สงคราม‘นายใหญ่VSครูใหญ่’ เลือกซ่อม‘ศรีสะเกษ’เขต 5 ศึกสางแค้น

สิ้น “อมรเทพ สมหมาย” สส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย สนามเมืองเลือกตั้งซ่อม เขต 5 ศรีสะเกษ ส่อแววเดือด  

ไม่ต่างจากสงครามระหว่าง “2 นาย” คือ “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่พรรคเพื่อไทย และ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย ที่กำลังเปิดฉากเกมแค้นเอาคืนกันอีกครั้ง

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) 1 ก.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.)เลือกตั้งซ่อม จ.ศรีสะเกษ เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่ตำแหน่งสส.ว่างลง ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 105 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 102

โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)คาดการณ์ว่าจะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 10 ส.ค.นี้

อย่างที่รู้กัน ภายใต้แรงแค้นหลัง “นายใหญ่” เปิดเกมแตกหัก “ครูใหญ่” ผลักภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน ย่อมส่งผลให้สนามเลือกตั้งซ่อมเขต 5 ศรีสะเกษ (อ.ขุนหาญ และอ.ภูสิงห์) ที่จะเกิดขึ้นในอีกราวๆ 1 เดือนข้างหน้า ไม่ต่างจากหนังม้วนเดิม วนลูปกลับไปเหมือนการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2566 

หากยังจำกันได้ ภายใต้เกมการเมืองที่เปิดตลาดดูดสส.กันในเวลานั้น ช่วงต้นปี 2565 “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้นำทัพเพื่อไทยเปิดปฏิบัติการ"ไล่หนูตีงูเห่า" ที่ศรีสะเกษ เป็นจังหวัดแรก ล็อกเป้า 3 อำเภอ คือ อุทุมพรพิสัย ราษีไศล และขุนหาญ ซึ่งเป็นฐานที่มั่น“บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” เปิดเกมเอาคืนบ้านใหญ่ หลังแปรพักต์ถอดเสื้อสีแดง ไปสวมเสื้อสีน้ำเงิน

ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น ปรากฎว่าเพื่อไทยสามารถชำระแค้นได้สำเร็จ “บ้านใหญ่ไตรสรณกุล” ที่หันไปสวมเสื้อภูมิใจไทยพ่ายเรียบ 

โดยเฉพาะเขต 5 "อมรเทพ" ที่เปลี่ยนเสื้อจากพรรคชาติไทยพัฒนา หันมาสวมเสื้อเพื่อไทย สามารถเอาชนะไปด้วยคะแนน 32,884 คะแนน คว่ำ “ธีระ ไตรสรณกุล” แชมป์เก่าจากภูมิใจไทย ที่ได้ 25,837 คะแนน

หลังการร่วมรัฐบาลผสมข้ามขั้ว ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย”และ “ภูมิใจไทย” ที่ปรากฎซีน “ชนช็อคมินต์” ปิดตำนานไล่หนูตีงูเห่า ในปี 2566 แต่ศรีสะเกษยังคงเป็นสมรภูมิที่ขับเคี่ยวชิงชัยระหว่าง “สีแดง” และ “สีน้ำเงิน” ในทุกระดับ ชนิดไม่มีใครยอมใคร

เห็นได้ชัด จากศึกชิง “นายก อบจ.” เมื่อเดือนก.พ.2568 ที่ผ่านมา บ้านใหญ่ “ไตรสรณกุล”แก้มือได้สำเร็จ โดยถล่มค่ายเพื่อไทยพ่ายยับแบบขาดลอย

โดยฝั่ง “นายกส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล แชมป์เก่า จากพรรคภูมิใจไทย รักษาแชมป์ไว้ได้ ด้วยคะแนน 345,467 ทิ้งห่าง “วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ” จากพรรคเพื่อไทย ที่ได้ 219,443 คะแนน กว่าแสนคะแนน 

จากความปราชัยครั้งนั้น นอกจากจะทำให้ “ทักษิณ” ซึ่งลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของเพื่อไทยหาเสียงด้วยตนเอง ต้องเก็บงำความแค้นไว้ในใจเป็นทุนเดิมแล้ว 

ยังมีช็อตที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เวลานั้นเป็นรองนายกฯและรมว.มหาดไทยในรัฐบาลแพทองธาร เดินทางไปที่บ้านใหญ่ “ไตรสรณกุล” ทันที หลังรู้ผล แถมยังโชว์ซีน “คืนปี๊บ” ระหว่าง “อนุทิน” และบ้านใหญ่ สื่อนัยว่า สามารถล้างตาด้วยการเอาคืนเพื่อไทยได้สำเร็จไม่ต้องเอาปี๊บคลุมหัวอีกต่อไป

 จุดนี้เองที่เพิ่มแรงแค้นในใจ“นายใหญ่”เพื่อไทย ที่มีอยู่เดิมให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ 

จากผลจากการเลือกตั้งนายกอบจ.ศรีสะเกษ รวมถึงจังหวัดอื่นๆ ซึ่งเกิดปรากฎการณ์พรรคสีน้ำเงินกวาดเก้าอี้นายกฯ มาได้ใกล้เคียงกับพรรคเพื่อไทยนี้เอง จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของ “หัวเชื้อ” ที่นำมาสู่การตัดสินใจของ “ทักษิณ” เปิดเกมแตกหัก ยึดคืนกระทรวงมหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย กลับมาอยู่ในการดูแลของพรรคเพื่อไทย เพื่อตัดวงจรสีน้ำเงินที่วางเครือข่ายในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า  

เป็นเช่นนี้ต้องจับตา สมรภูมิเลือกตั้งซ่อมเขต 5 ศรีสะเกษ ที่กำลังจะเปิดฉากในอีก 1 เดือนข้างหน้า

แถมเป็นห้วงที่ “เพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย”วนลูปกลับมาอยู่ในสถานะขั้วตรงข้ามทางการเมืองในรอบ 2 ปี ไม่ต่างจากเกมแค้นระหว่าง “2 นาย” หลังเปิดเกมแตกหัก ต่างฝ่ายต่างเก็บงำความแค้นรอวันเอาคืน 

ฉะนั้น ศึกเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ เขต 5 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีก 1 เดือนข้างหน้า จึงไม่ต่างกับสนาม“ชำระแค้น” ระหว่างแดง-น้ำเงิน เชื่อได้เลยว่า ต่างฝ่ายต่างงัดสารพัดกระบวนท่า ออกมาสู้กันอย่างดุเดือดแน่นอน!