท่านั้น ทั้งที่หน่วยงานอื่นสำคัญกว่ากรมฝนหลวง” นายจิรัฏฐ์ อภิปราย
หลังจากที่สส.อภิปรายแล้วเสร็จ และกมธ.เสียงข้างมากชี้แจงยืนยันการพิจารณาปรับงบประมาณเป็นไปตามความเหมาะสมแล้ว โดยนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ฐานะกมธ.เสียงข้างมาก ชี้แจงว่าเป็นการปรับงบตามความจำเป็นเพื่อดูแลเกษตรกร ส่วนกรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ามีการตั้งงบประมาณบางรายการที่สูงเกินจริงนั้น เป็นเพราะกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายเกษตรแปลงใหญ่เพื่อทำให้เกิดความแม่นยำและมั่นคง เพื่อให้ราคาของสินค้าเกษตรมีมูลค่าสูงได้
"กรมฝนหลวงที่ได้รับงบประมาณเพิ่มเติม เพราะเห็นใจ เนื่องจากเป็นหน่วยงานต้องแก้ไขปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ขอยืนยันตามมติกมธ.เสียงข้างมากที่พิจารณามาแล้ว" นายธีระชัย อภิปราย
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฎว่ามติที่ประชุมเห็นด้วยกับกมธ.เสียงข้างมากที่แก้ไข ด้วยมติ 251 เสียง ไม่เห็นด้วย 135 เสียง และ งดออกเสียง 44 เสียง







