ปชน.กังขา 'เพื่อไทย' ร้อนรน หลังพรรคส้มชูโหวตนายกฯใหม่ ยุบสภาฯ

สส.ปชน.กังขา 'เพื่อไทย' ดูร้อนรน หลังพรรคส้มประกาศจุดยืนชัด พร้อมโหวตนายกฯคนใหม่ แต่ต้องรับเงื่อนไขตั้ง ส.ส.ร.ร่าง รธน.ใหม่ ก่อนยุบสภาฯ จัดเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 2568 นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งข้อสังเกตถึงกรณีพรรคเพื่อไทยดูร้อนรน ภายหลังพรรค ปชน.ประกาศเงื่อนไขพร้อมโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดทางตั้ง ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก่อนยุบสภาฯ เลือกตั้งใหม่ ว่า งงมากแม่ พรรคประชาชนยังไม่บอกสักคำว่าโหวตใคร แต่เพื่อไทยร้อนรน ก่อนอื่นต้องย้ำว่า ไม่มีใครการันตีได้ว่าอนาคตของ “นายกแพทองธาร” จะเป็นอย่างไรต่อ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา คงมี 3 แนวทางที่เป็นไปได้ คือ 1. รอด เป็นนายกต่อไป 2. ไม่รอด พ้นจากตำแหน่งนายก 3. รอดแบบมีเงื่อนไข หรือหยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะตำแหน่งนายก แต่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมต่อไป
นายปิยรัฐ ระบุว่า เราต่างรู้ดีว่า “นิติสงคราม” ที่เพื่อไทยกำลังเผชิญอยู่นี้ เพื่อไทยเป็นผู้พาตัวเองมาถึงจุดนี้ ภายใต้ผู้นำที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า หาใช่เพราะฝ่ายค้านคือพรรคประชาชนไม่ แต่ทุกวันนี้ เห็นผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อย คอยชักแม่น้ำทั้งห้า พุ่งเป้าโจมตีมาที่พรรคประชาชน ไม่ว่าพรรคเราจะเสนอทางออกให้สังคม เสนอทางออกให้ประชาธิปไตยของไทยด้วยความหวังดีอย่างไรก็ไม่เป็นที่เข้าใจ และที่สำคัญ ข้อเสนอของเราไม่เคยแลกหรือเรียกร้องตำแหน่ง หรือเก้าอี้ในรัฐบาลเลยแม้แต่น้อย
"วันที่ผลักไสไล่ส่ง ภูมิใจไทยออกไป ทำให้ เขามาเป็นฝ่ายค้าน เสียงรัฐบาลก็ปริ่มน้ำ ผมถามว่า พรรคประชาชนผิดหรือ?? วันที่นายกพลาดจากการเจรจาทางโทรศัพท์กับฮุนเซนโดยไม่ระมัดระวัง จนนำไปสู่ศาลรัฐธรรมนูญ และปลุก “นิติสงคราม” ขึ้นมาอีกครั้ง ผมถามว่า พรรคประชาชนผิดหรือ?? และถ้าวันนี้ พรรคประชาชนเสนอทางออกว่า “ทางออกเดียวของประชาธิปไตยเวลานี้คือการยุบสภา” ในวันที่รัฐบาลเพื่อไทยยังมีอำนาจทำได้ ก่อนที่จะเกิดทางตัน และปลุกอสูรกายตัวต่อไปขึ้นมา เราก็ผิด??" นายปิยรัฐ ระบุ
นายปิยรัฐ ระบุอีกว่า ที่เราเสนอยุบสภาก็เพื่อยังคงยืนยันว่าประชาธิปไตยมีทางออกเสมอ และเวลานี้มันยังมีทางออก คือ สภาผู้แทนฯ พรรคประชาชนจึงเสนอ “รัฐบาลชั่วคราว” ด้วย “2 สัญญาประชาคม” และ “1 เงื่อนไขสำคัญ”
2 สัญญาประชาคม คือ
- ต้องประกาศเส้นตายว่าจะมีการยุบสภาภายในสิ้นปีนี้
- ยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าในช่วงเวลาที่เหลือ ได้แก่ เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยทำประชามติพร้อมการเลือกตั้ง แก้ไขสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ผ่านงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
1 เงื่อนไข คือ พรรคประชาชนจะยังคงเป็นฝ่ายค้าน จะไม่ขอรับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาล แต่พร้อมจะประคับประคองรัฐบาลให้ทำหน้าที่อย่างโปร่งใส และเดินตาม “สัญญาประชาคม” ที่ให้ไว้ หากไม่เป็นไปตามนั้น ฝ่ายค้านก็พร้อมใช้กลไกรัฐสภาเพื่อล้มรัฐบาลได้ทันที ทางออกที่พรรคเราเสนอนี้ ต้องขีดเส้นใต้ให้ชัดเจนว่า “เราเสนอทางสาธารณะอย่างเปิดเผย ไม่ได้ทำลับๆ ล่อๆ” และไม่ได้ระบุว่าต้องเป็นพรรคใดพรรคหนึ่ง
"แต่สิ่งที่ผมรับรู้กลับกลายเป็นว่า คนของเพื่อไทยหลายคนตั้งป้อมถล่มพรรคส้ม ทั้งที่เราก็ไม่ได้บอกว่าจะโหวตใคร ทำไมร้อนรน? หรือเพราะตัวเองรับเงื่อนไขไม่ได้ เลยด่าไว้ก่อน? แต่ถ้าผมจำไม่ผิด พรรคเพื่อไทยก็เคยเสนอ “การแก้รัฐธรรมนูญ” เป็นนโยบาย ดังนั้นจะติดใจในเงื่อนไขของเราทำไม ทั้งที่เรื่องราวทั้งหมดก็เพื่อไทยเป็นคนผูก แต่กลับแก้ไม่ได้ เราจึงเสนอทางแก้ให้ สรุปสุดท้าย กลายเป็นส้มผิด ส้มกระสันอำนาจ ใครไม่งง ผมงง!" นายปิยรัฐ ระบุ
ขณะที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรค ปชน. ระบุเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอของพรรคประชาชนในการทำให้การเมืองไม่ถึงทางตัน เรายินดีจะโหวตนายกให้กับพรรคที่รับข้อเสนอในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อทำประชามติพร้อมกันกับการเลือกตั้ง และยุบสภาเมื่อถึงเวลา ทั้งที่พรรคเพื่อไทยก็สามารถเป็นผู้ที่รับข้อเสนอนี้ได้เช่นกัน แต่พรรคเพื่อไทยกลับให้เครือข่ายปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของตัวเอง ดาหน้ากันออกมาโจมตีพรรคประชาชนว่าจะโหวตให้กับพรรคพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น เป็นอะไรมากป่าว ?







