'ภูมิธรรม' ไม่ห่วง ศาลรธน.ให้เพิ่มพยาน ฮั้ว สว. ขอไม่พูด หวั่น ถูกมองแทรกแซง

“ภูมิธรรม“ ไม่ห่วงศาลรธน.ให้เพิ่มพยานคดีฮั้ว สว. บอกยังไม่รู้ข้อกล่าวหาอยู่ตรงไหน แจงแค่เป็นประธานประชุม คณะกรรมการดีเอสไอ ขอไม่พูดเรื่องนี้อีก หวั่น ถูกมองแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยื่นบัญชีพยานเพิ่มเติมภายใน 15 วันคดี สว.ยื่นตรวจสอบแทรกแซงคดีฮั้ว สว.ของดีเอสไอว่า เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ตนเพิ่งทราบเมื่อวานนี้ได้ให้ฝ่ายกฎหมายดูแล ของตนไม่น่าจะมีหลักฐานอะไรมาก เรื่องที่ตนเกี่ยวข้องมีเพียงเรื่องเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการดีเอสไอ
เมื่อถามว่ามติของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางชุดที่ 26 ของ กกต.ที่เห็นควรดำเนินคดีผู้ถูกกล่าวหา 229 คนคดีฮั้ว สว.จะเป็นพยานหลักฐานชั้นดีที่จะชี้แจงใช่หรือไม่ เพราะมีเรื่องฮั้วเกิดขึ้นจริง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวให้ฝ่ายกฎหมายว่ากันไป ทุกอย่างตนได้ชี้แจงไปหมดแล้ว เมื่อให้เพิ่มพยานก็จะดูว่าสิ่งใดที่เป็นพยานที่เกี่ยวข้อง ฝ่ายกฎหมายเตรียมการแล้วเสร็จจะคุยกับตนอีกครั้ง ทั้งนี้ ไม่ได้เตรียมใครเป็นพยานเพิ่มเติม แต่ให้ฝ่ายกฎหมายดูตามความเป็นจริง
“ผมยังไม่รู้เลยว่าข้อกล่าวหาผมมันอยู่ที่ตรงไหน เรื่องคดีฮั้ว สว. ผมก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร เป็นเรื่อง สว.และดีเอสไอดำเนินการ“ นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนเกี่ยวข้องคือตนถูกร้องในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ เรียกประชุม ซึ่งในการประชุมครั้งนั้นมีผู้เสนอความเห็นว่ามันเหมาะ ไม่เหมาะในการทำคดี ก็มีการถกเถียงกัน ความเห็นต่างในที่ประชุมครึ่งต่อครึ่ง ตนเพียงแต่ยุติการตัดสินปัญหาวันนั้น ให้แต่ละฝ่ายไปช่วยพิจารณาทบทวนอีกครั้ง เพราะคุยไปเป็นชั่วโมงแล้วไม่มีข้อยุติ เรื่องนี้ไม่ใช่ยืดเวลา เนื่องจากมีปัญหาที่เรียกร้องกันมา ทำให้ส่วนหนึ่งเห็นว่าควรจะนำไปทบทวน และนำกลับมาพิจารณาใหม่ และจบภายในหนึ่งสัปดาห์เท่านั้นเอง และปิดการประชุมไปอย่างที่เคยชี้แจงไปแล้ว จากนั้นหนึ่งสัปดาห์ต่อมามีการประชุมและดำเนินการตามวาระ ยังสงสัยว่าข้อกล่าวหาที่ว่าไปบงการดีเอสไอ ตนเพิ่งเข้ากระทรวงวันแรก คือวันที่เป็นประธานการประชุม
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่ถูกกล่าวหาเพราะมีสิทธิ์กำกับดูแลในฐานะที่เป็นรองนายกฯ คุมกระทรวงยุติธรรมและดีเอสไอ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มองและว่าไปตามกฏหมาย ที่ปรึกษากฎหมายของตนก็ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงเท่านั้น ให้เป็นดุลยพินิจของศาลจะพิจารณา ห่วงกังวลอะไรไม่ห่วงทั้งนั้น เพราะไม่ได้ทำอะไร ก็เป็นการทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการดีเอสไอ
เมื่อถามว่าที่คณะอนุกรรมการ กกต.ชุดที่ 26 จะส่งมติให้ กกต.ชุดใหญ่พิจารณาจะส่งผลต่อสถานการณ์การเมืองอย่างไรในขณะนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบ ทาง กกต.ก็ว่ากันไป มันอยู่ในกระบวนการยุติธรรมแล้ว ตนไม่อยากตอบหรือแสดงความเห็นอะไร เพราะจะกลายเป็นว่าไปแทรกแซงอีก และดีเอสไอตนก็เป็นแค่ประธานคณะกรรมการ มีเรื่องเข้ามาก็ไปประชุมแค่นั้นเอง เรื่องนี้ขออนุญาตจบ ไม่พูดต่อ เพราะตนไม่ได้ไปเกี่ยวข้องอะไร ซึ่งตนได้ชี้แจงไปแล้ว หลักฐานอะไรที่จำเป็น ทนายจะบอกตนเอง ซึ่งตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้น้อยมาก ขออนุญาตไม่ต้องคุยเรื่องนี้อีกแล้ว เพราะตนไม่อยากให้แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและข้าราชการ
เมื่อถามถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และรมว.วัฒนธรรม ยื่นขอขยายเวลาทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอีก 15 วัน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นไปตามกฏหมายให้เวลาชี้แจง 15 วัน ซึ่งถ้าผู้ถูกกล่าวหาพร้อมชี้แจง ก็ชี้แจงได้เลย รวมถึงพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งคนที่อนุญาตให้ขยายเวลา คือศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรน่าสงสัย มันจบตามกระบวนการ ไม่มีอะไร รอให้ศาลตัดสิน
เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับน.ส.แพทองธารว่าศาลได้อนุญาตให้ขยายเวลาหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเลย






